จุกอก! 8 ปี "คดีน้องเมย" พ่อแม่สู้ไม่ถอย สุดท้ายสั่งคุกรอลงอาญา ถามอยากให้คนแบบนี้ใส่เครื่องแบบตร.อยู่หรือ

แม่น้องเมย เล่าย้อนไทม์ไลน์ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2560 ซึ่งลูกชายบาดเจ็บกลับมาบ้าน โดยที่เจ้าตัวไม่ยอมบอกว่าเกิดอะไรขึ้น บอกแต่ว่า “ตกบันได” ต่อมาวันที่ 23 สิงหาคม 2560 น้องเมยถูกลงโทษอย่างรุนแรงด้วยท่า “ปักหัวโหม่งโลก” หลังจากรุ่นพี่พบว่าน้องเมยใช้ “บันไดฝั่งซ้าย” ซึ่งน้องเมยยืนยันว่า มีรุ่นพี่อนุญาตให้ใช้ และพาลงมา แต่รุ่นพี่คนนั้นกลับไม่เชื่อ เป็นชนวนเหตุให้น้งเมยต้องซ่อมในห้องน้ำเกือบหนึ่งชั่วโมง จนศีรษะกระแทกอย่างรุนแรง



หลังจากนั้นก็มีอาการปวดหัว คลื่นไส้ และอาเจียน จนสุดท้าย วันที่ 17 ตุลาคม 2560 น้องเมยหมดสติ และเสียชีวิตภายในโรงเรียนเตรียมทหาร ครอบครัวได้รับแจ้งในภายหลังว่าเขาเสียชีวิตจากหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน แต่เมื่อนำร่างลูกชายกลับมา ครอบครัวพบว่าอวัยวะสำคัญ เช่น สมอง หัวใจ และกระเพาะอาหาร ได้ถูกนำออกไป โดยไม่ได้รับการแจ้งล่วงหน้า และไม่เคยได้รับคืนอย่างโปร่งใส ทั้งที่ผลชันสูตรของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันว่ามีการเก็บอวัยวะไว้ในระหว่างกระบวนการผ่าศพ



เมี่ยง พี่สาวน้องเมย โฟนอินเข้ารายการ แพทย์แจ้งว่าจะมีขั้นตอนการระบุตัวตนของศพ แต่ 2 รายการที่เขาคืนมา ไม่พบ DNA ซึ่งไม่สามารถเปรียบเทียบได้ว่าเป็นของใคร เราจึงทำหนังสือไปถึงแพทยสภา ซึ่งเขาแจงว่า คุณหมอคนแรกทำตามขั้นตอนแล้ว แต่มันข้อแย้งกับหมอคนที่ 2 ที่เราได้คุยกันว่าไม่ทำตามขั้นตอน หากทำตามขั้นตอนจริงอวัยวะจะไม่เสียหาย สุดท้ายเมื่อสรุปไม่ได้ว่าอวัยวะเป็นของใคร ทำให้สรุปสาเหตุการเสียชีวิต “น้องเมย” ไม่ได้



พ่อน้องเมย ระบุว่า ผมสงสัยว่าคนที่โดนคดีอาญา ยังรับราชการได้หรือ ถ้าลูกผมยังอยู่เขาอาจจะไปสู้ชายแดนสระแก้วก็ได้ ถ้าลูกตายในหน้าที่ผมจะภูมิใจมาก แต่อันนี้ถูกคนในโรงเรียนกระทำให้เสียชีวิต ฝากถึง ผบ.ตร. อยากให้คนแบบนี้ใส่เครื่องแบบตำรวจอยู่หรือไม่ ติดยศครั้งแรกเป็นร้อยตำรวจตรี ขึ้นเป็นร้อยตำรวจโทได้อย่างไร ไม่ได้พิจารณาเลยหรือ ทั้งที่มีคดีติดตัวอยู่



แม่น้องเมย ระบุว่า ทางสถาบันหาว่าเราไปโจมตีเขาให้เสียชื่อ ยันไม่เคยทำแบบนั้น ทุกครั้งที่ให้สัมภาษณ์เราไม่เคยก้าวล่วงเลย เพราะเมยรักสถาบันมาก เรารักลูกเรา ถ้าลูกชอบสิ่งไหนเราต้องเคารพ เราจะไปทำร้ายสถาบันได้อย่างไร เราแค่ต้องการคนที่กระทำความผิดออกมารับโทษ ทำเหมือนเมยเป็นตัวต้นเรื่อง