โชเฟอร์แท็กซี่แฉ "กระปุกบุญ" วัดพระบาทน้ำพุ รับบริจาคตามที่ต่างๆ แบ่ง 70:30 แบบนี้ธุรกิจไหม?

รายการโหนกระแสวันนี้ (18 ส.ค.) ยังคงติดตามกรณีวัดพระบาทน้ำพุ  ขอให้มีการตรวจสอบ โครงการกระปุกบุญ เชื่อมีการแสวงหาผลประโยชน์หรือไม่ หลังโชเฟอร์ออกมาแฉ มีการแบ่งเงิน 70:30



เดียว โชเฟอร์แท็กซี่ ระบุว่า ตอนไปรับกล่องบุญ ไม่เคยได้เจอหลวงพ่อ แต่มีประธานชมรมบอกให้ 30% โดยให้เอาเงินมารวมกัน และอีก 70% ถวายให้วัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งผมรู้สึกไม่โอเค จึงเอากล่องไปคืน รู้สึกเหมือนเป็นเครือข่ายลูกโซ่ ยอดเงินบริจาคทั้งหมดที่ประกาศออกไป ถูกหักไปแล้ว 30%



ตี๋ โชเฟอร์แท็กซี่ ระบุว่า พอรู้ว่าเงินไม่ได้ไปวัดทั้งหมด มีการแบ่ง 70:30 ผมมองเป็นธุรกิจ วันนี้หลวงพ่อที่เราศรัทธากับสิ่งที่เราเห็น มันคนละม้วนกันเลย ตอนนี้จะพึ่งใครได้



ขณะดำเนินรายการมีรายงานว่า พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต ประกาศลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ อ.เมืองลพบุรี หลังจากก่อนหน้านี้เคยเลื่อนการแถลงข่าวออกไปอย่างไม่มีกำหนด ท่ามกลางกระแสข่าวที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบข้อมูลภายในวัด



ทนายแก้ว ให้ความรู้ทางกฎหมาย ระบุว่า ถ้าเรื่องนี้หลวงพ่อไม่รู้ส่วนแบ่ง 70:30 ประธานจะมีความผิดฐานยักยอกทรัพย์ของวัด แต่ถ้าหลวงพ่อรู้ด้วยถือเป็นตัวการร่วมฉ้อโกงประชาชน เรื่องนี้ต้องแยกเป็นส่วน เราต้องจับว่าใครเป็นคนเอากล่องไปวางตามสถานที่ต่าง ๆ



ดร.นิยม เวชกามา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจําสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า หลวงพ่อบอกผมว่าเงินที่เข้ามามันหลายทาง เหมือนกับซองกฐินผ้าป่า แต่ใครจะหักไปเท่าไหร่ท่านก็ไม่รู้ เงินที่ได้มาเป็นเงินสดทั้งนั้น ส่วนเรื่องที่ดิน 2 พันไร่ เป็นชื่อบุคคลอื่น ทางเจ้าอาวาสแจงว่า เป็นการทยอยซื้อ ไม่ใช่งบประมาณ แต่เป็นเงินบริจาคญาติโยม โดยจะมีการเขียนหลังโฉนด “ที่ดินต้องโอนให้วัด” ท่านบอกจะทำเป็นหมู่บ้าน โรงเรียน สนามฟุตบอล ให้ลูกของคนติดเอดส์นับพัน เมื่อถึงเวลาสมควรท่านจะแถลงต่อสื่ออย่างแน่นอน