ต่างประเทศ

เปิดไทม์ไลน์ ปธน.เกาหลีใต้ ประกาศ ‘กฎอัยการศึก’ โกลาหลทั่วประเทศ ก่อนสภาโหวตเป็นโมฆะ

โดย petchpawee_k

4 ธ.ค. 2567

418 views

ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ประกาศกฎอัยการศึก ก่อนเจอสภาขวางโหวตเป็นโมฆะ มึนงงโกลาหลไปทั่วประเทศ

วานนี้ ( 3 ธ.ค.67) เกาหลีใต้เผชิญกับเหตุการณ์ทางการเมืองที่ตึงเครียดที่สุดครั้งหนึ่งในช่วงหลายสิบปี  เมื่อประธานาธิบดี ยุน ซอก ยอล ได้ประกาศกฎอัยการศึกฉุกเฉิน โดยอ้างถึง "กองกำลังต่อต้านรัฐที่วางแผนก่อกบฏ" ก่อวิกฤตขึ้นอย่างตึงเครียดเป็นเวลา 157 นาที ก่อนที่สมาชิกรัฐสภาจะลงมติยกเลิกกฎอัยการศึก โดยมีรายละเอียด ดังนี้

เวลา 22:23 น. ประธานาธิบดียุน ประกาศกฎอัยการศึกฉุกเฉินในการกล่าวสุนทรพจน์ทางโทรทัศน์ สร้างความประหลาดใจไปทั่วประเทศ และตกอยู่ในความโกลาหล

โดยประกาศกฎอัยการศึกฉบับที่1 ระบุว่า เพื่อปกป้องประชาธิปไตย และรักษาความปลอดภัยของประชาชนจากภัยคุกคามของการโค่นล้มระบบเกาหลี โดยกองกำลังต่อต้านรัฐที่แฝงตัวอยู่ภายในสาธารณรัฐเกาหลี จึงได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วทั้งสาธารณรัฐเกาหลี ณ วันที่ 3 ธันวาคม 2024 เวลา 23:00 น. ดังนี้

1. ระงับกิจกรรมของรัฐสภา สภาท้องถิ่น พรรคการเมือง สมาคมการเมือง และห้ามการชุมนุม การเดินขบวนประท้วง และกิจกรรมทางการเมืองอื่น ๆ

2. ห้ามการกระทำใดๆ ที่ปฏิเสธระบบประชาธิปไตยเสรีนิยม หรือต่อต้านการปกครอง ห้ามเผยแพร่ข่าวสาร ที่บิดเบือนความคิดเห็นของประชาชน และการโฆษณาชวนเชื่อที่เป็นเท็จ

3. ให้สื่อและสิ่งพิมพ์ทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมกฎอัยการศึก

4. ห้ามหยุดงาน การคว่ำบาตร และการชุมนุมที่สร้างความวุ่นวายในสังคม

5. ให้บุคลากรทางการแพทย์ทั้งหมด รวมถึงผู้เชี่ยวชาญ ที่กำลังหยุดงานหรือละทิ้งหน้าที่ จะต้องกลับไปทำงานภายใน48 ชั่วโมง และปฏิบัติหน้าที่ให้ครบถ้วน และผู้ฝ่าฝืนจะถูกจัดการโดยกฎอัยการศึก

6. จะมีมาตรการเพื่อลดความไม่สะดวกในชีวิตประจำวันของประชาชน ยกเว้นกองกำลังต่อต้านรัฐ และกองกำลังก่อการร้ายอื่นๆ

โดย ผู้ที่ฝ่าฝืนประกาศข้างต้น จะถูกจับกุม คุมขัง และตรวจค้นโดยไม่ต้องมีหมายตามกฎอัยการศึกแห่งสาธารณรัฐเกาหลี และจะถูกลงโทษจากกกฎอัยการศึก การประกาศกฎอัยการศึกเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในเกาหลียุคใหม่ สถานการณ์เช่นนี้เคยขึ้นครั้งสุดท้ายเมื่อ44 ปีก่อนในยุคของอดีตประธานาธิบดีชุน ดูฮวาน ซึ่งเป็นรัฐบาลเผด็จการ

คาดว่าประธานาธิบดียุน ซ็อกยอน ใช้มาตรการนี้ หลังจากเผชิญกับความยุ่งยากทางการเมือง เพราะพรรคฝ่ายค้านมีเสียงข้างมากในรัฐสภา และอาจจะขัดขวางการผ่านร่างกฎหมายงบประมาณ ซึ่งจะทำให้รัฐบาลเป็นอัมพาต โดยก่อนหน้านี้ ภรรยาของประธานาธิบดียุนซ็อกยอน ก็ถูกกล่าวหาว่ารับสินบน และแทรกแซงการเมือง

