ต่างประเทศ

“โดนัลด์ ทรัมป์” สั่งถอนสหรัฐฯ จาก “ยูเนสโก” รอบ 2 ชี้เป็นองค์กร “ตื่นรู้-สร้างความแตกแยก”

โดย JitrarutP

23 ก.ค. 2568

174 views

ประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” ของสหรัฐอเมริกาตัดสินใจนำสหรัฐฯ ถอนตัวออกจาก “ยูเนสโก”  เป็นครั้งที่สอง โดยให้เหตุผลว่าเป็นองค์กร “ตื่นรู้-สร้างความแตกแยก” ซึ่งขัดต่อสามัญสำนึกของชาวอเมริกัน ตอกย้ำนโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน”

ทำเนียบขาวได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า การถอนตัวจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการในช่วงสิ้นปีหน้า โดย แอนนา เคลลี โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า "ยูเนสโกให้การสนับสนุนแนวคิดการตื่นรู้และสร้างความแตกแยกทางวัฒนธรรมและสังคม ซึ่งไม่สอดคล้องกับนโยบายสามัญสำนึกของชาวอเมริกัน"

ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ชี้เป้าไปที่ประเด็นที่ละเอียดอ่อนยิ่งกว่า โดยกล่าวหายูเนสโกว่าสนับสนุน "อุดมการณ์โลกาภิวัตน์" และที่สำคัญคือ การยอมรับปาเลสไตน์เข้าเป็นสมาชิกเต็มรูปแบบ ซึ่งสหรัฐฯ มองว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดการกล่าวหาและโจมตีอิสราเอล ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ มากขึ้น

การตัดสินใจของทรัมป์ครั้งนี้ได้รับการตอบรับที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงจากนานาชาติ โดยออเดรย์ อาซูเลย์ (Audrey Azoulay) ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การยูเนสโกกล่าว่าแม้จะรู้สึกเสียใจ แต่ก็เป็นเรื่องที่คาดการณ์ไว้แล้วและได้เตรียมการรับมือไว้ โดยยืนยันว่าการถอนตัวของสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบต่อโครงการต่างๆ เพียงเล็กน้อย เนื่องจากงบประมาณจากสหรัฐฯ คิดเป็นเพียง 8% ของทั้งหมด และทางองค์กรได้กระจายแหล่งเงินทุนไปแล้ว

ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ได้โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม X สวนกลับว่าฝรั่งเศสจะให้การสนับสนุนยูเนสโก ผู้พิทักษ์มรดกโลกอย่างไม่ลดละ และบอกว่าการกระทำของสหรัฐฯ จะไม่ทำให้ความมุ่งมั่นของฝรั่งเศสที่มีต่อยูเนสโกลดน้อยลง

ในทางตรงกันข้าม อิสราเอล ได้ออกมาแสดงการสนับสนุนการตัดสินใจของทรัมป์อย่างเต็มที่ โดย นายแดนนี่ ดานอน เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติ กล่าวหายูเนสโกว่ามีอคติต่ออิสราเอลมาโดยตลอด ขณะที่ นายกิเดียน ซาอาร์ รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล ได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลสหรัฐฯ ที่แสดงความเป็นผู้นำและยืนหยัดเคียงข้างอิสราเอล และกล่าวว่าการกีดกันอิสราเอลและการนำการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องของประเทศสมาชิกบางประเทศจะต้องยุติลง ไม่ว่าจะเป็นในยูเนสโกหรือองค์กรอื่นๆ ของสหประชาชาติ

ทั้งนี้ องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก (UNESCO) เป็นหนึ่งในองค์กรระหว่างประเทศที่ทรัมป์ถอนตัวในช่วงดำรงตำแหน่งสมัยแรก เช่นเดียวกับองค์การอนามัยโลก, ข้อตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ, และคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ และในวาระที่สอง เขาก็ได้นำมาตรการเหล่านี้กลับมาใช้อีกครั้ง

ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และยูเนสโกเต็มไปด้วยความขัดแย้งมาอย่างยาวนาน แม้สหรัฐฯ จะเป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2488 แต่ก็ได้ถอนตัวครั้งแรกในปี พ.ศ. 2527 เพื่อประท้วงข้อกล่าวหาเรื่องการบริหารจัดการเงินที่ผิดพลาดและอคติต่อต้านสหรัฐฯ ในช่วงสงครามเย็น ก่อนจะกลับเข้ามาเป็นสมาชิกอีกครั้งในปี พ.ศ. 2546 สมัยประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช

อย่างไรก็ตาม ในปี 2554 สมัยประธานาธิบดีบารัค โอบามา สหรัฐฯ ได้ประกาศว่าจะระงับการให้เงินทุนสนับสนุนทั้งหมดแก่ยูเนสโก หลังจากยูเนสโกลงมติรับปาเลสไตน์เป็นสมาชิก

ทั้งนี้ สหรัฐอเมริกามีสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกถึง 26 แห่ง เช่น อุทยานแห่งชาติแกรนด์แคนยอน และ อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ

คุณอาจสนใจ

Related News