ต่างประเทศ

ทหารหึงโหด! ไม่ยอมหย่าเมีย ยิงรัว 8 นัดดับ ก่อนหนีไปยิงตัวตาย ในศาลหลักเมือง

โดย thichaphat_d

10 ธ.ค. 2564

3K views

เมื่อเวลา 10.45 น. วานนี้ (9 ธ.ค. 64) พ.ต.อ.นรินทร์ บุพตา ผกก.สภ.กันทรลักษ์ ได้รับแจ้งจาก ศูนย์วิทยุ สภ.กันทรลักษ์ ว่า ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต ที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ ศรีสะเกษ


จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและได้สั่งการให้ ร.ต.อ.ภาคิน ขันติวงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ นำ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กันทรลักษ์ และชุดสืบสวนออกไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ


ที่เกิดเหตุพบว่า มีผู้ถูกยิงชีวิตทราบชื่อภายหลังว่าคือ น.ส.เชาวนี อารีย์ อายุ 34 ปี ถูกยิงเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณเบาะที่นั่งด้านคนขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าสีขาว หมายเลขทะเบียน ผค 4269 จังหวัดอุบลราชธานี ถูกยิงด้วยอาวุธไม่ทราบขนาดเข้าที่บริเวณศีรษะตามลำตัว รวม 8 นัด ปลอกกระสุนปืนเกลื่อนบริเวณ


สืบทราบว่าผู้ก่อเหตุซึ่งแต่งเครื่องแบบทหารเต็มยศมีอาวุธปืนไม่ทราบสังกัด ได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงผู้ตาย จากนั้น ได้ขับขี่รถยนต์ยี่ห้อ ฟอร์ด สีแดง หมายเลขทะเบียน ฏฮ 4446 กรุงเทพมหานคร หลบหนีไป


พ.ต.อ.นรินทร์ บุพตา ผกก.สภ.กันทรลักษ์ จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวน ออกติดตามคนร้ายและได้วิทยุแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจและเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรสกัดจับ จนพบเห็นรถยนต์คันดังกล่าวขับขี่มาจอดอยู่ที่หน้าที่ศาลหลักเมืองกันทรลักษ์ฝั่งตะวันออก พ.ต.ท.ภทรธร จึงได้สั่งเจ้าหน้าที่ล้อมรถยนต์คันดังกล่าว แต่ไม่พบบุคคลใดภายในรถยนต์ แต่มีประชาชนเห็นชายแต่งเครื่องแบบทหารถือปืนวิ่งลงจากรถยนต์ขึ้นไปภายในบริเวณศาลหลักเมืองกันทรลักษ์ จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจำนวน 1 นัด


พ.ต.อ.นรินทร์ บุพตา ผกก.สภ.กันทรลักษ์ ได้สั่งการให้กำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนปิดล้อมบริเวณศาลหลักเมือง และได้เรียกให้บุคคลที่อยู่ด้านในออกมาแต่ไม่มีสัญญาณตอบรับแต่อย่างใด จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปิดล้อมได้สังเกตเห็นมีชายในแต่งกายเครื่องแบบทหารนอนนิ่ง


จึงได้เข้าไปตรวจสอบปรากฎว่ามีรอยถูกกระสุนยิงที่บริเวณศีรษะนอนเสียชีวิต ทราบชื่อภายหลังว่า ชื่อนายประยงค์ สมพงษ์ อายุ 34 ปี ตรวจสอบพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.จำนวน 1 นัด มีรอยถูกยิงที่บริเวณศีรษะพร้อมกำปืนนอนจมกองเลือด


ทั้งนี้มีภาพเหตุการณ์ก่อนเกิดเหตุที่ พลอาสาสมัครประยงค์ ซึ่งแต่งเครื่องแบบทหารเต็มยศได้เดินทางมาที่สำนักทะเบียน ที่ว่าการ อ.กันทรลักษ์ เพื่อที่จะจดทะเบียนหย่ากับ น.ส.เชาวนี ซึ่งเป็นภรรยา


โดยพลอาสาสมัครประยงค์ มีญาติประกอบด้วยน้องชายกับแม่มาด้วย ส่วน น.ส.เชาวนี มีนางถวิล อารีย์ อายุ 59 ปี ซึ่งเป็นแม่มาด้วย โดยพลอาสาสมัครประยงค์ได้เดินเข้าไปในห้องทะเบียน จากนั้น ได้เดินออกมาจากห้องและได้เดินเข้าไปในห้องทะเบียนใหม่ และได้เดินมาออกมาจากห้องพร้อมด้วย น.ส.เชาวนี และญาติทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งพลอาสาสมัครประยงค์ พยายามจะเข้าไปจับยื้อยุดจับแขนของ น.ส.เชาวนี แต่ว่าแม่ของ น.ส.เชาวนี ได้เข้าไปขวางเอาไว้ เนื่องจากเกรงว่า น.ส.เชาวนี อาจจะโดนทำร้าย


