ต่างประเทศ
'ยูเอ็น' เตือนเอเชีย กำลังเผชิญหน้ากับ 'วิกฤติคลื่นความร้อน' ที่ถี่และรุนแรงมากขึ้น
โดย nattachat_c
24 เม.ย. 2567
542 views
วานนี้ (23 เม.ย. 67) องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ภายใต้การดูแลขององค์การสหประชาชาติ (UN) ได้ออกโรงเตือนถึงอันตราย ที่เอเชียกำลังเผชิญเพิ่มขึ้น อันเนื่องมาจากวิกฤติสภาพภูมิอากาศ รวมถึงความถี่ และความรุนแรง ของคลื่นความร้อนที่เพิ่มขึ้น
โดย เซเลสต์ เซาโล เลขาธิการ WMO ระบุว่า “หลายประเทศในภูมิภาคเผชิญกับปีที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ ในปี 2566 ควบคู่ไปกับสภาวะที่รุนแรง ตั้งแต่ภัยแล้ง คลื่นความร้อน ไปจนถึงน้ำท่วม และพายุ”
WMO ได้เผยแพร่รายงานหัวข้อ “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และผลกระทบจากสภาพอากาศสุดขั้ว ส่งผลกระทบรุนแรงต่อเอเชีย” ชี้ว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ของทวีป มีการบันทึกอุณหภูมิเฉลี่ยที่สูงขึ้น ตั้งแต่ไซบีเรียตะวันตก ไปจนถึงเอเชียกลาง และจากจีนตะวันออก ไปจนถึงญี่ปุ่น และคาซัคสถาน ต่างมีปีที่อากาศอบอุ่นเป็นประวัติการณ์
ตามบันทึกของ WMO อุณหภูมิที่อุ่นขึ้นในเอเชียนั้น ได้มีค่าเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้นกว่าค่า เฉลี่ยทั่วโลก และแนวโน้มผลกระทบจากภาวะโลกร้อน ได้เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่านับตั้งแต่ช่วงปี 1961 - 1990
อีกทั้ง อุณหภูมิที่สูงขึ้น ยังส่งผลต่อพื้นผิวทะเลด้วย โดยอุณหภูมิได้สูงเป็นประวัติการณ์ในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือ และแม้แต่มหาสมุทรอาร์กติก ก็ประสบปัญหาคลื่นความร้อนในทะเล
ปรากฏการณ์นี้ ส่งผลให้เกิดภัยแล้ง และปริมาณน้ำฝนที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ในหลายประเทศในเอเชีย ตลอดจนการละลายของธารน้ำแข็งอย่างรวดเร็ว
ในปี 2023 เอเชียยังคงเป็นภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทางอุตุนิยมวิทยามากที่สุดในโลก โดยส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับน้ำท่วม และพายุ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 2,000 ราย และประชาชน 9 ล้านคน ได้รับผลกระทบโดยตรง
เซาโล กล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้ความถี่ และความรุนแรงของเหตุการณ์ดังกล่าว รุนแรงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อสังคม เศรษฐกิจ และที่สำคัญที่สุดคือ ชีวิตมนุษย์ และสิ่งแวดล้อม ที่เราอาศัยอยู่”
------------
ขณะเดียวกัน ที่บังกลาเทศ คลื่นความร้อนที่รุนแรงกำลังเล่นงานประเทศแห่งนี้มานานกว่าสัปดาห์แล้ว ทำให้อุณหภูมิร้อนจัดสูงแตะ 43 องศาเซลเซียส ทำให้ล่าสุดทางการต้องประกาศเตือนภัยแล้ว และได้สั่งการให้โรงพยาบาลทุกแห่งเตรียมพร้อมรับมือ
กรมอุตุนิยมวิทยาบังกลาเทศ ระบุว่า “เนื่องจากเกิดความชื้นเพิ่มมากขึ้น และอากาศที่ร้อน ทำให้ความรู้สึกไม่สบาย จะเพิ่มขึ้นในช่วง 72 ชั่วโมง ข้างหน้า”
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ปิดโรงเรียนชั่วคราวตลอดทั้งสัปดาห์ และขอให้ประชาชนอยู่ให้ห่างจากแสงแดด เพื่อหลีกเลี่ยงโรคลมแดด ขณะที่ชาวบังกลาเทศหลายคนบอกว่า แทบจะลืมตากลางแดดไม่ได้เลย
------------
ขณะเดียวกันที่ ฟิลิปปินส์ ก็พบว่า ดัชนีความร้อนพุ่งขึ้นสู่ระดับอันตราย ใน 24 เมือง เมื่อวานนี้
โดยพบว่า ดัชนีความร้อนล่าสุด อยู่ที่อยู่ระหว่าง 42°C - 46° ในหลายเมือง ทั้งเกซอน ซิตี้ / ดากูปัน / ตูเกกาโร และคากายัน และอีกหลายเมือง
------------