'ปูติน' แก้กฎยิงนิวเคลียร์ให้ง่ายขึ้น หลังยูเครนใช้มิสไซส์ระยะไกลของสหรัฐฯ เปิดฉากโจมตีครั้งแรก

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ได้ลงนามลดระดับข้อจำกัดการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งจะทำให้รัสเซียสามารถใช้นิวเคลียร์ในการตอบโต้ได้ง่ายขึ้น ซึ่งระบุว่า รัสเซียสามารถยิงนิวเคลียร์ตอบโต้ ถ้าหากถูกโจมตีโดยประเทศที่ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ครอบครอง แต่ได้รับการสนับสนุนจากประเทศมหาอำนาจทางนิวเคลียร์

ระเบียบใหม่ของรัสเซีย ระบุว่า รัสเซียสามารถใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้ในกรณีที่มีการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ใส่รัสเซีย และมีการใช้ขีปนาวุธแบบร่อน และแบบวิถีโค้ง อากาศยาน โดรน และพาหนะบินได้อื่น ๆ ในการโจมตีดังกล่าว

นั่นหมายความว่า รัสเซียสามารถตอบโต้ยูเครนได้ด้วยนิวเคลียร์ แม้ว่ายูเครนจะไม่มีนิวเคลียร์ก็ตาม แต่ยูเครนก็เป็นชาติที่ได้รับการสนับสนุนจากมหาอำนาจที่มีนิวเคลียร์คือสหรัฐฯ

การแก้ไขระเบียบดังกล่าวมีขึ้น ในขณะที่ยูเครนได้ยิงขีปนาวุธ อาแทคส์เอ็มส์  (ATACMS) ที่ผลิตโดยสหรัฐฯ เข้าไปในรัสเซียเป็นครั้งแรกแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านั้น 2 วัน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ปรับเปลี่ยนนโยบายของสหรัฐฯ โดยอนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่สหรัฐฯ จัดหาให้ ในการโจมตีลึกเข้าไปในรัสเซียได้  

การโจมตีครั้งนี้ ยูเครนได้ยิง อาแทคส์เอ็มส์  6 ลูก เข้าใส่แคว้นไบรอานส์ก ของรัสเซีย ซึ่งเป็นวันครบรอบ 1,000 วัน สงครามยูเครนด้วย โดยผู้บัญชาการกองทัพยูเครน เผยในวันอังคารว่า ขีปนาวุธได้ทำลายคลังกระสุนแห่งหนึ่งในแคว้นไบรอานส์ก ของรัสเซีย ก่อให้เกิดไฟไหม้แ ละระเบิดหลายครั้ง สร้างความเสียหายให้กับกระสุนปืนใหญ่จำนวนมาก แต่มิได้ยืนยันว่า เป็นขีปนาวุธพิสัยไกลของสหรัฐฯ หรือไม่

ขณะที่ กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ระบุว่า สามารถทำลายขีปนาวุธดังกล่าวได้ 1 ลำ และยิงตกลงมาอีก 5 ลำ โดยชิ้นส่วนตกลงในพื้นที่ทางการทหารของรัสเซีย และเกิดไฟไหม้ แต่ไม่ได้สร้างความเสียหายแต่อย่างใด

ทั้งนี้ สถาบันเพื่อการศึกษาสงคราม (ISW) ซึ่งเป็นกลุ่มนักวิจัยของสหรัฐฯ เผยว่ามีเป้าหมายทางทหาร และกึ่งทหาร มูลค่าสูงเกือบ 250 รายการ ที่อยู่ลึกเข้าไปในแผ่นดินรัสเซีย ที่อยู่ในระยะทำการของ อาแทคส์เอ็มส์ (ATACMS)  

ขณะเดียวกัน สื่อต่างประเทศ รายงานว่า รัสเซียได้เริ่มผลิต 'หลุมหลบภัยนิวเคลียร์เคลื่อนที่' จำนวนมาก ซึ่งสามารถรองรับคนได้หลายสิบคน และป้องกันคลื่นกระแทก และรังสีได้

โดย กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินมอสโกว์ กล่าวว่า หลุมหลบภัยดังกล่าวชื่อว่า คับ-เอ็ม (KUB-M) ฃ จะสามารถปกป้องผู้คน 54 คน ได้นานถึง 2 วัน จากอันตรายจากธรรมชาติ และฝีมือมนุษย์