'จีนแผ่นดินใหญ่' ออกกฎหมายขู่ 'ไต้หวัน' คิดแบ่งแยกดินแดน เจอโทษประหารชีวิต

จีนแผ่นดินใหญ่ยื่นคำขาด ออกกฎหมายขู่ชาวไต้หวัน หากคิดนอกกรอบแบ่งแยกดินแดน โทษคือประหารชีวิต

ท่ามกลางความขัดแย้งประเด็นการแบ่งแยกดินแดนของจีนและไต้หวัน ขณะที่รัฐบาลจีนก็มีการประณามกลุ่มที่เคลื่อนไหวประเด็นดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทางการจีนมีการเรียกร้องให้ประณาม “แกนนำ” กลุ่มหัวแข็งที่ต่อต้านให้ไต้หวันอยู่ใต้จีนแผ่นดินใหญ่ รวมไปถึงเปิดเผยบทลงโทษที่รุนแรงไปจนถึงขั้นประหารชีวิต - การเรียกร้องนี้เป็นเพียงถ้อยคำที่คุ้นเคยของปักกิ่งที่ขู่โจมตีไต้หวันมาอย่างต่อเนื่อง และดูเหมือนว่ากำลังกลายเป็นความจริง

เกาะที่ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยแห่งนี้คุ้นเคยกับคำกล่าวอ้างของจีน รวมถึงสิ่งยั่วยุต่าง ๆ อย่างเครื่องบินและเรือที่ทดสอบการป้องกันประเทศก็กลายเป็นสิ่งปกติ แต่การเคลื่อนไหวล่าสุดที่ทำให้การแบ่งแยกดินแดนเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ทำให้ชาวไต้หวันที่อาศัยและทำงานในประเทศจีนและประเทศบ้านเกิดรู้สึกไม่สบายใจคือ การที่ศาลฎีกาได้ออกกฎหมายอนุญาตให้มี "โทษจำคุกตลอดชีวิต" รวมถึง "โทษประหารชีวิต" สำหรับผู้ที่กระทำความผิดฐานเรียกร้องเอกราชของไต้หวัน

สำนักงานกิจการไต้หวันของจีนรีบยืนยันกับชาวไต้หวันจำนวน 23 ล้านคนว่าเรื่องนี้ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่พวกเขา แต่เป็น “นักเคลื่อนไหวเรียกร้องเอกราชหัวรุนแรง” อีกทั้งกล่าวว่า “ชาวไต้หวันส่วนใหญ่ไม่มีอะไรต้องกลัว” แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ชาวไต้หวันมั่นใจและเชื่อมั่นได้เลย

เรื่องนี้ได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อทางการจีนเปิดตัวเว็บไซต์ที่ระบุตัวตนบุคคลสาธารณะของไต้หวันที่ถูกมองว่าเป็นพวกแบ่งแยกดินแดน

เว็บไซต์ดังกล่าวมีที่อยู่อีเมลที่ผู้คนสามารถส่ง “เบาะแสและอาชญากรรม” เกี่ยวกับบุคคลอื่นที่พวกเขาสงสัยได้ โดยนักวิชาการเชื่อว่าปักกิ่งหวังที่จะเลียนแบบความสำเร็จของกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติของฮ่องกง ซึ่งระบุว่ามีความจำเป็นต่อเสถียรภาพ แต่กฎหมายเหล่านี้กลับบดขยี้ขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยของเมือง ที่อาจทำให้อดีตสมาชิกรัฐสภา นักเคลื่อนไหว และประชาชนทั่วไปที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ถูกจำคุกภายใต้กฎหมายดังกล่าว

ไต้หวันซึ่งมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งกับสหรัฐฯ สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น ปฏิเสธแผนของปักกิ่งในการ "รวมชาติ" แต่ความกลัวกลับเพิ่มมากขึ้น เมื่อสีจิ้นผิงของจีนได้เร่งเวลาเพื่อยึดครองเกาะ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนประกาศไว้