เริ่มแล้ว! เปิดลงคะแนนเลือกตั้งสหรัฐฯ ชี้ชะตา 'ทรัมป์-แฮร์ริส' ใครคือ ปธน.ผู้นำโลก

วันอังคาร ที่ 5 พฤศจิกายน 2567 วันเลือกตั้งสหรัฐอเมริกา หลังเสร็จสิ้นการหาเสียงของ 2 ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ ทรัมป์ขึ้นเวทีสุดท้ายใน 3 รัฐ พร้อมขู่เก็บภาษีจากเม็กซิโกและจีน ส่วนแฮร์ริสขึ้นเวทีสุดท้ายที่เพนซิลเวเนีย และให้คำมั่นว่าจะเป็นประธานาธิบดีเพื่อชาวอเมริกันทุกคน ส่วนในวันนี้ ชาวอเมริกันเริ่มออกไปหย่อนบัตรลงคะแนนกันแล้ว



มาดูความเคลื่อนไหวของโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกันกันก่อน เมื่อวานนี้ ทรัมป์เดินทางไปหาเสียงใน 3 รัฐสมรภูมิ คือ นอร์ทแคโรไลนา, เพนซิลเวเนีย, และมิชิแกน เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนที่ยังไม่ลงคะแนนออกไปกาบัตรเลือกตั้งในวันนี้



ไฮไลท์สำคัญของหาเสียงเมื่อวานนี้อยู่ที่รัฐเพนซิลเวเนีย โดยทรัมป์ได้ปรากฏตัวต่อหน้าฝูงชนที่สนามกีฬาในเมืองพิตส์เบิร์ก เขากล่าวปราศรัยด้วยการชูประเด็นด้านเศรษฐกิจ และว่าหากแฮร์ริสชนะการเลือกตั้ง เธอจะนำความทุกข์ยากทางเศรษฐกิจมาให้กับประเทศ



ทรัมป์ยังบอกด้วยว่าหากเขาชนะการเลือกตั้ง เขาจะเรียกเก็บภาษีสินค้า 25% จากเม็กซิโกหากยังไม่หยุดส่งผู้อพยพและยาเสพติดที่ชื่อว่า "เฟนทานิล" เข้ามาในประเทศ ขณะเดียวกัน ทรัมป์ก็บอกว่าจะเก็บภาษีสินค้าในอัตราเดียวกันกับจีนด้วย ฐานที่ส่งเฟนทานิลไปยังเม็กซิโก



ต่อมาทรัมป์ขึ้นเวทีส่งท้ายการหาเสียงของตัวเองที่สนามกีฬาแวนแอนเดลในเมืองแกรนด์ราปิดส์ รัฐมิชิแกน ซึ่งเขาเดินทางมาถึงงานหาเสียงจุดนี้ล่าช้าไปถึง 2 ชั่วโมงทำให้การปราศรัยของเขาจบลงในตอนตี 2 ตามเวลาท้องถิ่น



ทรัมป์ยังคงกล่าวโจมตีคู่แข่งของเขา รองประธานาธิบดีแฮร์ริสโดยตรง พร้อมกับบอกกับผู้สนับสนุนว่าเขาจะชนะการเลือกตั้งในวันนี้ และจะเป็นชัยชนะทางการเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ นอกจากนี้ เขายังพูดโจมตีปัญหาชายแดนและเศรษฐกิจในยุคของไบเดนกับแฮร์ริสด้วย



ทรัมป์ยังคงเน้นย้ำจุดมุ่งหมายของเขาที่ต้องการให้มีการลงโทษด้วยการประหารชีวิตกับผู้อพยพที่ก่อเหตุสังหารเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายและพลเมืองอเมริกัน



ส่วนทางด้านคามาลา แฮร์ริสเดินทางไปหาเสียงตามเมืองต่าง ๆ ในรัฐเพนซิลเวเนีย ที่มีคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง 19 เสียงมากที่สุดใน 7 รัฐสมรภูมิ นอกจากนี้ เธอกับทีมหาเสียงยังออกไปเคาะประตูบ้านของประชาชนในเมืองรีดดิ้ง เพื่อขอคะแนนเสียงให้กับตัวเองด้วย



ที่เมืองแอลเลนทาวน์ แฮร์ริสได้ขึ้นเวทีหาเสียงและปราศรัย โดยบอกว่าเธอทำนายไว้ว่าเธอจะชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ พร้อมกับให้คำมั่นสัญญาว่าจะเป็นประธานาธิบดีของ "ชาวอเมริกันทุกคน" ต่อมาแฮร์ริสได้ขึ้นเวทีหาเสียงต่อที่เมืองพิตส์เบิร์ก เมืองเดียวกับทรัมป์ และกล่าวกับฝูงชนว่า ตอนนี้ โมเมนตัมของการหาเสียงมาอยู่ข้างเธอแล้ว แฮร์ริสยังเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนอย่าเขินอาย ที่จะขอให้คนใกล้ชิดออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง อย่างไรก็ดี การปราศรัยที่พิตส์เบิร์กของแฮร์ริสเกิดขึ้นเพียงสั้น ๆ เท่านั้น แค่ประมาณ 10 นาที



