ต่างประเทศ

18 องค์กรภาคประชาสังคมกัมพูชา เตือนแรงงานเขมรทะลักกลับจากไทย เสี่ยงวิกฤตปากท้อง ภาวะตกงาน

9 ต.ค. 2568

239 views

องค์กรภาคประชาสังคม 18 แห่งในกัมพูชา ออกแถลงการณ์เตือนว่า อาจเกิดระเบิดเวลาขึ้น หลังแรงงานเกือบ 1 ล้านคน ทะลักกลับจากประเทศไทย โดยชี้ว่ารัฐบาลยังมีมาตรการรองรับคลื่นแรงงานไม่เพียงพอ ซึ่งอาจทำให้พวกเขาต้องเผชิญกับภาวะตกงาน หนี้สิ้นท่วมท้น และความอดอยากอย่างรุนแรง

คณะกรรมการแห่งชาติต่อต้านการค้ามนุษย์ของกัมพูชา (NCCT) รายงานว่า ณ วันที่ 30 กันยายน มีแรงงานเดินทางกลับจากไทยแล้วกว่า 886,550 คน ขณะที่ตัวเลขรวมนับตั้งแต่เหตุปะทะชายแดน เมื่อเดือนกรกฎาคม พุ่งสูงถึง 920,000 คน แรงงานจำนวนมากตัดสินใจกลับบ้านเพราะความกลัวและความไม่แน่นอน แต่สิ่งที่รออยู่คือความว่างเปล่า หลายครัวเรือนเผยว่า เงินออมที่เก็บมาได้ร่อยหรอลงจนหมดสิ้น และไม่สามารถหาแหล่งรายได้ใหม่ได้

รายงานจากองค์กร CENTRAL Cambodia เมื่อเดือนสิงหาคม ยังย้ำว่า แรงงานที่กลับมาในจังหวัดบันเตียเมียนเจย และพระตะบอง กว่า 70% กำลังอยู่ในภาวะขัดสนอย่างหนัก ขาดแคลนทั้งอาหารและงานทำ ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการจ้างงานและภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบางอยู่แล้ว

แม้กระทรวงแรงงานฯ ของกัมพูชา จะประกาศว่ามีตำแหน่งงานกว่า 190,000 ตำแหน่งรองรับ แต่กลุ่มภาคประชาสังคมชี้ให้เห็นถึงปัญหาใหญ่ 2 ประการ คือ ตำแหน่งงานไม่ตรงกับถิ่นที่อยู่ เพราะงานส่วนใหญ่กระจุกอยู่ในเขตเมือง แต่แรงงานส่วนใหญ่กลับไปอาศัยในพื้นที่ชนบทและชายแดนติดกับประเทศไทย และทักษะไม่ตรงกับความต้องการ เนื่องจากตำแหน่งงานที่เปิดรับ มักเป็นงานในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งไม่ตรงกับทักษะของแรงงานส่วนใหญ่ที่มาจากภาคก่อสร้างและเกษตรกรรม

โดยเฉพาะแรงงานหญิงที่เคยทำงานเป็นแม่บ้าน ผู้ดูแลผู้สูงอายุ หรือในโรงงานแปรรูปอาหารทะเล กำลังเผชิญความยากลำบากที่สุด เนื่องจากขาดทักษะที่ยืดหยุ่นซึ่งจะนำไปใช้กับงานประเภทอื่นได้ ทำให้มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกกีดกันออกจากตลาดแรงงาน และอาจถูกบีบให้กลับไปพึ่งพาช่องทางการย้ายถิ่นที่ไม่ปลอดภัยอีกครั้ง

อย่างไรก็ดี นายซุน เมซา โฆษกกระทรวงแรงงานฯ ยืนยันว่ารัฐบาลกำลังทำงานอย่างเต็มที่ โดยได้จัดตั้งจุดประสานงาน 11 แห่ง และมองว่าการกลับมาของแรงงานเป็นโอกาสทองในการแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานในประเทศ

นายซุน ย้ำว่า กัมพูชามีตำแหน่งงานกว่า 300,000 ตำแหน่งที่ต้องการคน โดยเฉพาะภาคก่อสร้าง 60,000 ตำแหน่ง และโรงงานต่างๆ อีก 84,000 คน

เขายังเสริมว่า กระทรวงได้จัดโครงการรณรงค์การจ้างงานในจังหวัดเป้าหมาย และมีแผนสร้างงานใหม่อีกกว่า 376,000 ตำแหน่ง ภายใต้ศูนย์พัฒนากัมพูชา พร้อมทั้งสนับสนุนให้นายจ้างรับและฝึกอบรมแรงงานที่ยังไม่มีทักษะ

แม้รัฐบาลจะแสดงความเชื่อมั่น แต่ 18 องค์กร ยังคงเรียกร้องให้รัฐบาล ขยายการคุ้มครองทางสังคมและสวัสดิการสุขภาพ ให้ครอบคลุมครัวเรือนแรงงานที่กลับประเทศ โดยเตือนว่าการตกงานแม้เพียงระยะสั้น อาจผลักแรงงานเข้าสู่ความยากจนรุนแรง

รัฐบาลควรขยายและเพิ่มเงินช่วยเหลือครัวเรือนที่มีแรงงานกลับจากต่างประเทศ พร้อมจัดการสนับสนุนด้านความมั่นคงทางอาหารชั่วคราว เช่น การแจกข้าวสาร อาหารหลัก รวมถึงเมล็ดพันธุ์และอุปกรณ์เกษตรที่จำเป็น

นอกจากนี้ ทางองค์กรภาคประชาสังคัม ยังเสนอให้มีโครงการจ้างงานชั่วคราวแบบโควตาพิเศษ เพื่อจูงใจภาคเอกชนในสาขาที่ใช้แรงงานมาก เช่น ก่อสร้าง แปรรูปเกษตร โลจิสติกส์ และซ่อมบำรุงโครงสร้างพื้นฐาน ให้รับแรงงานกลับประเทศเข้าทำงาน

สำหรับแรงงานที่ไม่มีทักษะตรงตลาด ควรจัดเงินช่วยเหลือขนาดเล็ก หรือทุนอบรมระยะสั้น 6–8 สัปดาห์ เพื่อฝึกทักษะตามความต้องการของตลาดแรงงาน

องค์กรยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของแรงงาน โดยเสนอให้มีการพักชำระหนี้ชั่วคราว การรีไฟแนนซ์ดอกเบี้ยต่ำ หรือการให้เงินช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มที่มีหนี้ครัวเรือนสูง

กลุ่มองค์กร ปิดท้ายแถลงการณ์ด้วยข้อความที่หนักแน่นว่า "นี่คือความท้าทายครั้งใหญ่ที่ต้องการการลงมือทำอย่างจริงจังจากรัฐบาล การนิ่งเฉยไม่ใช่ทางเลือก" พร้อมย้ำว่าภาคเอกชนและภาคประชาสังคม พร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ เพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้

คุณอาจสนใจ

Related News