‘อิสราเอล’ ประกาศ เตรียมเอาคืน ‘อิหร่าน’ แม้นานาชาติอ้อนวอน

อิสราเอล เตรียมดำเนินการเอาคืนอิหร่าน หลังถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนกว่า 300 ลูก ด้านนานาชาติออกมาอ้อนวอนให้หลีกเลี่ยง

พล.ท.เฮอร์ซี ฮาเลวี (Herzi Halevi) เสนาธิการกองกำลังป้องกันอิสราเอล หรือ IDF ยืนยัน เมื่อวานนี้ว่า การที่อิหร่านยิงขีปนาวุธ และโดรนหลายร้อยลูกเข้ามาในดินแดนของอิสราเอล จะต้องได้รับการตอบสนอง เพราะเป็นการกระทำที่อุกอาจ แต่เขายังไม่ได้ให้รายละเอียดที่แน่ชัด โดยสื่อต่างประเทศรายงานว่า ขณะที่พลโทฮาเลวีกล่าวแถลงนั้น เขายืนอยู่ด้านหน้าเครื่องบินขับไล่ F-35 ซึ่งเป็นเครื่องบินที่อิสราเอลเคยนำมาใช้ในการสกัดกั้นการโจมตีจากอิหร่าน จึงมีการคาดการณ์ว่า อิสราเอลอาจจะนำเครื่องบินรุ่นนี้มาใช้ในการตอบโต้อิหร่านอีกครั้ง

ประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังจากนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ได้เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีสงครามเป็นครั้งที่ 2 แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีรายงานผลการประชุมออกมา

อย่างไรก็ดี นานาชาติต่างพากันออกมาอ้อนวอน ขอให้อิสราเอลใช้ความอดทนอดกลั้น ไม่โจมตีตอบโต้อิหร่าน เพื่อไม่ทำให้สถานการณ์ความขัดแย้ง ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ลุกลามบานปลายมากไปกว่านี้ โดยเฉพาะประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐอเมริกาที่เมื่อวานนี้ ได้เน้นย้ำว่า สหรัฐฯ มีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนความมั่นคงของอิสราเอลต่อไป แต่เขาก็ต้องการให้อิสราเอลป้องกัน ไม่ให้สถานการณ์ความขัดแย้งลุกลามบานปลายไปมากกว่านี้

ทางอิหร่านออกมาตอบโต้แถลงการณ์ของพลโทฮาเลวี โดยนายอาลี บาเกรี คานี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิหร่านกล่าวกับ สถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลว่า อิหร่านจะไม่ยอมอยู่เฉยอีกแน่นอนหากถูกอิสราเอลโจมตี และพวกเขาจะตอบโต้ด้วยวิธีการที่รวดเร็วและรุนแรงมากขึ้น

เมื่อวานนี้ ชาวอิหร่านจำนวนมาก รวมตัวกันที่ใจกลางกรุงเตหะราน ใกล้กับสถานทูตอิสราเอลเก่า เพื่อแสดงการสนับสนุนต่อการโจมตีอิสราเอลของอิหร่าน โดยผู้ชุมนุมพากันโบกธงชาติอิหร่าน, ธงของหน่วยพิทักษ์การปฏิวัติ, และธงปาเลสไตน์

ขณะที่ ในวันนี้ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ได้เดินทางไปพบปะกับทหารใหม่ของกองทัพ และให้คำมั่นสัญญาว่าจะปกป้องกันอิสราเอลจากอิหร่าน เขากล่าวหาอิหร่านว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหลังกลุ่มฮามาส ฮิซบอลเลาะห์ และกองกำลังอื่น ๆ อีกมากมาย แต่อิสราเอลมีความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะ และปกป้องตัวเองในทุกๆทาง

ส่วนทางด้าน นายราฟาเอล กรอสซี ผู้อำนวยการใหญ่ของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือ IAEA ออกมาแสดงความวิตกกังวลว่า อิสราเอลอาจพุ่งเป้าหมายการโจมตี ไปยังโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน ซึ่งเขามีความวิตกกังวลในเรื่องนี้มาโดยตลอด จึงเรียกร้องให้อิสราเอลใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างถึงที่สุด

แม้การโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนกว่า 300 ลูกจากอิหร่าน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จะไม่มีผู้เสียชีวิตและสร้างความเสียหายเพียงเล็กน้อยให้กับอิสราเอล แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สร้างความวิตกกังวลเป็นอย่างมากว่า อาจทำให้สถานการณ์ความรุนแรงและความตึงเครียดในตะวันออกกลางแผ่ขยายออกไป การโจมตีที่เกิดขึ้นยังถือเป็นครั้งแรกที่อิหร่านเปิดฉากโจมตีทางทหารต่ออิสราเอลโดยตรง แบบไม่ผ่านกองกำลังตัวแทนที่อิหร่านให้การสนับสนุน แม้ว่าทั้งสอง จะมีความขัดแย้งกันมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ นับตั้งแต่การปฏิวัติอิสลามในอิหร่าน เมื่อปี 2522