บันเทิง

วงการหนังไทยเดือด! ผู้กำกับ-คนทำหนัง แห่ติด #แบนสุพรรณหงส์ ปมเปลี่ยนกติกาใหม่

โดย nattachat_c

31 มี.ค. 2566

1.1K views

วงการภาพยนตร์ไทยเดือดเป็นไฟ จนในทวิตเตอร์ #แบนสุพรรณหงส์ ติดเทรนด์อันดับ 1 อย่างรวดเร็ว หลังจากสุพรรณหงส์เปลี่ยนกติกาใหม่


ซึ่งเรื่องราวทั้งหมด เริ่มจาก อาร์ตไดเรคเตอร์ หรือ ผู้กำกับศิลป์ ของภาพยนตร์เรื่อง 'เวลา' (Anatomy of Time) 'คุณศราวุธ แก้วน้ำเย็น' ได้ออกมาโพสต์ดีใจที่หนังเรื่องนี้ได้รับรางวัลในงานคมชัดลึกอวอร์ด ในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และ ผู้กำกับยอดเยี่ยม ก่อนที่โพสต์ต่อว่าได้รับข่าวดีเพียงหนึ่งวัน ฝันหวานได้วันเดียวก็ได้รับฝันร้าย เมื่อภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกตัดสิทธิ์ เป็น 1 ใน11 เรื่อง ที่ไม่ได้เข้าชิงในรางวัลสุพรรณหงส์ปีนี้ เพราะมีกติกาในการคัดเลือกภาพยนตร์ใหม่ ถึงแม้เรื่องนี้จะไปคว้ารางวัลจาหต่างชาติมาแล้ว


ซึ่งสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติออกกติกาใหม่ว่า หนังที่จะเข้าชิงรางวัลสุพรรณหงส์ได้ต้องมีคุณสมบัติดังนี้

  • ต้องฉายในโรงภาพยนตร์ ฉายผ่านสตรีมมิ่งอย่างเดียวไม่ได้
  • ต้องฉายในโรงครบทั้ง 5 ภูมิภาค อย่างน้อยใน 5 จังหวัดใหญ่ คือ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ชลบุรี นครราชสีมา และนครศรีธรรมราช
  • ต้องมียอดผู้ชมไม่ต่ำกว่า 50,000 คน


ต่อมา 'เต๋อ นวพล' ก็ออกมาโพสต์ "ในตำแหน่งผู้กำกับและผู้เขียนบท fast & feel love ผมขอถอนตัวจากการได้รับสิทธิ์ในการถูกคัดเลือกเพื่อได้รับการพิจารณาในรางวัลสุพรรณหงส์ในปีนี้ เพราะโดยส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับกติกาและเงื่อนไขครับ ขอบคุณครับ”


ต่อด้วย 'ไก่ ณฐพล' ผู้กำกับสารคดี ‘เอหิปัสสิโก’ "ผมในฐานะทีมเขียนบท/ผู้กำกับร่วมในภาพยนตร์เรื่อง One for the Road ขออนุญาตถอนตัวจากการถูกเสนอชื่อเพื่อคัดเลือกเข้าชิงรางวัลสุพรรณหงส์ปีนี้ จนกว่าทางสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติจะมีมติในการเปลี่ยนแปลงกฎกติกาในการคัดเลือกหนังและเห็นคุณค่าของภาพยนตร์ และทีมงานไทยทุกคนครับ”


ตามด้วย 'ปิ๊ง อดิสรณ์' ผู้กำกับภาพยนตร์ เรื่อง บุพเพสันนิวาส ๒ แสดงจุดยืนและถอนตัวจากการถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสุพรรณหงส์ในปีนี้จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง เป็นการตัดสินใจส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท


นอกจากนี้ นักแสดง ก็ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านเกณฑ์ใหม่ 'จ๋าย อิชณน์กร และ ณัฏฐ์ กิจจริต 2 นักแสดง เจ้าของรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม และ นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม เวทีสุพรรณหงส์ ปีที่ผ่านมา จากภาพยนตร์เรื่อง 4 Kings ก็ออกมาโพสต์ ว่า “ข้าพเจ้าทั้ง 2 ขอประกาศจุดยืน ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายพิจารณาเกณฑ์การคัดเลือกภาพยนตร์เข้าชิงใหม่อีกครั้ง หากทางสมาพันธ์ยังยืนยันที่จะใช้เกณฑ์การตัดสินเดิม ละเลยคุณค่าของภาพยนตร์ไทยละเลยคุณค่าของคนทำงานเบื้องหลัง ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ ข้าพเจ้าทั้ง 2 ยินดีให้ริบคืนทั้งหมด ด้วยความเต็มใจ”


ขณะที่ 'อดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ' ที่ได้ออกมาประกาศลาออกจากตำแหน่งรองประธานสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์ ระบุว่า


“ขอแจ้งให้สาธารณะทราบโดยทั่วกัน ผมขอลาออกจากการเป็นรองประธานสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติด้วยเหตุผลตามหนังสือลาออก ขอขอบคุณเลขาธิการสมาพันธ์ฯ คุณพรชัย ว่องศรีอุดมพร ที่ชวนมาร่วมทำงานเพื่อวงการภาพยนตร์ไทย หลังจากงาน World Film Bangkok 15”