เวลา 22:40 น. พรรคฝ่ายค้านหลักเรียกร้องให้มีการประชุมสภาฉุกเฉิน โดยหัวหน้าพรรคอี แจ-มยอง เรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาทุกคนมารวมตัวกันที่สมัชชาแห่งชาติเพื่อเริ่มกระบวนการเพิกถอนกฎอัยการศึก ขณะที่ หัวหน้าพรรคพลังประชาชน (People Power Party) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล นาย ฮัน ดง-ฮุน กำลังมุ่งหน้าไปที่รัฐสภา และเข้าร่วมการเรียกร้องให้มีการยกเลิกกฎอัยการศึก

นาย ฮัน ดง-ฮุน  ยังได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า การประกาศกฎอัยการศึกของประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล นั้น ไม่ถูกต้อง และเขากับพรรคจะร่วมกันขัดขวางเรื่องนี้

ขณะเดียวกันนาย อี แจ-มยอง ผู้นำพรรคประชาธิปไตย ซึ่งเป็นฝ่ายค้า (Democratic Party) ซึ่งถูกนายยุนกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมต่อต้านรัฐ และเป็นต้นเหตุในการประกาศกฎอัยการศึกในครั้งนี้ ก็ออกมาประณามการกระทำของประธานาธิบดีว่า ผิดรัฐธรรมนูญ และเป็นพฤติกรรมต่อต้านส่วนรวม

เวลา 23:00 น. กฎอัยการศึกมีผลบังคับใช้ ประตูสู่รัฐสภาหลังจากกฎอัยการศึกถูกปิดลง  และมีกองกำลังทหารติดอาวุธเข้าควบคุมอาคารรัฐสภา

เวลา 23:14 น. นาย วู วอนชิก ประธานสภา เดินทางมาถึงที่รัฐสภาพร้อมกับสมาชิกรัฐสภาคนอื่นๆ แต่ไม่สามารถเข้าอาคารได้ เพราะมีกำลังตำรวจเข้ามาปิดกั้นจำนวนมากก่อนในที่สุดจะสามารถฝ่า เครื่องกีดขวางของตำรวจเข้าไปในอาคารรัฐสภาพ

นายอี เจเมียง ผู้นำพรรคฝ่ายค้านจากพรรคประชาธิปไตย ระบุว่า เกาหลีใต้กำลังจะอยู่ใต้การปกครองด้วยรถถัง รถหุ้มเกราะ ทหาร ปืน และมีด รวมถึงเศรษฐกิจของเกาหลีใต้จะถูกทำลายอย่างฟื้นกลับมาไม่ได้ ขอให้ประชาชนทุกคนจงออกมาที่รัฐสภาเพื่อแสดงพลัง

เวลา 24.00 น. ราวเที่ยงคืน สมาชิกรัฐสภาที่เข้าร่วมประชุมมีมากกว่า 150 คน ซึ่งครบตามข้อกำหนดองค์ประชุม ห้องประชุมหลักของรัฐสภาถูกปิดกั้นจากด้านใน  ขณะที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษมาถึงอาคารรัฐสภา

เวลา 00:27 น. กองกำลังทหารติดอาวุธพยายามเข้าไปในอาคารรัฐสภา และเกิดการปะทะกับสมาชิกรัฐสภา ผู้ช่วย และเจ้าหน้าที่ ขณะที่สมาชิกหน่วยปฏิบัติการพิเศษรวมตัวกันอยู่บริเวณทางเข้าอาคารรัฐสภาหลัก ซึ่งกำหนดจะเริ่มการประชุมใหญ่

00:38 น.กองกำลังติดอาวุธบางส่วนบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาหลัก

00:48 น. เริ่มการประชุมสภานิติบัญญัติ

01:01 น.รัฐสภาเสนอญัตติยกเลิกกฎอัยการศึก และได้มีการ ลงมติให้ยกเลิกกฎอัยการศึกในที่ประชุมใหญ่  

01:04 น. ญัตติผ่านด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ ประธานสภาประกาศว่ากฎอัยการศึกเป็นโมฆะ

ตั้งแต่เวลา 01:10 น. เป็นต้นไป กองกำลังทหารติดอาวุธได้ถอนตัวออกจากอาคารรัฐสภา  แต่กระนั้นกองทัพเกาหลีใต้ยืนยันว่า กฎอัยการศึกจะยังคงอยู่ต่อไป จนกว่าประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล จะประกาศยกเลิกอย่างเป็นทางการ แม้รัฐสภาจะลงมติคัดค้านแล้วก็ตาม

