จีนปฏิเสธข่าว 'ตรวจมือถือ-แล็ปท็อป' คนเดินทาง ตั้งแต่ 1 ก.ค. ยันตรวจคนต้องสงสัยเท่านั้น

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า รัฐบาลจีนได้ประกาศยืนยันเมื่อวานนี้ว่า กระแสข่าวลือที่ว่าผู้เดินทางเข้าจีนทุกคน จะถูกขอตรวจข้อมูลในโทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. เป็นต้นไป 'ไม่เป็นความจริง' พร้อมชี้ว่าเป็นความพยายามของ 'ฝ่ายต่อต้านจีน' ที่ปล่อยข่าวบิดเบือน หวังทำลายชื่อเสียงแดนมังกร

กระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐจีน แถลงผ่านบัญชีวีแชตว่า กลุ่มต่อต้านจีนในต่างแดนได้ฉวยโอกาสนี้บิดเบือนข้อเท็จจริง ด้วยการกล่าวอ้างอย่างผิดพลาด และสร้างความเสื่อมเสีย    

ทั้งนี้ ย้อนกลับไป เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ที่ผ่านมา กระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐจีนได้มีการออกเอกสารที่ระบุถึงการเพิ่มอำนาจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปราบปรามกิจกรรมผิดกฎหมาย ซึ่งอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ โดยทางด้าน สำนักข่าว 'เรดิโอ ฟรี เอเชีย' (RFA) ของสหรัฐฯ ได้รายงานข่าวดังกล่าวว่า จีนได้ใช้มาตรการเข้มงวดมากขึ้น ตรวจอุปกรณ์สื่อสารของนักเดินทาง ภายใต้กฎหมายความมั่นคงที่ต่อต้านสายลับ

กระทรวงความมั่นคงจีน โต้แย้งว่า คำกล่าวอ้างที่ว่าผู้เดินทางเข้าจีนทุกคนจะถูกบังคับตรวจโทรศัพท์มือถือขณะเข้าเมือง เป็นสิ่งที่ 'ประหลาดอย่างที่สุด' และยืนยันว่า ระเบียบด้านความมั่นคงใหม่ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง และได้ 'ผลตอบรับที่ดี' จากสาธารณชน

และยังระบุว่า กฎหมายต่อต้านการจารกรรมฉบับแก้ไขใหม่ ได้วางข้อกำหนดเอาไว้อย่างเฉพาะเจาะจง เกี่ยวกับอำนาจของเจ้าหน้าที่ในขอตรวจอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

โดยเป้าหมายในการตรวจสอบนั้นจะต้องเป็น 'บุคคลหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องกับงานต่อต้านจารกรรม' เช่น ผู้ต้องสงสัยเป็นสายลับ ที่ถ่ายภาพ หรือคลิปวิดีโอ ในพื้นที่หวงห้าม หรือหน่วยงานลับทางทหารของจีน เท่านั้น

ทั้งนี้  เมื่อเดือน ก.พ. รัฐสภาจีนได้รับรองร่างแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมาย ว่าด้วยการรักษาความลับของชาติ ซึ่งถือเป็นการปรับแก้ครั้งแรก  ตั้งแต่ปี 2010 โดยกฎหมายใหม่ได้เพิ่มขอบเขตนิยามของข้อมูลเปราะบางให้ครอบคลุมถึงสิ่งที่เรียกว่า 'ความลับในการทำงาน' ด้วย

----------------