เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธแบบร่อนจำนวนหลายลูกลงทะเลเหลือง เพิ่มความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี

(24 ม.ค.) สำนักข่าว Yonhap รายงานว่า สถานการณ์ฝั่งตะวันตกของคาบสมุทรเกาหลี หลังเกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธร่อนหลายลูกลงไปในพื้นที่ทางทะเลเหลือง ทำให้ตอนนี้ตึงเครียดขึ้นไปอีก 

ด้านคณะเสนาธิการร่วม (JCS) กล่าวว่าการปล่อยขีปนาวุธทางเหนือเมื่อเวลาประมาณ 7.00 น. แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม โดยอ้างถึงการวิเคราะห์ที่กำลังดำเนินการวิเคราะห์อยู่ โดยระบุว่า “ในขณะที่เสริมสร้างการติดตามและการเฝ้าระวังของเรา กองทัพของเราได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับสหรัฐอเมริกาเพื่อติดตามสัญญาณเพิ่มเติมของการยั่วยุของเกาหลีเหนือ”

นับว่าครั้งนี้เป็นการปล่อยขีปนาวุแบบร่อนครั้งที่สองของเกาหลีเหนือ ซึ่งในครั้งแรกตั้งแต่เดือนกันยายน พ.ศ. 2566 



การปล่อยขีปนาวุธครั้งล่าสุดเกิดขึ้น 10 วันหลังจากที่เปียงยางทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยกลางที่ใช้เชื้อเพลิงแข็ง ซึ่งบรรทุกหัวรบที่มีความเร็วเหนือเสียงลงสู่ทะเลตะวันออกในการปล่อยขีปนาวุธครั้งแรกในปีนี้



โดยขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงนั้นถือว่ายากต่อการตรวจจับและยิงตก เนื่องจากความเร็วของการเคลื่อนตัวของขีปนาวุธเคลื่อนตัวด้วยความเร็วอย่างน้อย 5 มัค ซึ่งเป็นห้าเท่าของความเร็วเสียง และมีความคล่องตัวสูงและสามารถเปลี่ยนทิศทางระหว่างการบินได้



ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเกาหลีเหนืออ้างว่าได้ทดสอบระบบอาวุธนิวเคลียร์ใต้น้ำที่อยู่ระหว่างการพัฒนาเพื่อตอบสนองต่อการฝึกร่วมทางทะเลครั้งล่าสุดที่เกี่ยวข้องกับเกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น



ขณะที่ความตึงเครียดยังคงมีอยู่ในระดับสูงตามแนวชายแดนระหว่างเกาหลี เนื่องจากเขตกันชนที่สร้างขึ้นภายใต้ข้อตกลงทางทหารระหว่างเกาหลีปี 2018 เริ่มใช้การไม่ได้ หลังจากที่เกาหลีเหนือดำเนินการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงใกล้ชายแดนทางทะเลตะวันตกเมื่อต้นเดือนนี้



กองทัพเกาหลีใต้กล่าวว่า จะกลับมาทำการยิงปืนใหญ่และการฝึกซ้อมใกล้ชายแดนอีกครั้ง ในขณะที่การยิงปืนใหญ่ของเปียงยางใกล้กับเส้นจำกัดทางตอนเหนือ (NLL) ซึ่งเป็นพรมแดนทางทะเลโดยพฤตินัยในทะเลเหลือง ได้ทำลายเขตกันชนที่ตกลงร่วมกัน