แฮร์ริสปิดท้ายการหาเสียงของตัวเองที่เวทีหาเสียงในเมืองฟิลาเดลเฟีย พร้อมกับมีคนดังตบเท้าเข้าร่วมงานมากมาย เช่น เลดี้ กาก้า, ริกกี้ มาร์ติน, และโอปราห์ วินฟรีย์



แฮร์ริสกล่าวว่า คืนนี้เธอจะจบสิ่งที่เริ่มต้นทำมาด้วยการมองโลกในแง่ดี, ด้วยพลัง, และความสนุกสนาน และเธอก็พร้อมแล้วที่จะเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม เธอบอกว่าการแข่งขันยังไม่จบ เธอจะต้องจบการเลือกตั้งนี้อย่างแข็งแกร่ง และว่าการเลือกตั้งในครั้งนี้อาจเป็นการแข่งขันที่สูสีมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ดังนั้น ทุกเสียงของประชาชนล้วนมีความหมาย



นอกจากนี้ เธอยังเน้นย้ำว่าจะดำเนินนโยบายต่าง ๆ ที่ได้มีการหาเสียงมา เช่น การลดค่าครองชีพ ที่อยู่อาศัย การดูแลเด็ก การดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน และการลดภาษีสำหรับคนงานกับธุรกิจขนาดเล็ก เธอยังให้คำมั่นว่าจะผลักดันกฎหมายให้สิทธิเสรีภาพในการสืบพันธุ์และทำแท้ง



แฮร์ริสยังได้อ้อนวอนขอคะแนนจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่เป็นคนรุ่นใหม่หรือคนที่มีสิทธิ์เลือกตั้งครั้งแรก โดยบอกว่าเธอมองเห็นพลังในตัวของคนกลุ่มนี้ และเธอก็รู้สึกภาคภูมิใจในตัวของพวกเขา



ล่าสุด การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว โดยที่แรกที่เปิดให้ประชาชนลงคะแนนคือ ชุมชนเล็ก ๆ ในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ที่ชื่อว่า "ดิกซ์วิลล์นอตซ์" ชุมชนแห่งนี้มีธรรมเนียมปฏิบัติว่าจะเปิดคูหาให้ประชาชนลงคะแนนเลือกตั้งตอนเที่ยงคืนของวันเลือกตั้ง ซึ่งครั้งนี้ก็ตรงกับวันที่ 5 พฤศจิกายน



ปีนี้ มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 6 คน โดยก่อนการเลือกตั้งมี 4 คนประกาศตัวว่าเป็นผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกัน ส่วนอีก 2 คนไม่เปิดเผยว่าสนับสนุนพรรคใด



ดิกซ์วิลล์นอตซ์สืบทอดธรรมเนียมนี้มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1960 โดยผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทุกคนในชุมชนจะมารวมตัวกันเมื่อหน่วยเลือกตั้งเปิดทำการ หลังจากทยอยลงคะแนนแบบส่วนตัวจนครบทุกคนแล้ว ก็จะมีการนับคะแนนและประกาศผลให้ทุกคนทราบทันที และในรอบนี้ ผลที่ออกมาคือ รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต และอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ได้คะแนนไปคนละ 3 คะแนน



ส่วนที่อื่น ๆ ก็เริ่มเปิดคูหาให้ประชาชนออกไปลงคะแนนกันแล้ว เช่นที่นิวยอร์ก มีประชาชนเดินทางไปลงคะแนนที่คูหากันตั้งแต่เช้าตรู่ เช่นเดียวกันกับเมืองชาร์ลอตส์วิลล์ รัฐเวอร์จิเนีย มีประชาชนทยอยออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันเรื่อย ๆ