จากนั้น ได้พากันเดินมาที่ประตูทางเข้าซึ่งมีการพูดคุยกันและพลอาสาสมัครประยงค์พยายามจะเข้าไปหา น.ส.เชาวนี แต่ว่า นางถวิล แม่ของ น.ส.เชาวนี ได้ใช้ตัวเองขวางกั้นกลางเอาไว้ ต่อมาทั้ง 2 ฝ่ายได้เดินออกไปที่บริเวณด้านหน้าที่ว่าการ อ.กันทรลักษ์ ซึ่งเป็นที่จอดรถของ น.ส.เชาวนี เป็นรถกระบะโตโยต้าสีขาว และรถเก๋งยี่ห้อฟอร์ดสีแดงของพลอาสาสมัครประยงค์ จอดอยู่ใกล้กัน โดยมีรถกระบะสีดำคันหนึ่งจอดอยู่ตรงกลาง


ต่อมา นางถวิล แม่ของ น.ส.เชาวนี และญาติของพลอาสาสมัครประยงค์รวมทั้งประชาชนบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ ได้แตกฮือวิ่งหนีเนื่องจากว่า ได้ยินเสียงปืนดังหลายนัด โดยพลอาสาสมัครประยงค์ได้ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.รัวยิง น.ส.เชาวนี จากด้านข้างรถกระบะที่ น.ส.เชาวนี นั่งอยู่กระสุนทะลุกระจกด้านข้างแตกกระจาย


จากนั้นพลอาสาสมัครประยงค์ ได้เดินอย่างใจเย็นไปขึ้นรถของตนที่จอดอยู่ใกล้กันหลบหนีไปจอดรถที่ข้างศาลหลักเมืองกันทรลักษ์ แล้วถือปืนวิ่งขึ้นไปบนศาลหลักเมืองกันทรลักษ์ จากนั้นใช้อาวุธปืนที่ถือมายิงศีรษะตนเองเสียชีวิต เพื่อหนีความผิดที่เกิดขึ้น


นางถวิล อารีย์ อายุ 59 ปี เล่าด้วยน้ำตานองหน้าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนพร้อมด้วย น.ส.เชาวนี อารีย์ อายุ 34 ปี ผู้ถูกยิงเสียชีวิต ซึ่งเป็นลูกสาวของตน ได้เดินทางกลับมาจากกรุงเทพเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ได้มาบอกกับตนว่า ไม่สามารถที่จะอยู่กินฉันสามีภรรยากับนายประยงค์ สมพงษ์ อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นอาสาสมัครทหาร อยู่ที่กรุงเทพได้


หลังจากที่ได้จดทะเบียนสมรสกันได้นาน 8 เดือนที่สำนักทะเบียนดอนเมืองกรุงเทพ จึงได้นัดหมายกันมาจดทะเบียนหย่ากันที่ที่ว่าการ อ.กันทรลักษ์ แต่เมื่อมาถึงที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ ฝ่ายชายไม่ยอมหย่า อีกทั้งอยู่ในระหว่างการรอคิวในการดำเนินการ จึงได้เกิดมีปากเสียงกัน


ตนพร้อมด้วย น.ส.เชาวนี จึงได้เดินลงจากที่ว่าการอำเภอมาที่รถยนต์ที่จอดอยู่เพื่อที่จะขับขี่ออกจากอำเภอ และปรากฏว่า นายประยงค์ ได้เดินไปเอาอาวุธปืนที่อยู่ในรถยนต์ฟอร์ด ออกมายิง น.ส.เชาวนี จำนวน 8 นัด ต่อหน้าตน จากนั้นนายประยงค์ไปขับขี่รถยนต์หลบหนีไป


ทางด้าน นายสันติชัย อารีย์ อายุ 63 ปี ซึ่งเป็นพ่อของ น.ส.เชาวนี เล่าว่า ลูกสาวได้โทรศัพท์มาบอกกับตนว่า นายประยงค์จะเป็นคนหึงมาก ช่วงที่อยู่กินด้วยกัน นายประยงค์จะขึงลูกสาวของตนไว้ในห้องไม่ยอมให้ออกไป พูดกับใครก็ไม่ได้ ทำให้ลูกสาวของตนมีความคับแค้นใจกับพฤติกรรมหึงหวงของนายประยงค์เป็นอย่างมาก จะกลับมาเยี่ยมพ่อแม่ก็ไม่ได้


หากกลับมาบ้านเยี่ยมพ่อแม่ นายประยงค์ก็จะรีบมาตามกลับไป ลูกสาวของตนบอกว่าคงจะไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ จึงได้หนีกลับมาบ้านและขอหย่าขาดจากนายประยงค์ ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุยิงลูกสาวของตนแบบนี้ ซึ่งตนและครอบครัวเสียใจมาก


ด้าน นายสุกิจ เหลืองสกุลไทย นายอำเภอกันทรลักษ์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ตนจะได้เชิญเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนหย่าทั้งหมดมาพบ เพื่อวางมาตรการแนวทางป้องกันไม่ให้ปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นมาอีก โดยจะกำชับให้เจ้าหน้าที่แจ้งให้ทั้ง 2 ฝ่ายที่จะมาขอจดทะเบียนหย่าให้มีการเจรจาพูดคุยกันให้มีข้อยุติกันเรียบร้อยเสียก่อน จึงจะดำเนินการจดทะเบียนหย่าให้


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/P0Ih6QEPXok

คุณอาจสนใจ

Related News