โผล่อีก! หนุ่มเกาหลีใต้วัย 34 ปี หายตัวลึกลับในกัมพูชา หลังบอกจะไปทำงานหาเงินใช้หนี้ แจ้งสถานทูตเรื่องเงียบ

โผล่อีกเคส! หนุ่มเกาหลีใต้วัย 34 ปี หายตัวลึกลับในกัมพูชา ขาดการติดต่อ 2 วัน หลังขึ้นเครื่องไปยังกรุงพนมเปญ บอกกับครอบครัวว่าจะไปทำงานใช้หนี้ 2 – 3 สัปดาห์ พ่อแจ้งสถานทูตเกาหลีในกัมพูชา กลับได้คำตอบว่า “ให้เจ้าตัวมาแจ้งเรื่องเอง”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ทางการเกาหลีใต้กำลังดำเนินการสอบสวนกรณีการเสียชีวิตของนักศึกษาวัย 22 ปีในกัมพูชา ก็มีคดีใหม่เกิดขึ้นอีก โดยครั้งนี้เป็นชายวัย 34 ปี จากเมืองแดกู ที่หายตัวไปอย่างลึกลับในกัมพูชา โดยสถานีตำรวจดัลซอ ในเมืองแดกู เปิดเผยเมื่อวานนี้ (13 ต.ค.) ว่าครอบครัวของนายยัง (Yang) ได้เข้ามาแจ้งความคนหาย หลังจากที่นายยังขาดการติดต่อไปเมื่อ 2 วันก่อน

นายยังเดินทางออกจากเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยบอกกับครอบครัวว่าจะไปกัมพูชาประมาณ 2 – 3 สัปดาห์เพื่อหาเงินใช้หนี้ ก่อนขึ้นเครื่องไปยังกรุงพนมเปญ เขาได้ส่งรูปตั๋วเครื่องบินมาให้ครอบครัวดู และยังคงติดต่อกันตลอดในช่วงสองวันแรก

พ่อของยังบอกว่าลูกชายส่งข้อความมาบอกว่าเดินทางถึงที่พักแล้ว และจะไปออฟฟิศพรุ่งนี้ แต่แล้วเมื่อเวลาประมาณ 20:30 น. ของวันที่ 11 ตุลาคม นายยังได้ส่งข้อความมาบอกพ่อว่า “งานไม่ค่อยคืบหน้าเท่าไหร่ ผมทำงานอยู่กับคนจีน เดี๋ยวจะติดต่อกลับไปอีกทีนะ” และนับตั้งแต่นั้น ผู้เป็นพ่อก็ไม่ได้การติดต่อกลับจากลูกชายเลย

ผู้เป็นพ่อพยายามติดต่อหาลูกชายผ่านแอปกาเกาทอล์ก (KakaoTalk) ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ก็ยังเงียบ ด้วยความร้อนใจ จึงโทรศัพท์ไปหาสถานทูตเกาหลีในกัมพูชา แต่กลับได้รับคำตอบว่า ลูกชายของเขาต้องเป็นผู้แจ้งเรื่องด้วยตัวเอง ซึ่งข้อมูลล่าสุดบนเว็บไซต์ของสถานทูต ได้แนะนำให้เหยื่อจากขบวนการหลอกลวงไปทำงานหรือถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว ส่งรายละเอียดต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชันเทเลแกรม ไม่ว่าจะเป็น ตำแหน่งที่อยู่, ข้อมูลติดต่อ, รูปถ่ายอาคาร, สำเนาหนังสือเดินทาง, รูปถ่ายปัจจุบัน และวิดีโอสั้นๆ ที่ระบุว่าตนเองต้องการความช่วยเหลือ

ด้วยความรู้สึกหมดหนทาง พ่อของนายยังจึงเข้าแจ้งความคนหายกับตำรวจ ในช่วงเช้าของวันที่ 12 ตุลาคม เขากล่าวกับหนังสือพิมพ์ Hankook Ilbo (ฮันกุก อิลโบ) ว่า "ผมไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับลูกชายของผม ผมได้แต่หวังว่าเขาจะยังมีชีวิตอยู่และสามารถกลับบ้านได้"

เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งกล่าวว่า "กำลังดำเนินการตามขั้นตอนมาตรฐานเพื่อแจ้งไปยังกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง" แต่ปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม โดยอ้างว่าคดีกำลังอยู่ในระหว่างการสืบสวน