ต่างประเทศ

ทูตจีนโพสต์หนุนกัมพูชา ปกป้องอธิปไตยเต็มที่

10 ต.ค. 2568

225 views

ทูตจีนประจำเขมรลั่นหนุนกัมพูชาปกป้องอธิปไตย ด้านทูตจีนประจำกรุงเทพฯ ยันไม่มีผลประโยชน์ในข้อขัดแย้งไทย-กัมพูชา สื่อนอกชี้ จีนลงทุนทั้งเศรษฐกิจ-ความมั่นคงเพียบในเขมร


เอกอัครราชทูตจีนประจำกัมพูชา โพสต์แถลงการณ์เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ยืนยันการสนับสนุนของจีนต่ออธิปไตยและการพัฒนาของกัมพูชา พร้อมให้คำมั่นสัญญาว่าจะเป็นหุ้นส่วนกันต่อไป โดย นาย หวัง เหวินปิน  ได้โพสต์แถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊ก ว่า “จีนสนับสนุนกัมพูชาอย่างแข็งขันในการปกป้องอธิปไตย ความมั่นคง และผลประโยชน์ด้านการพัฒนาของชาติ และจะเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้ในการพัฒนาของกัมพูชาตลอดไป”


โดยก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม  สถานทูตจีนประจำกรุงเทพฯ ก็ได้โพสต์ว่า เอกอัครราชทูตจาง เจี้ยนเว่ย ของจีนได้ เข้าพบนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีต่างประเทศของไทย โดยได้แสดงความยินดีกับนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้วในโอกาสเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ


ทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้จัดงานแถลงข่าวร่วมกัน เอกอัครราชทูตจางย้ำว่า จีนไม่มีผลประโยชน์ส่วนตัวในประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา และยึดมั่นในจุดยืนที่เป็นธรรมและเป็นกลางในการส่งเสริมสันติภาพและการเจรจามาโดยตลอด  พร้อมกันนั้นยังยืนยันว่า นับตั้งแต่ความขัดแย้งเริ่มต้นขึ้น จีนไม่ได้จัดหายุทโธปกรณ์ใดๆ ให้แก่กัมพูชาเพื่อใช้ในการโจมตีประเทศไทย ยุทโธปกรณ์ของจีนที่กัมพูชามีนั้นมาจากโครงการความร่วมมือที่มีอยู่ในปัจจุบัน


ขณะเดียวกัน ทางด้านเว็บไซต์ได้การทูตการทหารชื่อดังของโลก อย่าง “ดิโพลแมต” (Diplomat)  รายงานบทความว่า จีนได้ลงทุนในกัมพูชาในแทบทุกด้านอย่างยิ่งใหญ่และรวดเร็วซึ่งกัมพูชาได้กลายเป็นการเติบโตทางเศรษฐกิจ พร้อมด้วยความร่วมมือด้านกลาโหมที่ใกล้ชิดและฐานที่มั่นทางยุทธศาสตร์ในพื้นที่สำคัญของภูมิภาคของจีนในเวลาเดียวกัน


ดิโพลแมต ได้ยกตัวอย่างของสนามบินนานาชาติเตโชที่เพิ่งเปิดทำการเมื่อวันที่ 10 กันยายน ว่า สนามบินดังกล่าว เป็นเสมือนเสาหลักเชิงสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่กำลังดำเนินอยู่ของกัมพูชา ซึ่งขับเคลื่อนโดยทุนและอิทธิพลของจีนอย่างต่อเนื่อง


ซึ่งสำหรับกัมพูชา จีนนำเสนอการพัฒนาที่ขยายขนาดได้และให้ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม ขณะที่สำหรับจีน กัมพูชานำเสนอการเติบโตทางเศรษฐกิจ พร้อมด้วยความร่วมมือด้านกลาโหมที่ใกล้ชิดและฐานที่มั่นทางยุทธศาสตร์ในพื้นที่สำคัญของภูมิภาคนี้


ดิโพลแมต ระบุว่า จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของกัมพูชาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 และหลังจากข้อตกลงการค้าเสรีจีน-กัมพูชามีผลบังคับใช้ในปี พ.ศ. 2565 มูลค่าการค้ารวมเกือบ 18,000 ล้านดอลลาร์ในปี พ.ศ. 2567      


ตั้งแต่การเติบโตทางเศรษฐกิจไปจนถึงการซ้อมรบร่วม ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและกัมพูชากำลังก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอย่างรวดเร็ว ซึ่งแม้ว่าประเทศอื่นๆ จะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในกัมพูชา เช่น โครงการขยายท่าเรืออัตโนมัติสีหนุวิลล์ ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากญี่ปุ่นมูลค่า 243 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และโครงการเกษตรกรรมของกัมพูชามูลค่า 29 ล้านดอลลาร์สหรัฐจาก ยูเสด ของสหรัฐ ( USAID) แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ประเทศเหล่านี้กลับถูกจีนบดบังรัศมีไปอย่างสิ้นเชิง


ดิโพลแมต ระบุว่า การลงทุนของจีน ต่างจากเงินทุนจากชาติตะวันตกที่มักมาพร้อมกับเงื่อนไขเฉพาะ เช่น มาตรฐานความโปร่งใสและความรับผิดชอบ แต่แนวทางของจีนให้ความสำคัญกับความเร็วและความสามารถในการขยายขนาด การเน้นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมและการไม่มี “เงื่อนไข” ทางการเมืองนี้ เป็นสิ่งที่ดึงดูดใจรัฐบาลกัมพูชาเป็นอย่างยิ่ง แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับการพึ่งพาหนี้ระยะยาวก็ตาม    


ดิโพลแมตระบุว่า  ท่าอากาศยานนานาชาติเตโชเป็นเพียงโครงการล่าสุดในเครือข่ายโครงการโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของจีนที่กำลังขยายตัวในกัมพูชา โดยมีโครงการริเริ่มอื่นๆ ได้แก่ คลองฟูนันเตโช มูลค่า 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โครงการทางด่วนพนมเปญ-สีหนุวิลล์ มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และทางหลวงและสะพานอีกมากมาย นอกเหนือจากโครงการโครงสร้างพื้นฐานเชิงยุทธศาสตร์ที่กล่าวถึงข้างต้นแล้ว จีนยังมีบทบาทสำคัญในการอำนวยความสะดวกด้านการผลิตพลังงานในกัมพูชา โดยมุ่งเน้นไปที่แหล่งพลังงานทั้งแบบดั้งเดิมและพลังงานหมุนเวียน


การลงทุนเหล่านี้ ส่งผลให้ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างจีนกับกัมพูชาเชื่อมโยงกันอย่างแนบแน่น และกัมพูชาได้เข้าไปอยู่ในห่วงโซ่อุปทานระดับโลกและระดับภูมิภาคที่มีจีนเป็นศูนย์กลางไปแล้ว


นอกจากนั้น จีนและกัมพูชามีความสัมพันธ์ทางการเมืองที่ใกล้ชิดกันมาก โดยกัมพูชาให้การสนับสนุนจีนในประเด็นเฉพาะเกี่ยวกับทะเลจีนใต้ระหว่างการประชุมอาเซียนในปี 2559 นอกจากนี้ จีนยังช่วยให้กัมพูชาได้รับวัคซีนโควิด-19 ในอัตราที่สูงที่สุดในโลก โดยอาศัยเทคโนโลยีการดูแลสุขภาพและความรู้ทางเทคนิคของจีนเพื่อให้มั่นใจว่าการฉีดวัคซีนจะประสบความสำเร็จด้วย


https://youtu.be/o_ULyMLahGs

คุณอาจสนใจ

Related News