คลื่นคนรุ่นใหม่หนุน “อดีตแรปเปอร์” เป็นนายกฯ คนใหม่ของเนปาล

นายบาเลนดรา ชาห์ นายกเทศมนตรีกรุงกาฐมาณฑุ วัย 35 ปี อดีตแรปเปอร์ เจ้าของเพลงดังวิจารณ์สังคมที่มีภาพลักษณ์สุดคูลด้วยเบลเซอร์และแว่นกันแดดได้กลายเป็นความหวังของคนรุ่นใหม่ พร้อมใจกันผลักดันให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศในยามวิกฤต

หลังจากเหตุการณ์ประท้วงนองเลือดบีบให้นายกรัฐมนตรี เค.พี. ชาร์มา โอลี วัย 73 ปี ต้องลาออกจากตำแหน่ง กลุ่มคนเจน Z ที่เป็นผู้นำการประท้วงก็ได้ออกมาส่งสัญญาณว่า พวกเขาต้องการผู้นำที่เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ และได้เสนอชื่อนายบาเลนดรา ชาห์ ขึ้นมา

ในช่วงที่เกิดความโกลาหล เขาใช้อินสตาแกรม ที่มีผู้ติดตามกว่า 8 แสนคน เป็นกระบอกเสียงสนับสนุนผู้ประท้วงอย่างเปิดเผย ถึงขั้นเรียกอดีตนายกฯ ว่าเป็น "ผู้ก่อการร้าย" ที่ไม่เข้าใจหัวอกคนหนุ่มสาว

ล่าสุด กลุ่มผู้ประท้วงได้ร่างแผนจัดตั้ง "รัฐบาลเฉพาะกาล" และเสนอชื่อบาเลนดราเป็นหนึ่งในแกนนำคนสำคัญ แม้เจ้าตัวจะยังสงวนท่าที แต่ดูเหมือนว่ากระแสเรียกร้องให้แร็ปเปอร์คนนี้ก้าวขึ้นมารับบทบาทผู้นำชาติจะดังกระหึ่มเกินกว่าที่ใครจะต้านทานได้

ชาวเนปาลบางคนได้ออกมาโพสต์ข้อความลงบนเอ็กซ์ เรียกร้องให้บาเลนดราลงชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ขณะที่อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกาและผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐธรรมนูญกล่าวว่า ชาห์ควรเป็นหนึ่งในตัวแทนของคนเจน Z ที่เข้าไปเจรจากับประธานาธิบดีราม จันทรา เปาเดล เพื่อกำหนดทิศทางต่อไปของประเทศ

บาเลนดราไม่ใช่นักการเมืองในแบบที่ใครคุ้นเคย เขาเป็นวิศวกรโครงสร้าง (structural engineer) ที่ผันตัวมาเป็นแร็ปเปอร์ และได้ปล่อยผลงานเพลงที่มีเนื้อหาวิจารณ์ปัญหาการคอร์รัปชัน ความเลื่อมล้ำในสังคม และความล้มเหลวรัฐบาล ชื่อว่า “บาลีดาน (Balidan) หรือ “การเสียสละ” ออกมาในปี 2563 และปัจจุบัน มียอดวิวบนยูทูปกว่า 11 ล้านครั้ง ก่อนจะสร้างปรากฏการณ์ช็อกวงการด้วยการชนะเลือกตั้งนายกเทศมนตรีในฐานะผู้สมัครอิสระ

บาเลนดรา เกิดในปี 2533 ที่กรุงกาฐมาณฑุ จบการศึกษาปริญญาตรีด้านวิศวกรรมโยธาในเนปาล และจบปริญญาโทด้านวิศวกรรมโครงสร้างในอินเดีย เคยถูกจัดอันดับจากนิตยสาร Time ให้เป็น 1 ใน 100 ผู้นำดาวรุ่งแห่งปี 2566 ด้วย

ด้านนักวิเคราะห์ระบุว่า การดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีกรุงกาฐมาณฑุของนายบาเลนดรานั้นโดดเด่นมาก จากผลงานการต่อต้านการทุจริต ปฏิรูปเมือง และมีตัวตนที่แข็งแกร่งบนสื่อโซเชียล เขาได้ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานให้กับคนเดินเท้า ปราบปรามการเลี่ยงภาษีของโรงเรียนเอกชน และผลักดันให้มีการกำกับดูแลการศึกษาของรัฐที่ดีขึ้น