เกษตรกรเกาหลีใต้โอด! วอนรัฐบาลหยุดปราบปราม “ผีน้อย” หวั่นเก็บเกี่ยวผลผลิตไม่ทัน

กลุ่มเกษตรกรเกาหลีใต้วอนรัฐบาลยุติมาตรการปราบปราม “ผีน้อย” หวั่นกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตร ในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยว โดยเฉพาะกระเทียมซึ่งเป็นสินค้าเกษตรหลัก หากไม่มีคนงานเก็บเกี่ยวทันเวลา

เว็บไซต์ข่าว Korea Times ของเกาหลีใต้รายงานว่า รัฐบาลเกาหลีใต้เปิดฉากปฏิบัติการกวาดล้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายครั้งใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา แม้เป้าหมายหลักคือกลุ่มอาชญากรและผู้ที่คุกคามความมั่นคง แต่ผลกระทบกลับตกหนักไปยังเกษตรกรที่พึ่งพาแรงงานข้ามชาติเป็นหลัก

นายซอง โบ-คยอง ตัวแทนเกษตรกรในชางนยอง จังหวัดคยองซังใต้ แหล่งผลิตกระเทียมอันดับหนึ่งของประเทศถึงกับต้องตั้งคณะกรรมการฉุกเฉินขึ้นมา เพื่อเรียกร้องให้ภาครัฐทบทวนมาตรการดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่าเกษตรกรหลายคนบอกว่าชีวิตของพวกเขากำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย เพราะหาคนงานไม่ได้เลย หลังเริ่มมีการปราบปราม และหากพวกเขาเก็บเกี่ยวกระเทียมไม่ทันเวลา ผลผลิตในปีนี้จะได้รับความเสียหายหนัก

สถานการณ์ในชางนยองเป็นเพียงภาพสะท้อนปัญหาที่ใหญ่กว่านั้น เสียงร้องทุกข์จากเกษตรกรดังระงมไปทั่วประเทศ พวกเขาต่างประสบชะตากรรมเดียวกัน คือ การขาดแคลนแรงงานจนไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ทันท่วงที

เกษตรกรหลายรายยอมรับว่าจำเป็นต้องจ้างแรงงานที่ไม่มีเอกสารเพราะหาแรงงานถูกกฎหมายไม่ได้จริงๆ นายซองกล่าวว่า พอมีคนงานโดนจับ ชาวต่างชาติที่เหลือก็หายหน้าไปหมด พวกเขาไม่รู้หรอกว่าใครถูกกฎหมายใครผิดกฎหมาย แต่ตอนนี้ พวกเขาไม่มีคนงานให้เลือกแล้ว

แรงกดดันจากเกษตรกรทำให้สภาเมืองชางนยองมีมติเรียกร้องให้กระทรวงยุติธรรมระงับการปราบปรามในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว และหันมาใช้แนวทางที่ยืดหยุ่นมากขึ้น และไม่ใช่แค่ชางนยองเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายที่ทั่วประเทศที่ออกมาเรียกร้องแบบเดียวกัน

นายปาร์ค จอง-ฮยอน นายกเทศมนตรีเมืองพูยอ จังหวัดชุงชองใต้ได้ออกมาคัดค้านการปราบปรามอย่างเปิดเผย เขากล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า มันควรมีวิธีการที่ยืดหยุ่นมากกว่านี้ในการจัดการกับแรงงานที่ไม่มีเอกสาร

นายปาร์คย้ำว่าวิธีการดังกล่าวของรัฐบาลไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงที่แรงงานต่างด้าวกว่าครึ่งในพื้นที่เป็นแรงงานผิดกฎหมาย พร้อมเสนอแนวทาง “ระบบรายงานตนเอง” เพื่อให้แรงงานผิดกฎหมายแสดงตัวโดยสมัครใจแลกกับการไม่ถูกจับกุม

แม้กระทรวงยุติธรรมของเกาหลีใต้จะอ้างว่าได้จับกุมแรงงานผิดกฎหมายไปแล้วกว่า 5,000 คนในเดือนเมษายน และกว่า 17,000 คนในช่วงสี่เดือนแรกของปี แต่ล่าสุดก็ยอมรับว่าได้ลดระดับความเข้มข้นของการปราบปรามลงบ้างแล้ว หลังได้รับเสียงร้องเรียนจากเกษตรกรจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม การปราบปรามครั้งนี้ยังจุดประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชน เมื่อนักเคลื่อนไหวกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุในการจับกุมทำให้แรงงานได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ดังเช่นกรณีหญิงชาวเอธิโอเปียที่บาดเจ็บสาหัสขณะพยายามหลบหนีการจับกุม เมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา

ผู้เชี่ยวชาญมองว่า ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคเกษตรของเกาหลีใต้จะยังคงเป็นปัญหาเรื้อรัง หากไม่มีการปฏิรูประบบการจัดการแรงงานข้ามชาติอย่างจริงจัง