ปธน. ‘ไล่ ชิงเต๋อ’ ลั่น! ‘ไต้หวัน’ ไม่เต็มใจอยู่ใต้คอมมิวนิสต์จีน เราต้องการ ‘ประชาธิปไตย’

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า ‘ไล่ ชิงเต๋อ’ ประธานาธิบดีไต้หวันได้เดินทางเยือนหมู่เกาะจินเหมินในวันนี้ (23 ส.ค. 2024) เป็นครั้งแรกนับตำแหน่งรับตำแหน่ง เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

เขาได้วางพวงมาลา และโค้งคำนับ แสดงความเคารพที่อนุสรณ์สถาน เนื่องในโอกาสครบรอบ 66 ปี ของการสู้รบระหว่างกองทัพจีน-ไต้หวัน ที่เป็นจุดเริ่มต้น ทำให้เกิดวิกฤตช่องแคบไต้หวันครั้งที่ 2

โดย ‘ไล่ ชิงเต๋อ’ ได้พูดคุยกับทหารผ่านศึกระหว่างการรับประทานอาหารกลางวันว่า ไต้หวันต้องต่อต้านภัยคุกคามจากจีนแผ่นดินใหญ่ เป้าหมายของพวกเขาคือการพัฒนาช่องแคบไต้หวันอย่างสันติ ชาวไต้หวันรักสันติภาพ และใจดี

พวกเขาไม่ได้ต้องการยึดแผ่นดินใหญ่กลับคืนมา แต่ก็ไม่เต็มใจที่จะอยู่ภายใต้การปกครองของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเช่นกัน

ไต้หวันต้องการดำเนินชีวิตที่มีอยู่ตามระบอบประชาธิปไตย ที่มี ‘เสรีภาพ - สิทธิมนุษยชน - หลักนิติธรรม’

เขายังกล่าวอีกว่า รัฐบาลจะเสริมสร้างกองกำลัง และทุ่มงบประมาณให้กับกองทัพมากขึ้น เพื่อปกป้องอธิปไตยของตัวเอง

โดยมีรายงานว่า ในปี 2025 รัฐบาลไต้หวันจะเพิ่มงบประมาณให้กับการป้องกันดินแดน 7.7% สำหรับจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ และขีปนาวุธ เพื่อเสริมกำลังในการยับยั้งภัยคุกคามจากจีน ที่กำลังเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ หมู่เกาะจินเหมิน รวมถึงหมู่เกาะหมาจู่ ที่ประธานาธิบดีไต้หวันเดินทางเยือนในวันนี้ อยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลไต้หวันมาตั้งแต่สมัยที่รัฐบาลสาธารณรัฐจีนของเจียงไคเช็คแพ้สงครามให้กับพรรคคอมมิวนิสต์ของ ‘เหมา เจ๋อตุง’  เมื่อปี 2492 แต่ทั้งสองฝ่ายก็ไม่ได้มีการลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพ หรือการสงบศึกกันแต่อย่างใด

หมู่เกาะจินเหมิน-หมู่เกาะหมาจู่ อยู่ห่างจากเมืองเซี่ยเหมิน มณฑลฝูเจี้ยน ของจีน เพียง 10 กิโลเมตร เท่านั้น แต่ห่างจากแผ่นดินหลักของไต้หวันถึง 187 กิโลเมตร

ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กองกำลังของจีนได้ออกลาดตระเวนบริเวณหมู่เกาะจินเหมินอยู่เรื่อย ๆ หลังจาก มีชาวจีน 2 คน เสียชีวิตบนเรือสปีดโบ๊ต ซึ่งจีนกล่าวหาว่า เป็นความผิดของไต้หวัน