04:26 น. ประธานาธิบดียุน ซอก ยอล ได้แถลงผ่านโทรทัศน์ ประกาศยอมญัตติรับข้อเรียกร้องของรัฐสภาให้ยกเลิกกฎอัยการศึก โดยเขาสัญญาว่าจะเรียกประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อยกเลิกกฎอัยการศึก

ยุนกล่าวว่า "หลังจากรัฐสภาเรียกร้องให้ยกเลิกกฎอัยการศึก กองกำลังก็ถูกถอนออกไป (จากรัฐสภา) แล้ว ผมจะยอมรับข้อเรียกร้องของรัฐสภาและยกเลิกกฎอัยการศึกผ่านการประชุมคณะรัฐมนตรี"

ทั้งนี้ ตามกฎหมายของเกาหลีใต้นั้น ประธานาธิบดีจะต้องยกเลิกกฎอัยการศึกทันที หากรัฐสภามีมติขวาง ด้วยคะแนนเสียงข้างมาก

ผู้สังเกตการณ์มองประธานาธิบดีเกาหลีใต้เป็นผู้นำที่สิ้นหวัง ไร้อำนาจ จนประกาศกฎอัยการศึก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผู้สังเกตุการณ์มองว่าพฤติกรรมการประกาศกฎอัยการศึกของ ประธนาาธิบดี ยูน ซุก ยอล เหมือนกับว่าเขากำลังถูกล้อมโจมตีอย่างสิ้นหวัง โดยในการกล่าวสุนทรพจน์เมื่อคืนวันอังคาร เขาเล่าถึงความพยายามของฝ่ายค้านทางการเมืองที่จะบ่อนทำลายรัฐบาล ก่อนที่จะประกาศกฎอัยการศึกเพื่อ "บดขยี้กองกำลังต่อต้านรัฐที่ก่อความหายนะ"

คำสั่งของเขาทำให้กองทัพมีอำนาจหน้าที่ชั่วคราว โดยมีทหารสวมหมวกกันน็อค ติดอาวุธและตำรวจประจำการอยู่ที่อาคารรัฐสภาแห่งชาติ ซึ่งพบเฮลิคอปเตอร์หลายลำกำลังลงจอดบนหลังคา

แต่กระนั้น เหล่านักการเมืองเกาหลีใต้ออกมาเรียกร้องทันควันว่าคำสั่งของยูนนั้นผิดกฎหมายและขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีทั้งผู้นำพรรคของเขาเอง ซึ่งเป็นพรรคอนุรักษ์นิยม ยังเรียกการกระทำของยุนว่าเป็น "การเคลื่อนไหวที่ผิดพลาด" อีกด้วย ขณะที่ผู้นำพรรคฝ่ายค้านที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ อี แจมยอง จากพรรคเสรีนิยมประชาธิปไตย เรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาของเขาประชุมกันที่รัฐสภาเพื่อลงมติไม่เห็นด้วยกับการประกาศดังกล่าว และเรียกร้องให้ชาวเกาหลีใต้ทั่วไปรวมตัวที่รัฐสภาเพื่อประท้วงด้วย

โดยผู้คนนับพันคนตอบรับคำเรียกร้อง โดยรีบไปรวมตัวกันด้านนอกอาคารรัฐสภาซึ่งขณะนี้มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแน่นหนา ผู้ประท้วงตะโกนว่า "ไม่มีกฎอัยการศึก!" และ "ล้มล้างเผด็จการ"

ไม่นานหลังเวลา 01.00 น. ของวันพุธ รัฐสภาเกาหลีใต้ซึ่งมีสมาชิก 190 คนจากทั้งหมด 300 คน ลงมติไม่เห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าว การประกาศกฎอัยการศึกของประธานาธิบดียูนถูกตัดสินว่าไม่ถูกต้อง

ทำไมยูนถึงรู้สึกกดดัน? ประธานาธิบดี ยูนได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม 2022 ในฐานะผู้นำอนุรักษ์นิยมหัวรุนแรง แต่กลับกลายเป็นประธานาธิบดีที่อ่อนแอตั้งแต่เดือนเมษายน เมื่อฝ่ายค้านชนะการเลือกตั้งทั่วไปของประเทศอย่างถล่มทลาย

รัฐบาลของเขาตั้งแต่นั้นก็ไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายที่ต้องการได้ และถูกลดบทบาทลงเหลือเพียงการยับยั้งร่างกฎหมายที่ผ่านโดยฝ่ายค้านเสรีนิยมแทน

