ต่างประเทศ

ประชากรจีนลดลง 3 ปีติด มีลูกค้าใช้จ่ายสูง เศรษฐกิจชะลอตัว คนไม่กล้าแต่งงาน

โดย JitrarutP

17 ม.ค. 2568

106 views

ประชากรจีนลดลงเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน เนื่องจากมีลูกต้องค่าใช้จ่ายที่สูง รวมถึงความไม่แน่นอนของงาน และเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้ชาวจีนจำนวนมากไม่กล้าแต่งงานและมีครอบครัว ผู้เชี่ยวชาญเตือนจำนวนประชากรของจีนมีแนวโน้มจะลดลงเรื่อยๆ

สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเผยว่า ปี 2567 จำนวนประชากรลดลง 1,390,000 คน ทำให้จำนวนประชากรในปี 2567 ของจีนอยู่ที่ 1 พัน 408 ล้านคน เทียบกับจำนวนประชากรจีนเมื่อปี 2566 อยู่ที่ 1,409 ล้านคน ข้อมูลที่เปิดเผยมาในวันนี้สร้างความวิตกกังวลว่า เศรษฐกิจประเทศยักษ์ใหญ่อันดับสองของโลกจะประสบปัญหา เนื่องจากจำนวนแรงงานและผู้บริโภคลดลง ในขณะที่ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการดูแลผู้สูงอายุและสวัสดิการที่เกี่ยวกับการเกษียณอายุเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรัฐบาลท้องถิ่นที่ปัจจุบันมีภาระหนี้สินอยู่แล้ว

จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติยังเปิดเผยด้วยว่า จำนวนการเกิดใหม่ของประชากรจีนในปี 2567 อยู่ที่ 9,540,000 คน ถ้าเทียบกับปี 2566 ที่มีคนเกิดใหม่ 9,020,000 คน โดยอัตราการเกิดใหม่ของประชากรปี 2567 คือ 6.77 คน ต่อประชากร 1,000 คน ขณะที่อัตราเกิดใหม่ปี 2566 คือ 6.39 ต่อประชากร 1,000 คน ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตปี 2567 คือ 10.9 ล้านคน และจำนวนผู้เสียชีวิตปี 2566 คือ 11.1 ล้านคน

อัตราการเกิดของจีนลดลงมาหลายทศวรรษแล้ว เป็นผลมาจากนโยบายลูกคนเดียวของจีนที่บังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2523 จนถึงปี 2558 รวมถึงการขยายตัวของสังคมเมืองก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ภาวะเช่นนี้เกิดขึ้นเช่นเดียวกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ โดยชาวจีนจำนวนมากย้ายออกจากฟาร์มชนบนไปใช้ชีวิตในเมือง ซึ่งการมีลูกก็จะต้องมีค่าใช้จ่ายที่สูง ค่าใช้จ่ายในการดูแลและการศึกษาของเด็ก ที่ต้องใช้ค่าใช้จ่ายที่สูง รวมถึงความไม่แน่นอนของงานและเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้ชาวจีนจำนวนมากไม่กล้าแต่งงานและมีครอบครัว

นักประชากรศาสตร์กล่าวว่า การเลือกปฏิบัติเรื่องเพศ และความคาดหวังแบบดั้งเดิมที่ผู้หญิงต้องดูแลบ้านทำให้การมีลูกและครอบครัวเป็นเรื่องที่ต้องคิดหนัก

นักประชากรศาสตร์ยังกล่าวด้วยว่า เนื่องด้วยการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลายคนเลื่อนการแต่งงานออกไป ทำให้ตัวเลขการแต่งงานในปี 2566 เพิ่มขึ้นจากปกติ 12.4 เปอร์เซ็นต์ จึงทำให้อัตราการเกิดในปี 2567 เพิ่มขึ้นมากกว่า ปี 2566 แต่นักประชากรศาสตร์คาดว่า อัตราการเกิดจะกลับไปลดลงอีกในปีนี้ (2568)

ปีที่แล้ว รัฐบาลจีนพยายามนำมาตรการกระตุ้นต่างๆเพื่อเพิ่มอัตราการเกิด ตั้งแต่การเรียกร้องให้บรรดาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยเพิ่มหลักสูตรที่มีชือว่า "love education" เพื่อเน้นย้ำมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการแต่งงาน ความรัก การเจริญพันธุ์ และครอบครัว และการแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการร่วมกันทั้งรัฐบาลท้องถิ่นและระดับประเทศ รวมไปถึงการจัดสรรทรัพยากรทุกอย่างแก้ไขวิกฤตประชากรลดลง และการรณรงค์ให้ประชาชนมีบุตรและแต่งงานในวัยที่เหมาะสม

รายงานยังระบุว่า จำนวนสตรีวัยเจริญพันธุ์ชาวจีน ซึ่งกำหนดโดยสหประชาชาติว่ามีอายุระหว่าง 15 ถึง 49 ปี คาดว่า จะลดลงมากกว่า 2 ใน 3 เหลือไม่ถึง 100 ล้านคนภายในสิ้นศตวรรษนี้ และคาดว่า ประชากรวัยเกษียณ ซึ่งมีอายุ 60 ปีขึ้นไป จะเพิ่มขึ้นมากกว่า 400 ล้านคน ภายในปี 2578 จากปัจจุบันที่มีอยู่ประมาณ 280 ล้านคน

สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติจีน (NCA) ระบุว่า เงินทุนของระบบบำนาญจะหมดลงภายในปี 2578 ขณะที่ประชากรจีน ที่มีอายุ 60 ปี มีจำนวนมากถึง 310 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 22 ของประชากรทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่มีอยู่ที่ 296 ล้านคน

นอกจากนี้มีแนวโน้มการขยายตัวของสังคมเมืองยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยประชากรในเขตเมืองจะเพิ่มขึ้น 10.8 ล้านคน เป็น 943 ล้านคน ในขณะที่ประชากรในเขตชนบทลดลง 12 ล้านคน เหลือ 464 ล้านคน

คุณอาจสนใจ

Related News