หวั่นปะทะรอบสอง! เขมรยั่วยุไม่เลิก ท้าทายอธิปไตยไทยทุกวัน

รายการโหนกระแสวันนี้ (26 ก.ย. 2568) พูดคุยถึงสถานการณ์ความตึงเครียด บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่กลับมาร้อนระอุอีกครั้ง โดยมีแขกรับเชิญร่วมพูดคุย ได้แก่ กัน จอมพลัง, มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข และ รศ.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช



รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย ระบุว่า ตอนนี้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา มีโอกาสปะทะกันอีกครั้ง เพราะความขัดแย้งยืดเยื้อ กัมพูชาเขาเปลี่ยนยุทธวิธี รอวันให้ไทยพลาดพลั้ง ไทยต้องรุกแบบมีชั้นเชิง เราต้องไม่เสียเปรียบเขมร ถ้าเขาไม่ใช้อาวุธ เราต้องไม่ใช้อาวุธ ถ้าเขารุกล้ำดินแดน เราก็ต้องผลักดัน ถ้าเอา F-16 ขึ้นไปจัดการ เราจะเสียเปรียบในเวทีโลกทันที



มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยต้องใช้ความเด็ดขาด เนื่องจากที่ผ่านมาไทยอดทน และใช้แนวทางสันติตามหลักสากลมาโดยตลอด เมื่อมีการยั่วยุจากฝั่งกัมพูชา ไทยทำได้เพียงส่งจดหมายไปแจ้งเตือน และกดดันให้ปฏิบัติตามกติกา แต่ที่ผ่านมาก็เห็นได้ชัดว่า กัมพูชาไม่ได้ทำตามกติกาแต่อย่างใด ถ้าฟังจากทหารแถลงข่าวบอกพร้อม 100% เขาพร้อมสู้ พร้อมรบ พร้อมตาย เป็นลักษณะเชิงรับ ไม่ใช่ลักษณะเชิงรุก วันนี้เขาเคลื่อนรถถังมารอแล้ว เดี๋ยว “มาลี” ก็ออกมาโกหกทุกเรื่อง วันนี้เขมรพลาดไม่รู้กี่รอบแล้ว ทำไมเราต้องลดความหล่อไปเทียบกับเขมร วันนี้ประเทศเราหมดเวลาซุกปัญหาไว้ใต้พรมได้แล้ว



"ถ้าไม่มีคนคลั่งชาติไปเป็นทหาร คุณจะไม่มีใครรักษาแผ่นดินให้คุณ ถ้าไม่มีคนคลั่งชาติ จะไม่มีใครเสียสละแม้กระทั่งความสุข ความเป็นส่วนตัว ไปปกป้องบ้านให้คุณ คนคลั่งชาติคือคนดี คนคลั่งชาติคือคนมีคุณภาพ อย่าไปบูลลี่ใครว่าเป็นคนคลั่งชาติ ทหารถ้าไม่คลั่งชาติ เขาจะไปอยู่ทำไม เสียขา เสียอะไร เขาก็กลับบ้านไปหาลูกหาเมียเขาสิ" มัลลิกา กล่าว



กัน จอมพลัง ระบุว่า ทหารที่อยู่แนวหน้าเองก็มีความรู้สึกรักและหวงแหนแผ่นดินเกิด หรือ "คลั่งชาติ" ในความหมายที่ดี และพวกเขาก็พร้อมที่จะสละชีวิตเพื่อปกป้องประเทศ เขาเห็นว่าการต่อสู้ไม่ได้มีแค่กับฝ่ายตรงข้าม แต่ยังต้องต่อสู้กับความคิดเห็นของคนในชาติเดียวกันที่เขาเรียกว่า "โลกสวย" ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ไม่เคยลงไปสัมผัสความยากลำบากในพื้นที่จริง ทำได้เพียงวิจารณ์โดยไม่มีการลงมือช่วยเหลือที่เป็นรูปธรรม