ต่างประเทศ
นักวิเคราะห์ชี้ “ไทย-มาเลย์” เสี่ยงกว่าเพื่อน โดนเรียกภาษี “สินค้าสวมสิทธิ์” เหมือนเวียดนาม
โดย petchpawee_k
4 ก.ค. 2568
398 views
ซีเอ็นบีซี สื่อเศรษฐกิจชื่อดังของสหรัฐรายงานเชิงวิเคราะห์ผลกระทบหลังจากที่สหรัฐ และเวียดนามบรรลุข้อตกลงภาษีศุลกากร โดยที่สินค้าจะเวียดนามที่ส่งออกไปยังสหรัฐ จะโดยเรียกเก็บภาษีถึง 20% และหากเป็นสินค้าที่สวมสิทธิจากประเทศที่ 3 หรือที่เรียกว่า “ทรานส์ชิบปิ้ง” จะโดนถึง 40% ขณะที่สหรัฐส่งสินค้ามายังเวียดนามโดยเสียภาษี 0%
รายงานอ้างการวิเคราะห์ของคณะผู้เชี่ชาญของธนาคารซิตี้กรุ๊ป ที่ระบุว่า ข้อตกลงระหว่างสหรัฐ และเวียดนามนั้นบ่งชี้ได้ว่าจะมีข้อตกลงอื่นๆกับประเทศอื่นๆเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า อัตราภาษี 20% ที่เรียกเก็บจากเวียดนามนั้นถือว่าสูงกว่าอัตราภาษีสินค้าที่ผู้เชี่ยวชาญของซิตี้คาดไว้ว่าจะอยู่ที่ 10%เท่านั้น และในข้อตกลงกับประเทศอื่นๆนั้น ประเทศคู่ค้าอื่นๆก็จะต้องยอมรับในเงื่อนไขของ “ภาษีสินค้าสวมสิทธิ” ด้วยอย่างแน่นอน เหมือนกับเวียดนาม
ในโน้ตข้อความของผู้เชี่ยวชาญของซิตี้ระบุว่า “ประเทศไทยตามมาด้วยมาเลเซียอาจได้รับผลกระทบมากกว่าประเทศเพื่อนบ้านเอเชียตลาดเกิดใหม่อื่นๆ (นอกเหนือจากเวียดนาม) ” บันทึกดังกล่าวระบุ
“นอกจากนี้ อาจมีผลกระทบไปยังผู้ส่งออกรายอื่นๆ ที่ตั้งโรงงานในเวียดนามในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน อย่างเช่น เกาหลีใต้" บันทึกดังกล่าวระบุ
ขณะเดียวกัน ทางด้านเซบาสเตียน เรดเลอร์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์หุ้นยุโรปของ ธนาคาร แบงก์ออฟ อเมริกา กล่าวว่า “สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากข้อตกลงเวียดนามก็คือ หากมีอะไรเกิดขึ้น ภาษีก็จะเพิ่มขึ้น ไม่ใช่ลดลง” เซบาสเตียน เรดเลอร์
อยางไรก็ตาม ทางด้านมาร์ก วิลเลียมส์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์เอเชียของ “แคบปิตัล อิโคโนมิตส์ กล่าว ในทิศทางตรงกันข้ามว่า “ประเทศอื่นๆ อาจะจะรู้สึกว่าพวกเขาควรจะสามารถล็อกอัตราภาษีที่ต่ำกว่า 20% ที่เวียดนามตกลง” โดยเขาตั้งข้อสังเกตว่า เพราะ “เวียดนามมีอำนาจต่อรองที่อ่อนแอผิดปกติ” เนื่องจากพึ่งพาการค้ากับสหรัฐฯ อย่างมากเกินไปถึง 30% ของจีดีพีทีเดียว
แท็กที่เกี่ยวข้อง ภาษีทรัมป์ ,เวียดนาม ,สินค้าสวมสิทธิ์ ,มาเลเซีย ,ไทย