ส่วนผลสำรวจคะแนนนิยมล่าสุดที่จัดทำโดย ไฟว์ เทอร์ตี้ เอท (538) ร่วมกับ เอบีซี นิวส์ (ABC News) แฮร์ริสยังคงมีคะแนนนำทรัมป์เพียงแค่ 1% คือ 48% ต่อ 47% หากมาดูเฉพาะในรัฐสมรภูมิ 7 รัฐ จะพบว่าผลคะแนนนิยมมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย จากเดิมที่ทรัมป์นำแฮร์ริสอยู่ 5 รัฐ และแฮร์ริสนำทรัมป์อยู่ 2 รัฐ ตอนนี้ ผลเปลี่ยนไปว่า ทรัมป์นำแฮร์ริสลดลงเหลือ 4 รัฐ คือ เนวาดา, จอร์เจีย, นอร์ทแคโรไลนา, และแอริโซนา ส่วนแฮร์ริสนำทรัมป์ 3 รัฐ คือ เพนซิลเวเนีย, มิชิแกน, และวิสคอนซิน



แต่ที่ต้องจับตามากที่สุดคือ รัฐเพนซิลเวเนีย เนื่องจากมีคะแนนคณะผู้เลือกตั้งมากที่สุด และผู้สมัครทั้ง 2 คนมีคะแนนนิยมห่างกันอยู่ไม่มาก โดยแฮร์ริสนำทรัมป์อยู่แค่ 0.1% เท่านั้น ดังนั้น หากใครคว้าชัยที่รัฐนี้ ก็อาจจะชนะการเลือกตั้งเลยก็ได้



เนื่องด้วยสหรัฐฯเป็นประเทศขนาดใหญ่ และยังมีโซนเวลาที่แตกต่างกัน ดังนั้นแต่ละรัฐจะเปิดปิดหีบเลือกตั้งที่ไม่เหมือนกัน



รัฐที่อยู่ในโซนตะวันออกจะเริ่มการเปิดปิดหีบเลือกตั้งก่อน จุดแรกที่ปิดหีบเลือกตั้งคือเวลา 19 นาฬิกาตามเวลาเขตตะวันออก หรือ eastern time ตรงกับ 7 นาฬิกาพรุ่งนี้ตามเวลาบ้านเรา มีทั้งหมด 6 รัฐ คือ จอร์เจีย, อินเดียนา, เคนทักกี, เซาท์ แคโรไลนา, เวอร์มอนต์ และเวอร์จิเนีย ในชุดนี้ จอร์เจียเป็นรัฐสมรภูมิ



อีกครึ่งชั่วโมงต่อมา รัฐที่ปิดหีบตามมาในเวลา 19 นาฬิกา 30 นาที ตามเวลาเขตตะวันออก หรือ 7 นาฬิกา 30 นาทีตามเวลาบ้านเรา มี 3 รัฐคือ นอร์ท แคโรไลนา, โอไฮโอ และเวสต์ เวอร์จิเนีย โซนเวลานี้ เราจับตาผลเลือกตั้งที่ นอร์ท แคโรไลนา ซึ่งเป็นรัฐสมรภูมิ



20 นาฬิกา ตามเวลาเขตตะวันออก หรือ 8 นาฬิกาบ้านเรา อีก 16 รัฐ กับอีก 1 เขตคือ กรุงวอชิงตัน ดีซี. ก็จะปิดหีบเลือกตั้ง ช่วงเวลานี้จับตาที่เพนซิลเวเนีย รัฐสมรภูมิที่มีคะแนนคณะผู้เลือกตั้งมากที่สุดคือ 19 คะแนน



อีกครึ่งชั่วโมงต่อมา 20 นาฬิกา 30 นาที หรือ 8 นาฬิกา 30 นาทีเวลาบ้านเรา มีปิดหีบแค่รัฐเดียวคือ อาร์คันซอ



21 นาฬิกา หรือ 9 นาฬิกาบ้านเรา จะปิดหีบทั้งหมด 14 รัฐ ในชุดนี้มี 3 รัฐสมรภูมิ คือ แอริโซนา มิชิแกน และวิสคอนซิน



อีก 1 ชั่วโมง คือ 22 นาฬิกาตามเวลาเขตตะวันออก หรือ 10 นาฬิกาบ้านเรา ปิดหีบอีก 4 รัฐ และเนวาด้า คือรัฐสมรภูมิ



23 นาฬิกาเขตตะวันออก หรือ 11 นาฬิกาเวลาบ้านเรา ปิดหีบที่รัฐแคลิฟอร์เนีย, ไอดาโฮ, โอเรกอน และวอชิงตัน



24 นาฬิกา หรือ 12 นาฬิกาบ้านเรา เป็นเวลาปิดหีบของรัฐฮาวาย



และสุดท้าย 1 นาฬิกาตามเวลาเขตตะวันออก หรือ 13 นาฬิกาบ้านเรารัฐสุดท้ายที่ปิดหีบคือ อลาสก้า



ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อ 4 ปีที่แล้วคือปี 2020 ต้องใช้เวลา 4 วัน หลังปิดหีบเลือกตั้ง จึงมีกาศประกาศให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เป็นผู้ชนะ