ถูกกฎหมายแต่ผิดศีลธรรม? ดาราดังซื้อหุ้นเพิ่ม 4% บานปลายสู่ศึกฮุบหุ้นบริษัท 100 ล้าน

โหนกระแสวันนี้ (18 ก.ย.) ท่ามกลางกระแสดรามา ออม สุชาร์ ที่ถูกพาดพิงว่าเป็นดาราแอบซื้อหุ้น เพื่อฮุบบริษัท ที่ร่วมก่อตั้งมากับหุ้นส่วน โดยวันนี้มี พริม ณัฐชา ผู้เสียหาย และศสา อดีตผู้จัดการ มาร่วมพูดคุย



ศสา อดีตผู้จัดการ กล่าวว่า วันนั้นออมให้ไปกินข้าวที่บ้าน และเขาบอกว่าพริมไม่เก่งนะ ทำบริษัทขาดทุน ถ้าปล่อยเอาไว้บริษัทพังแน่นอน บริหารงานผิดพลาด วันที่โน้มน้าวให้ตนขายหุ้น มีหลายคนในครอบครัวเขาช่วยกันพูด ครั้งแรกเขาขอซื้อหุ้น 4% จำนวน 1 ล้านบาท แต่พอขอดูผลประกอบการเขาก็ไม่ให้ดู พอวันนี้รู้ความจริงทั้งหมดถือว่าขายหุ้นโดยมิชอบ เพราะถูกปกปิดข้อมูลความจริงว่า บริษัทเป็นหนี้เต็มไปหมด เหลือเงินแค่ 6 ล้านบาท แต่ความจริงมีกำไร 50 ล้านบาท หลังจากนั้นเขาก็ให้เซ็นสัญญารักษาความลับ ถ้านำไปเปิดเผยจะถูกปรับ 5 แสนบาท



พริม ณัฐชา ผู้เสียหาย กล่าวว่า เรื่องการขายหุ้นทั้งหมดไม่ได้ทราบตั้งแต่ต้น หนูมารู้ความจริงอีกทีในที่ประชุม พอบริษัทมีปัญหาหนูก็จะโทรหาพี่ศสา เพราะเขาก็เป็นผู้ถือหุ้น แต่ออมบอกว่าไม่ต้องโทรซื้อไปแล้ว 4% แต่เรื่องผิดปกติตั้งแต่เดือน ก.พ. เพราะเขาจะปลดหนูออกจากกรรมการ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะหุ้นเรา 48% เท่ากัน ช่วงเดือนเมษายนเขาก็ปลดหนูออกจากกรรมการ ซึ่งกรรมการใหม่ทั้งหมด คือครอบครัวของเขา หลังจากนั้นหนูก็ไม่สามารถเข้าถึงโซเชียลของแบรนด์ ระบบหลังบ้าน ไม่สามารถเห็นยอดขาย ปันผลก็ไม่ได้ เงินเดือนก็ไม่มี ตอนนี้กลายเป็นคนตกงาน ทั้งที่บริษัทนี้สร้างมาเองกับมือ



ศสา อดีตผู้จัดการ กล่าวว่า พอตนรู้ความจริงว่าบริษัทไม่ได้ขาดทุน ตนก็เลยขอคืนเงิน พร้อมขอเลขบัญชี บอกไม่เอาแล้ว 2.5 ล้าน ขอหุ้น 4% คืนมา ปรากฎว่าถูกปฏิเสธ และเขาก็ฟ้องกลับมา 1.ละเมิดการเก็บความลับ 2.ทำให้เขาถือครองหุ้นโดยไม่ปกติสุข



แอมป์ พิธาน โต้ประเด็นที่บอกว่าออมโกหกไม่รู้งบ คนที่ทำบัญชีคือญาติของม่อน (สามีของพริม) ไม่ได้ออกงบทุกเดือน และเราพยายามคุยพริมมาตลอด แต่เขาโจมตีผ่านโซเชียลมาตลอด ส่วนเรื่องพรีเซ็นเตอร์เราแค่อนุมัติออมทำงาน แต่ไม่ได้อนุมัติจ่าย 9 ล้าน ซึ่งบริษัทไม่มีความเสียหาย