‘สนธิ’ อ้างเจ้าของ รพ.เอกชนดัง ปลอมลายเซ็นอดีตลูกสะใภ้ ยื่นกู้เงินกว่า 8 พันล้าน ลือหนีไปนอกแล้ว

‘สนธิ’ อ้างเจ้าของ รพ.เอกชนดัง ปลอมลายเซ็นอดีตลูกสะใภ้ ยื่นกู้เงิน เสียหายกว่า 8 พันล้านบาท ลือสะพัดหนีไปต่างประเทศแล้ว หาตัวไม่เจอ


วันนี้ (18 พ.ย. 2567) นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ดำเนินรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ กล่าวในรายการสนธิเล่าเรื่อง ผ่านยูทูบ Sondhitalk ว่า อดีตประธานกรรมการและเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนดัง มีวีรกรรมตั้งแต่สมัยโควิด-19 ซึ่งเคยเปิดโปงว่าทำมาหากินกับวัคซีน ต้องการเป็นตัวแทนจำหน่ายวัคซีนไฟเซอร์ เพื่อนำไปจำหน่ายแก่โรงพยาบาลต่างๆ แต่โดนขัดขวาง ที่ผ่านมาก็มีเรื่องมีราวตลอด ตอนนี้ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย หนีไปต่างประเทศ


มีข่าวในแวดวงนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และวงการปล่อยเงินกู้ให้กับบริษัทต่างๆ ว่า ไปฉ้อโกงเอาตัวเองไปกู้เงิน มีสัญญาเงินกู้เอาหุ้นไปค้ำประกัน โดยมีตัวแทน หรือเอเยนต์ไปหาเงินกู้ เหมือนกับว่าชื่อตัวเอง เป็นชื่อที่มีศักดิ์ศรี มีกิจการใหญ่ เป็นเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนดัง และแอบอ้างชื่อมหาวิทยาลัยชื่อเดียวกันว่าเป็นเจ้าของ ซึ่งไม่ใช่ จึงมีเอเยนต์ไปหาเงินกู้ให้ โดยให้ดอกเบี้ยสูงถึง 15% ทำให้คนที่มีเงินเย็นอยากปล่อยเงินกู้ ทั้งการนำหลักทรัพย์ไปค้ำประกัน


แต่ที่หนักกว่านั้น คือ ไปปลอมลายเซ็นในหนังสือค้ำประกันเงินกู้ อดีตลูกสะใภ้รายหนึ่ง ที่หย่ากับลูกชาย ตั้งแต่เดือน ก.ย. 2566 ปรากฎว่ามีลายมือชื่อเซ็นในเอกสารด้านหลังทุกอย่าง ทั้งเอกสารเรื่องหุ้น เงินกู้ และสัญญาต่างๆ เป็นลายเซ็นปลอม ทั้งที่อดีตลูกสะใภ้ไม่เคยรู้เรื่องและไม่เคยลงนามใดๆ ในชีวิตทั้งสิ้น โดยมีวงเงินที่เริ่มทวงถาม มีหมายจากตำรวจ และหมายศาลมาถึง เกือบ 8,000 ล้านบาท


นายสนธิ กล่าวว่า เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อดีตลูกสะใภ้คนดังกล่าวมาพบตนเองและหลานของตนเอง บอกว่า ไม่เคยเซ็นอะไรแม้แต่นิดเดียว พร้อมกับนำเอกสารมาให้ดูก็ตกใจ เห็นว่าคนที่มีลูก 2 คนจากสามีที่หย่าไปแล้ว ตนเองไม่พูดดีกว่า แต่ถ้าไม่ถึงที่สุดจริงๆ ไม่ขอหย่าหรอก วันนี้เจ้าของโรงพยาบาลเอกชนดังคนดังกล่าวไม่ได้อยู่ในประเทศไทยแล้ว หลายคนบอกว่าออกไปสักพักหนึ่งแล้ว เพราะไม่มีเงิน ครอบครัวและอดีตลูกสะใภ้ยังงง ยังมีผู้ให้กู้อีกหลายเจ้าที่ยังไม่ได้เปิดเผยตัวเพราะอับอาย รวมกันแล้วกว่า 1 หมื่นล้านบาท


ทั้งนี้ อดีตลูกสะใภ้ยืนยันว่าไม่ได้เซ็น และไม่เคยเซ็นด้วย เอาลายเซ็นไปพิสูจน์ที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นนิติเวชหรือพิสูจน์หลักฐาน จะรู้ว่าไม่ใช่ลายเซ็นเขา เพราะฉะนั้น เจ้าของโรงพยาบาลเอกชนดังคือผู้สร้างเรื่องทั้งหมด สมัยก่อนตั้งคณะกรรมการโควิด-19 ก็มีชื่อ และดิ้นรนเพื่อเอาวัคซีนไฟเซอร์มา เป็นคนที่เห็นว่าตรงไหนมีผลประโยชน์ก็ไปขอมีส่วนร่วมด้วย


“ระหว่างโจรที่มาเป็นทนาย กับนายแพทย์ที่จบแพทย์ ผมไม่รู้ว่าเขาจบแพทยศาสตร์ที่ไหน แต่รู้อยู่ว่าความชั่วเหมือนกันเลย นี่คือบทเรียนข้อหนึ่งว่า คนเราอย่าเอาวุฒิภาวะหรือวุฒิการศึกษา คุณวุฒิมาวัดกันว่าคนเรียนสูงไม่โกง คนเรียนต่ำจะโกง ไม่ใช่ คนจิตใจชั่วต่างหาก ซึ่งจะเรียนสูงหรือต่ำ ถ้าจิตใจชั่วโกงได้ทุกคน นี่เป็นการฉ้อโกงประชาชนครั้งยิ่งใหญ่ ไม่มีใครกล้าเปิด ผมเปิดเป็นคนแรกที่นี่ และผมจะทำเรื่องนี้ต่อ” นายสนธิ กล่าว



โดย chutikan_o

18 พ.ย. 2567

1K views

EP อื่นๆ