เปิดฉาก! เลือกตั้งสหรัฐฯ 'รัฐจอร์เจีย' คนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า มากสุดเป็นประวัติการณ์

รัฐจอร์เจีย หนึ่งในรัฐสมรภูมิของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประจำปีนี้ เปิดฉากการเลือกตั้งล่วงหน้าอย่างเป็นทางการเมื่อวานนี้ ผลปรากฏว่า มีคนออกมาลงคะแนนมากสุดเป็นประวัติการณ์

นายเกเบรียล สเตอร์ลิง (Gabriel Sterling) รองผู้อำนวยการคณะกรรมการเลือกตั้งรัฐจอร์เจียเปิดเผยว่า จนถึงเวลา 16.00 น. เมื่อวานนี้ (ตามเวลาท้องถิ่น) ซึ่งตรงกับเวลาประมาณ 03.00 น. วันนี้ (ตามเวลาในไทย) มีผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า 250,000 คน เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจาก 136,000 คนในวันแรกของการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อปี 2563 โดยนายสเตอร์ลิงได้โพสต์ข้อความลงบนสื่อสังคมออนไลน์ว่า “จำนวนผู้มาใช้สิทธิน่าทึ่งมาก”

ทั้งนี้ การเลือกตั้งล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นการมาลงคะแนนที่คูหาด้วยตัวเองหรือทางไปรษณีย์ได้รับความนิยมมากขึ้นในกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งในสหรัฐฯ ข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการการเลือกตั้งของมหาวิทยาลัยฟลอริดาระบุว่า ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด เมื่อปี 2563 มีคนออกมาเลือกตั้งล่วงหน้ามากเกือบ 1 ใน 7 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งประเทศ

อย่างไรก็ตาม สมาชิกพรรครีพับลิกันจำนวนมากพยายามคัดค้านการลงคะแนนเลือกตั้งทางไปรษณีย์ในปีนั้น เพราะมองว่า วิธีการดังกล่าวมีความปลอดภัยน้อยกว่าการลงคะแนนที่คูหาด้วยตัวเอง ซึ่งทรัมป์ได้กล่าวหาว่า มีการฉ้อโกงบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์และพยายามล้มผลการเลือกตั้งที่เขาพ่ายให้กับโจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครต

แม้ในตอนนี้เจ้าหน้าที่พรรคหลายคนจะสนับสนุนให้ประชาชนลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า แต่สมาชิกพรรคหลายคนยังคงยืนกรานสนับสนุนให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกไปลงคะแนนด้วยตัวเองในวันเลือกตั้งเท่านั้น

ขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการการเลือกตั้งเปิดเผยว่า ในปีนี้ ชาวอเมริกันออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าแล้วประมาณ 5.5 ล้านคน ในขณะที่ปี 2563 มีคนลงคะแนนล่วงหน้ามากถึง 27 ล้านคน เพราะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งพยายามหลีกเลี่ยงสถานที่แออัด

ตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งที่แล้วจนถึงตอนนี้ รัฐจอร์เจียและอีกหลายรัฐได้เพิ่มความเข้มงวดในการลงคะแนนเลือกตั้งทางไปรษณีย์ โดยมีการกำหนดให้ผู้ที่ต้องลงคะแนนล่วงหน้าด้วยวิธีการนี้ ต้องแสดงหลักฐานยืนยันตัวตนและจำกัดจำนวนสถานที่ที่สามารถฝากบัตรลงคะแนนได้

ในขณะเดียวกัน เมื่อวานนี้ ผู้พิพากษาของรัฐจอร์เจียได้สั่งระงับกฎใหม่ที่กำหนดให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจนับคะแนนเลือกตั้งด้วยมือในการเลือกตั้งปีนี้เป็นการชั่วคราว โดยให้เหตุผลว่าการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันก่อนการเลือกตั้งเพียงไม่กี่สัปดาห์จะทำให้เกิดความสับสนและความไม่แน่นอน

คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา คณะกรรมการการเลือกตั้งรัฐจอร์เจีย ซึ่งเป็นฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่ส่วนใหญ่สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์สั่งเปลี่ยนกฎใหม่ให้ใช้การนับคะแนนด้วยมือ ไม่ใช้เครื่องช่วยนับเหมือนที่ผ่านมา โดยอ้างว่า เพื่อความปลอดภัยและความโปร่งใสที่มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ทางพรรคเดโมแครตได้ออกมาโจมตีว่า การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบดังกล่าวจะทำให้เกิดความวุ่นวายและความล่าช้า

ทั้งนี้ รัฐจอร์เจียเป็นหนึ่งในรัฐสมรภูมิ หรือ สวิงสเตท (Swing State) ที่จะเป็นตัวตัดสินผลการเลือกตั้งครั้งนี้ และได้รับความสนใจเป็นอย่างมากเนื่องจากทรัมป์พยายามยึดรัฐนี้กลับคืนมาหลังพ่ายแพ้ให้กับไบเดนด้วยคะแนนเสียงที่ห่างกันเพียงเล็กน้อยเมื่อ 4 ปีก่อน

ล่าสุด ผลการสำรวจความนิยมจากสำนักข่าวรอยเตอร์/อิปซอสส์เปิดเผยว่า คามาลา แฮร์ริส ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตยังคงมีคะแนนความนิยมนำโดนัลด์ ทรัมป์จากพรรครีพับลิกันที่ 45% ต่อ 42%