ด้าน 'คุณชายอดัม' - 'หม่อมราชวงศ์เฉลิมชาตรี ยุคล' ผู้กำกับภาพยนตร์ โอรสในหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ปีนี้ถามทางสมาคมสมาพันธ์ไปแล้ว เค้าบอกว่า “ไม่สามารถปรับเปลี่ยนกติกาได้แล้วเพราะเวลาไม่ทัน และจะพิจารณาใหม่ในปีหน้า”


พร้อมกับบอกด้วยว่าปีนี้จะไม่ไปร่วมงานประกาศรางวัลสุพรรณหงส์และในอนาคตอาจจะไม่ส่งหนังเข้าชิงรางวัลในประเทศอีก โดยระบุว่า “ปีนี้ขอไม่ไปสุพรรณหงส์นะครับ ปกติมีอะไรเราก็ช่วยกับสมาคมสมาพันธ์มาตลอด ที่บ้านผมก็ช่วยกับสมาคมสมาพันธ์มาตลอด แต่ตอนนี้ทางบ้านผม ก็ขออนุญาติงดเว้นการทำงานหรือช่วยเหลือใดๆ กับทางสมาคมสมาพันธ์ไปก่อนจนกว่าจะหาวิธี ที่จะทำให้มิติของการสร้างอุตสาหกรรมหนังไทยสร้างสรรค์มากกว่านี้”


ทางด้าน 'นุชี่ อนุชา' นายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย ระบุว่าเป็นหนึ่งในคณะกรรมการจัดงานสุพรรณหงส์ปีนี้ ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กบอกว่า


“นุชี่ไม่ได้รับทราบมาก่อนว่า จะมีกติกาที่กีดกันภาพยนตร์อิสระเรื่อง 'เวลา Anatomy of Time' ที่ปรากฏเป็นข่าวในขณะนี้ รวมทั้งตัวนุชี่เองก็เป็นคณะกรรมการรางวัลคมชัดลึกอวอร์ด ที่ร่วมตัดสินมอบรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยมให้กับเรื่อง 'เวลา' ด้วยค่ะ นุชี่ไม่เห็นด้วยกับกติกาดังกล่าวนี้อยู่แล้ว พรุ่งนี้จะไปประชุมกับทางสมาพันธ์เพื่อหาคำตอบและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นนะคะ ช่วงนี้มีปัญหาในวงการภาพยนตร์ไทยหลายอย่าง จะพยายามค่อยๆ หาทางแก้ไปค่ะ”

--------------

ด้าน เศรษฐา ทวีสิน - Srettha Thavisin ได้โพสต์ว่า 


เมื่อวันก่อนผมได้มีโอกาสพบปะพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดกับกลุ่มผู้กำกับและโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์อิสระ ผมได้เริ่มเรียนรู้และมีความเข้าใจมากขึ้นถึงปัญหาต่าง ๆ ฟังข้อเสนอและร่วมคิดหาแนวทางในการยกระดับศิลปวัฒนธรรมของคนไทยในทุกด้าน เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์และสร้างเกียรติภูมิให้กับประเทศชาติบ้านเมือง


ผมเชื่ออย่างยิ่งว่าคนไทยเรามีศักยภาพล้นฟ้า ผู้ประสบความสำเร็จบนเวทีโลกมีให้เห็นในหลากหลายวงการ แต่คอขวดในการเข้าถึงโอกาสที่ไม่เท่าเทียมนั้น ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของแหล่งทุนสนับสนุน การควบคุมสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกที่อาจจะเกินเหตุอย่างไม่เหมาะสม หรือ การผูกขาดของช่องทางในการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาภาคเศรษฐกิจสร้างสรรค์ การเผยแพร่ Soft Power และการพัฒนาเยาวชนไทยที่อยากจะเดินตามความรัก ความฝันของตนเอง          


อย่างเช่นกรณี #สุพรรณหงส์ ที่กำลังเป็นกระแส ก็เป็นประเด็นที่น่าคิด ถ้าหาก Incentive และ Endorsement จากหน่วยงานที่สนับสนุนอุตสาหกรรม ไม่ได้ถูกออกแบบให้ส่งเสริมผู้ประกอบการอย่างเท่าเทียมกัน ก็จะลงผลให้ไม่มีแรงกระตุ้น หรือแรงบันดาลใจที่จะนำส่งของดี ๆ มีคุณภาพให้กับสังคม แรงขับเคลื่อนก็ขาดหายไปจากคนที่เสียเปรียบ


พรรคเพื่อไทยและผมให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการยกระดับศิลปวัฒนธรรมไทยให้เป็นระดับสากล ผ่าน นโยบาย 1 ครอบครัว 1 Soft Power หากเราได้เป็นรัฐบาล เราจะเจาะลึกไปถึงปัญหาต่าง ๆ ร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางระยะสั้นที่จะนำผลงานของคนไทยไปเผยแพร่ทั้งในและต่างประเทศอย่างมีประสิทธิผล วางโครงสร้างในระยะยาวอย่างยั่งยืนเพื่อคนรุ่นใหม่จะได้มีอนาคตและเข้าถึงโอกาสที่หลากหลายและดียิ่งขึ้นได้ในทุกมิติ เราจะเฟ้นหาศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในประชาชน เพื่อสร้างเงิน สร้างงาน เพราะประเทศไทยคืออนาคตของพวกเราทุกคนครับ

--------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/BH802INbASA

คุณอาจสนใจ

Related News