จะรอดหรือร่วง? "สมปอง" ยืมเงิน "อดีตพระอลงกต" 13 ล้าน มั่นใจเป็นเงินส่วนตัวไม่ใช่เงินวัด

รายการโหนกระแสวันนี้ (28 ส.ค. 2568) พูดคุยกันต่อ กรณีวัดพระบาทน้ำพุ ไล่เช็กเส้นทางการเงิน หลังจากที่ อดีตพระอลงกต และ หมอบี ถูกนำตัวไปฝากขังในคดียักยอกเงินวัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยในวันนี้ได้ผู้ร่วมรายการ พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท.



พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ระบุว่า ยอดเงินปี 62 ผมเจอพันกว่าล้าน เจอวงนอกที่เกี่ยวข้อง 20 คนทั้ง 2 ฝั่ง เป็นทั้งคนใกล้ชิดของ “อลงกต-บี” เจอการรับเงินถอนเงินในรูปแบบต่าง ๆ สิ่งที่เราคือการไม่มีระบบการจัดการเงินภายในวัดพระบาทน้ำพุ ผมเจอเช็ค 30 ฉบับ รวมเงิน 100 กว่าล้าน ซึ่งเป็นเช็คที่ไม่เอาเงินเข้าธนาคาร สั่งจ่ายให้กับวัดโดยตรง เป็นคำถามในใจว่าเช็คอะไร ทำไมไม่เอาเข้าธนาคาร แกบอกโดนโกงร้อยกว่าล้าน มีนักธุรกิจคนหนึ่งเอา ฮ. มารับเวลาไปกิจนิมนต์ และก็ยก ฮ. ลำนั้นให้ท่าน และขอยืมเงินไปซื้อ ฮ. ลำใหม่ จากนั้นก็หายเงียบไป และท่านตอบไม่ได้ว่าตู้บริจาคมีกี่ตู้



“สมปอง นครไธสง” หรือ อดีตพระมหาสมปอง โฟนอินชี้แจงในรายการโหนกระแส ยอมรับว่าได้ยืมเงินจริง 13 ล้าน เนื่องจากมีหนี้สินจากการกู้ยืมแต่ไม่อยากจ่ายดอกเบี้ย ช่วงเวลานั้นมีค่าใช้จ่ายส่วนตัวค่อนข้างเยอะ เป็นช่วงโควิด-19 แม่ป่วยด้วย จึงตัดสินใจไปยืมเงินอดีตหลวงพ่ออลงกต เนื่องจากเคยถวายเงินช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์



“ไม่รู้ว่าพระมีเงินเท่าไหร่ แต่เดาได้ พระมีชื่อเสียง บารมี มีเงินส่วนตัว เชื่อว่าเงินวัดยืมไม่ได้เพราะต้องผ่านกรรมการวัด  ผมยืมหลวงพ่อ เพราะผมเคยทำซีดีไปถวายช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์ ผมรู้สึกว่าถ้าเดือดร้อนท่านน่าจะช่วยผมได้ ยืม 13 ล้าน จริง ถ้าเป็นเงินวัดกรรมการคงไม่ให้ยืม ผมเลยมั่นใจว่าเป็นเงินส่วนตัว 13 ล้านบาท ทยอยโอน ไม่ได้โอนก้อนเดียว มีเงินสด 1 ล้าน รถจะออกท่านให้ลูกศิษย์เอามาให้ ผมใช้คืนไป 5.5 ล้าน เหลืออยู่ 8.8 ล้านบาท  ตอนยืม ยืมปากเปล่า ตอนคืนผมจดละเอียด มีสลิปทุกใบ”



พร้อมชี้แจงเพิ่มเติมว่า ตอนยืมเงินไม่มีหนังสือสัญญากู้ยืมเพราะหลวงพ่อบอกว่าไม่เป็นไร ท่านให้คนใกล้ชิดโอนเงินให้ ตนจึงคิดว่าท่านใจใจกับเรา ยืนยันว่าไม่เคยคิดจะไม่คืน ยืม 13 ล้านบาท แต่ตั้งใจจะคืนให้ 14 ล้านบาท อยากถวาย 1 ล้านบาท เพิ่มเติม เนื่องจากหลวงพ่อใจดี  หากตำรวจเรียกไปสอบถามเมื่อไหร่ก็พร้อมไปเมื่อนั้น



พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เผยถ้ากรณีนี้พิสูจน์แล้วว่าไปถอนเงินวัดออกมา ต้องพิสูจน์ในชั้นศาล เพราะเราต้องดูตัวกลาง ท่านอาวาสเอาเงินมาจากวัด ต้องใช้แค่กิจการของวัด และวัดไม่ใช่ธนาคารที่จะเอาให้บุคคลอื่นอยู่ ถือเป็นทำหน้าที่โดยมิชอบ สมปองอาจจะตกเป็นผู้สนับสนุน ไม่ต่างจากเคส “หมอบี”