'ปาปัวนิวกินี' จลาจลหนัก คนบุกปล้มสะดม-เผาเมือง หลังตำรวจ-ทหาร สไตรก์เพราะถูกลดเงินเดือน

ผู้นำปาปัวนิวกินี ประเทศทางด้านตะวันออกของอินโดนีเซีย ทางตอนเหนือของออสเตรเลีย ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเมืองหลวงเป็นเวลา 14 วัน เมื่อวานนี้

เนื่องจากเกิดเหตุจลาจลครั้งใหญ่ โดยฝูงชนฉวยโอกาสที่ตำรวจ-ทหาร ชุมนุมประท้วงสไตร์กหยุดงาน เนื่องจากไม่พอใจที่เงินเดือนถูกลดลงอย่างกะทันหันถึง 50% ทำให้ประชาชนต่างพากันออกมาปล้นชิงโจรกรรมร้านค้า เผาทำลายรถ และสถานที่ต่าง ๆ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 คน แล้ว

โดยเหตุการณ์วุ่นวายนี้ เกิดขึ้นหลังจากสถานการณ์ในปาปัวนิวกินีตึงเครียดหนักอยู่ก่อนแล้ว จากปัญหาสินค้าขึ้นราคา ปัญหาเงินเฟ้อ และอัตราว่างงานที่สูงลิ่ว

นายกรัฐมนตรี เจมส์ มาราเป แถลงขอโทษสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ยืนยันว่า จะจัดการกับการละเมิดกฎหมายนี้ และประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงพอร์ตมอร์สบี เป็นเวลา 14 วัน พร้อมสำทับว่า ทหารกว่า 1,000 นาย เตรียมพร้อมเข้าแทรกแซงหากจำเป็น ภายใต้กฎหมายว่าด้วยสถานการณ์ฉุกเฉิน  

เหตุการณ์ความไม่สงบนี้ เกิดขึ้นหลังจาก ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเรือนจำ และข้าราชการอื่น ๆ ชุมนุมประท้วงหน้ารัฐสภา เมื่อวันพุธ หลังพบว่า เงินเดือนที่ได้รับล่าสุด หายไปถึงครึ่งหนึ่ง โดย มาราเป ชี้แจงว่า สาเหตุมาจากระบบคอมพิวเตอร์ขัดข้อง และรัฐบาลจะแก้ไขให้ในการจ่ายเงินเดือนรอบหน้า

ทว่า ผู้ประท้วงมากมายรับไม่ได้กับคำตอบดังกล่าว บางคนพยายามบุกเข้าไปในรัฐสภา

โดยมีคลิปคนจุดไฟเผารถตำรวจที่จอดอยู่หน้าสำนักนายกรัฐมนตรี และพังประตูรั้วเข้าไป อีกทั้ง ผู้ประท้วงจำนวนมากยังเชื่อว่า รัฐบาลกำลังจะขึ้นภาษีเงินได้อีกด้วย

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่รถฉุกเฉิน เผยว่า พบผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บหลายคน ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ รายงานว่า มีการยิงกันใกล้สถานทูต

ส่วนทางด้านสถานทูตเอกอัครราชจีน ร้องเรียนต่อรัฐบาลปาปัวนิวกินีว่า ธุรกิจของชาวจีนหลายแห่งถูกโจมตี รวมทั้งมีคนจีนหลายคนได้รับบาดเจ็บ

------------