วิเคราะห์พฤติกรรม "สิงโต" หลังเหตุเขย่าขวัญ รุมขย้ำจนท. มองเคสนี้ไม่ใช่หยอกเล่น แต่เป็น "การล่าเหยื่อ"

โหนกระแสวันนี้ (11 ก.ย. 68) ร่วมพูดคุยวิเคราะห์พฤติกรรม เหตุ “สิงโต” รุมขย้ำเจ้าหน้าที่ดับคาสวนสัตว์



พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์ โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า ระบุว่า ผมอยู่ในรถยนต์ส่วนตัว ห่างจากที่เกิดเหตุ 30 เมตร ตอนนั้นเห็นสิงโตตัวหนึ่ง ยืนอยู่ริมถนนจ้องไม่ขยับ จากนั้นมันค่อย ๆ เดินไปข้างหลังเจ้าหน้าที่ และสิงโตตัวอื่น ๆ ค่อยเดินเข้ามากระชาก แต่ตอนนั้นไม่รู้จะลงไปช่วยยังไง ทำได้แค่บีบแตรไล่



ภรรยา ของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้ เพราะขาดเสาหลักครอบครัว ขาดเขาไปไม่รู้จะเดินต่อยังไง เมื่อวานนี้ไม่กล้าเข้าไปดูร่าง เขาเคยพูดว่าเหนื่อยแต่ขอสู้อีก 2 ปี รอได้เงินเกษียณนำเงินไปซื้อที่เล็ก ๆ อยู่ต่างจังหวัด อยู่กันสองตายาย



เต้ย อุปนายกสมาคมผู้นิยมสัตว์เลี้ยชนิดพิเศษ ระบุว่า ในประเทศไทยคนเลี้ยงสิงโตเยอะ ส่วนใหญ่จะขึ้นทะเบียน สิงโตถือว่าอันตรายมาก เพราะแรงเยอะ มีน้ำหนักตัวประมาณ 100-200 กิโลกรัม กระโจนใส่ทีเดียวเหมือนถูกรถชน ถ้าฝึกเป็นก็จะเชื่อง ต้องดูนิสัยลักษณะของแต่ละตัว ดูจากคลิปไม่ใช่การหยอกเล่น แต่เป็นพฤติกรรมการล่าเหยื่อ  



รศ.น.สพ.ปานเทพ รัตนากร อุปนายกสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ถ้าสังเกตรถคันที่เจ้าหน้าที่ขับ ปกติต้องมีตะแกรงอีกชั้นหนึ่งนอกกระจก เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ซึ่งจากกรณีนี้ผมไม่เห็น ต้องกลับไปดูว่าเราให้ความสำคัญกับคนที่เลี้ยงสัตว์แค่ไหน คำนึกถึงความปลอดภัยหรือไม่