คะแนนนิยมของเขาก็ลดลงเช่นกัน โดยอยู่ที่ระดับต่ำสุดที่ 17% เนื่องจากเขาต้องพัวพันกับเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการทุจริตหลายเรื่องในปีนี้ รวมถึงเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งที่รับกระเป๋าหรู ดิออร์ Dior และเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการจัดการหุ้น โดยเมื่อเดือนที่แล้ว เขาถูกบังคับให้ออกคำขอโทษทางโทรทัศน์ระดับประเทศ โดยกล่าวว่าเขากำลังจัดตั้งสำนักงานเพื่อดูแลหน้าที่ของสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง แต่เขาปฏิเสธการสืบสวนในวงกว้างที่พรรคฝ่ายค้านเรียกร้อง

จากนั้นในสัปดาห์นี้ ฝ่ายค้านได้เสนอให้ลดร่างกฎหมายงบประมาณของรัฐบาล ซึ่งไม่สามารถยับยั้งได้ และ ฝ่ายค้านยังเคลื่อนไหวเพื่อถอดถอนสมาชิกคณะรัฐมนตรีและอัยการสูงสุดหลายคน รวมถึงหัวหน้าหน่วยงานตรวจสอบบัญชีของรัฐบาล เนื่องจากล้มเหลวในการสืบสวนสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง

แล้วต่อไปจะเป็นอย่างไร?

คำประกาศของยุนทำให้หลายคนตั้งตัวไม่ติด และในช่วงเวลา 6 ชั่วโมง ชาวเกาหลีใต้ก็อยู่ในภาวะสับสนว่ากฎอัยการศึกหมายความว่าอย่างไร แต่ฝ่ายค้านสามารถรวมตัวกันที่รัฐสภาได้อย่างรวดเร็วและมีจำนวนมากพอที่จะลงมติไม่เห็นชอบกับคำประกาศดังกล่าว

และแม้จะมีทหารและตำรวจประจำการอยู่เป็นจำนวนมากในเมืองหลวง แต่ดูเหมือนว่ากองทัพจะยังไม่สามารถเข้ายึดอำนาจได้ ซึ่งภายใต้กฎหมายของเกาหลีใต้ รัฐบาลจะต้องยกเลิกกฎอัยการศึก หากเสียงส่วนใหญ่ในรัฐสภาเรียกร้องให้มีการลงมติ

กฎหมายฉบับเดียวกันนี้ยังห้ามไม่ให้ผู้บังคับบัญชากฎอัยการศึกจับกุมสมาชิกรัฐสภาอีกด้วย

ไม่ชัดเจนว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปและผลที่ตามมาสำหรับยุนจะเป็นอย่างไร ผู้ประท้วงบางส่วนที่รวมตัวกันอยู่หน้าการชุมนุมในคืนวันอังคารก็ตะโกนว่า "จับกุมยุน ซุกยอล" เช่นกัน

แต่การกระทำอันหุนหันพลันแล่นของเขาทำให้ประเทศตกตะลึงอย่างแน่นอน ซึ่งมองว่าตนเองเป็นประชาธิปไตยสมัยใหม่ที่เจริญรุ่งเรืองและก้าวหน้ามาไกลนับตั้งแต่ยุคเผด็จการ และเรื่องนี้ถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดต่อสังคมประชาธิปไตยในรอบหลายทศวรรษ


ผู้เชี่ยวชาญโต้แย้งว่าเรื่องนี้อาจสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของเกาหลีใต้ในฐานะประชาธิปไตยมากกว่าเหตุการณ์จลาจลที่ผู้สนับสนุนโดนัลด์ ทรัมป์ บุกอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 เสียอีก

เอริค เอสลีย์ ผู้เชี่ยวชาญ จากมหาวิทยาลัยเอวา ในกรุงโซล กล่าวว่า "การประกาศกฎอัยการศึกของยุนดูเหมือนเป็นการใช้กฎหมายเกินขอบเขตและเป็นการคำนวณทางการเมืองผิดพลาด ทำให้เศรษฐกิจและความมั่นคงของเกาหลีใต้เสี่ยงโดยไม่จำเป็น"

"เขาฟังดูเหมือนนักการเมืองที่กำลังตกเป็นเป้าโจมตี โดยพยายามเคลื่อนไหวอย่างสิ้นหวังเพื่อต่อต้านเรื่องอื้อฉาวที่เพิ่มขึ้น   และการเรียกร้องให้ถอดถอน ซึ่งทั้งหมดนี้มีแนวโน้มว่าจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ"


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/YxKb_5A5S2s

คุณอาจสนใจ

Related News