ต่างประเทศ

กัมพูชาตีฆ้องและกลอง ฉลองยูเนสโกขึ้นทะเบียน 3 สถานที่ ทรมานคนยุคเขมรแดง เป็นมรดกโลก

โดย nutda_t

13 ก.ค. 2568

5.6K views

13 ก.ค. 68 กระทรวงและหน่วยงานต่างๆ ของกัมพูชา ร่วมกันตีฆ้องและกลอง พร้อมกันทั่วประเทศ เมื่อเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต หลังจากองค์การยูเนสโก ประกาศขึ้นทะเบียน 3 สถานที่ทรมานคนในยุคเขมรแดงเป็นมรดกโลก

สำหรับสถานที่ 3 แห่ง ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกจากองค์การยูเนสโก ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยที่ 47 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ประกอบด้วยคุกตวลสเลง , เรือนจำ M-13, และทุ่งสังหาร ซึ่งรัฐบาลกัมพูชาเรียก 3 สถานที่แห่งนี้ว่า “แหล่งอนุสรณ์สถานแห่งความทรงจำของกัมพูชา : จากศูนย์กลางแห่งการกดขี่สู่สถานที่แห่งสันติภาพและการรำลึก (Cambodian Memorial Sites: From Centres of Repression to Places of Peace and Reflection)”

การขึ้นทะเบียนในครั้งนี้เกิดขึ้นตรงกับวาระครบรอบ 50 ปี ของการก้าวขึ้นสู่อาจของพรรคคอมมิวนิสต์เขมรแดง ที่เป็นต้นเหตุให้ชาวกัมพูชาเสียชีวิตไปประมาณ 1.7 ล้านคน จากความอดอยาก การทรมาน และการสังหารหมู่ ตลอดช่วงเวลา 4 ปีแห่งความรุนแรง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2518 ถึง 2522 ก่อนที่จะสิ้นสุดลงด้วยการรุกรานจากเวียดนาม

ด้วยเหตุนี้ นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตของกัมพูชา จึงได้ประกาศสั่งการให้กระทรวง หน่วยงาน รวมถึงประชาชนทั่วไป ร่วมกันตีฆ้องและกลองทั่วประเทศ ในเวลา 07.00 น. วันนี้ เพื่อเฉลิมฉลองให้กับการขึ้นทะเบียนของยูเนสโกในครั้งนี้

นายกฯ ฮุน มาเนต กล่าวว่า “ขอให้การขึ้นทะเบียนครั้งนี้ เป็นเครื่องเตือนใจอันยั่งยืนว่า สันติภาพเป็นสิ่งที่ต้องปกป้องไว้เสมอ จากหน้าประวัติศาสตร์ที่มืดมนที่สุด เราสามารถดึงความเข้มแข็งออกมา เพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าสำหรับมวลมนุษยชาติได้"

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังเรียกร้องให้ประชาชนชาวกัมพูชาทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ในวัยใด มีภูมิหลัง อาชีพ หรือสถานะทางสังคมใดก็ตาม ร่วมกันวางดอกไม้และแสดงความเคารพต่อดวงวิญญาณของเหยื่อในระบอบเขมรแดง ณ แหล่งอนุสรณ์สถานแห่งความทรงจำของกัมพูชา ตามกำลังและความสะดวกของแต่ละคน ในวันที่ 11 กรกฎาคมของทุกปี

ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา บรรดากระทรวงและหน่วยงานของกัมพูชา ก็ออกมาตีกลองและฆ้อง ตามคำสั่งของนายกฯ ฮุน มาเนต เช่น ที่กระทรวงกลาโหม นายเตีย เซ็ยฮา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชา ได้ทำพิธีที่ด้านหน้ากระทรวงฯ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงเข้าร่วมหลายราย

เช่นเดียวกันกับที่กระทรวงสารสนเทศของกัมพูชา นายเนธ พักตรา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูงและข้าราชการประจำกระทรวง ทำพิธีลั่นกลองเฉลิมฉลองในโอกาสสำคัญนี้

ส่วนที่จังหวัดเสียมราฐ บรรดาวัดและโรงเรียน ก็ร่วมกันจัดพิธีตีฆ้องและกลอง ให้กับการขึ้นทะเบียนมรดกขององค์การยูเนสโกเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้  2 ใน 3 สถานที่ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ตั้งอยู่ในกรุงพนมเปญ เมืองหลวงของประเทศ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตวลสเลง และทุ่งสังหารเจืองเอ็ก

ตวลสเลง คืออดีตโรงเรียนมัธยม ที่ถูกดัดแปลงให้เป็นเรือนจำอันน่าสะพรึงกลัว ที่รู้จักกันในชื่อ S-21 ซึ่งคาดว่ามีผู้คนราว 15,000 คนถูกคุมขังและทรมานที่นี่

ปัจจุบัน สถานที่แห่งนี้เป็นพื้นที่สำหรับการรำลึกและให้การศึกษา เป็นที่จัดแสดงภาพถ่ายหน้าตรงขาว-ดำของเหยื่อจำนวนมาก รวมถึงเก็บรักษาอุปกรณ์ที่ผู้คุมยุคเขมรแดงใช้ทรมานผู้คน

ส่วนทุ่งสังหารเจืองเอ็ก เป็นสถานที่ที่นักโทษจากคุกตวลสเลงถูกนำมาประหารชีวิตทุกคืน ตามเอกสารที่รัฐบาลกัมพูชายื่นต่อยูเนสโก ระบุว่ามีการขุดพบร่างผู้เสียชีวิตกว่า 6,000 ร่างจากหลุมศพหมู่ในบริเวณดังกล่าว

ส่วนสถานที่อีกแห่งที่ได้รับการขึ้นทะเบียนคือ เรือนจำ M-13 ตั้งอยู่ในพื้นที่ชนบทของจังหวัดกำปงชนังทางตอนกลางของประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในเรือนจำที่สำคัญที่สุดในยุคแรกของเขมรแดง ที่ซึ่งเหล่าแกนนำได้ "คิดค้นและทดสอบวิธีการสอบสวน ทรมาน และสังหารในรูปแบบต่าง ๆ" แต่ปัจจุบันเหลือเพียงพื้นที่รกร้างว่างเปล่า

คุณอาจสนใจ

Related News