คลิปเต็มรายการ

ถึงเวลาไทยต้องเปิดศึกรบเต็มรูปแบบ หลังเขมรส่งโดรนพลีชีพ บินลอบโจมตีไม่ยั้ง

12 ธ.ค. 2568

51 views

รายการโหนกระแสวันนี้ (12 ธันวาคม 2568) เกาะติดสถานการณ์ร้อนแรง บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังคงมีการปะทะกันอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง โดยทางรายการได้เชิญ รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง, รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, อาจารย์จรรยวรรธน์ ชาติอนุลักษณ์ นายกสมาคมอากาศยานไร้คนขับแห่งประเทศไทย และ นายกรกต เกตุแก้ว อดีตทหารพรานค่ายปักธงชัย มาร่วมวิเคราะห์เจาะลึกในทุกประเด็น



รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ได้อธิบายถึงข้อกังวลเรื่องอำนาจการสั่งการหลังยุบสภาว่า แม้จะเป็นช่วงรอยต่อทางการเมือง แต่ระบบบริหารราชการแผ่นดินได้ถูกออกแบบมารองรับสถานการณ์วิกฤตไว้แล้ว หากรัฐบาลไม่สามารถบริหารงานได้ตามปกติ กลไกอำนาจด้านความมั่นคงจะถูกโอนไปสู่ "สภาความมั่นคงแห่งชาติ" ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน พร้อมด้วยคณะกรรมการรวม 18 คน



สำหรับสถานการณ์การสู้รบในปัจจุบัน รศ.ดร.ปณิธาน มองว่าในทางยุทธวิธี ไทยกำลังพยายามผลักดันกองกำลังกัมพูชาออกจากพื้นที่เพื่อจัดทำ "เขตปลอดภัย" หรือ Safe Zone ซึ่งขณะนี้เริ่มเห็นสัญญาณจากฝั่งกัมพูชาว่าต้องการหาทางลง หรือ Exit Strategy โดยพยายามดึงมหาอำนาจอย่างจีนหรือสหรัฐฯ เข้ามาไกล่เกลี่ย ซึ่ง รศ.ดร.ยุทธพร เสริมว่า "End Game" ของศึกครั้งนี้ไม่ใช่การแพ้ชนะแบบเบ็ดเสร็จ แต่เป้าหมายคือการรักษาอธิปไตยของไทยให้ได้ครบถ้วนสมบูรณ์ และตัดทอนขีดความสามารถทางการรบของกัมพูชาไม่ให้กลับมาเป็นภัยคุกคามได้อีก



ส่วนเรื่อง "โดรนพลีชีพ" (Kamikaze) ที่สร้างความเสียหายให้กับฝั่งไทย รศ.ดร.ปณิธาน เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกว่า การรบครั้งนี้มีความซับซ้อนกว่าในอดีต เพราะมีกลุ่มทหารรับจ้าง หรือผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทเอกชนด้านความมั่นคง (PMC) เข้ามาเกี่ยวข้องในการฝึกสอนและควบคุมระบบเทคโนโลยีให้กับกัมพูชา



อาจารย์จรรยวรรธน์ นายกสมาคมโดรนฯ ได้นำตัวอย่างโดรนมาสาธิตพร้อมอธิบายว่า โดรนที่ใช้โจมตีเป็นแบบ FPV (First Person View) ที่ผู้บังคับจะสวมแว่นตาเห็นภาพเสมือนนั่งอยู่บนเครื่อง ทำให้สามารถบินด้วยความเร็วสูงหลบหลีกสิ่งกีดขวางพุ่งชนเป้าหมายได้แม่นยำ โดยมีการดัดแปลงวงจรจุดระเบิดแบบง่ายๆ ด้วยลวดทองแดงที่ส่วนหัว เมื่อเกิดการปะทะลวดจะแตะกันครบวงจรและระเบิดทันที ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่หาได้ทั่วไปแต่มีประสิทธิภาพการทำลายล้างสูง



นายกรกต เกตุแก้ว อดีตทหารพรานค่ายปักธงชัย ระบุว่ายุทธวิธี "สงครามจำกัดขอบเขต" (Limited War) ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ทำให้ฝ่ายไทยเสียเปรียบ เพราะเมื่อยึดพื้นที่ได้แล้วกลับต้องถอยลงมาตามคำสั่ง ทำให้ข้าศึกกลับมายึดพื้นที่เดิมได้อีก ต่างจากในอดีตสมัยรบกับเวียดนามหรือเขมรแดง ที่ใช้ยุทธวิธีรุกรบเต็มรูปแบบ กวาดล้างลึกเข้าไปในดินแดนข้าศึกเพื่อตัดเส้นทางลำเลียงจนฝ่ายตรงข้ามต้องยอมจำนน



ซึ่งนายกรกตประกาศกลางรายการว่า ขณะนี้มีอดีตทหารพรานและทหารเก่ากว่าหลายพันคน พร้อมที่จะอาสากลับไปช่วยรบครั้งสุดท้ายเพื่อชาติ ในอดีตพวกเราลุยอย่างเดียวไม่มีถอยหลัง ค่ำที่ไหนนอนที่นั้นไล่ล่าทหารเขมรอย่างเดียว ตายสนามรบถือเป็นเกียรติของทหาร มั่นใจว่าประสบการณ์ในสนามรบ และความชำนาญพื้นที่ของคนรุ่นเก๋า เป็นสิ่งที่เทคโนโลยีสมัยใหม่ไม่สามารถทดแทนได้ และเชื่อว่าหากได้รับโอกาสจะสามารถช่วยให้สถานการณ์จบลงได้เร็วกว่านี้

แท็กที่เกี่ยวข้อง  โหนกระแส ,รายการโหนกระแส

คุณอาจสนใจ

Related News