‘อุ๋ย บุดด้าเบลส’ ชื่นชม ‘โตโน่’ ว่ายข้ามโขงสำเร็จ เป็นกิจกรรมกุศล ส่วนจิตใจอกุศลไม่ขอก้าวก่าย

ขณะที่นักร้องหนุ่ม ‘อุ๋ย บุดด้าเบลส’ ที่เพิ่งจะเข้าพิธีแต่งงานกับแฟนสาวนอกวงการ ‘อร อรนลิน’ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา  ก็ได้ออกมาโพสต์ชื่นชมในความตั้งใจของ ‘โตโน่’ พร้อมกับได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นดรามาที่เกิดขึ้น

อุ๋ยได้แคปภาพคอมเมนต์ของผู้ใช้โซเชียลชาว สปป.ลาว คนหนึ่ง ที่โพสต์ขอบคุณโตโน่ในเพจหนึ่งว่า “คนลาวเข้าใจ คนไทยมีดรามากับโตโน่ แต่เงินที่แบ่งไปช่วยเหลือโรงพยาบาลลาว คนลาวแทบอยากจะกราบขอบคุณจริงๆ เพราะช่วยคนลาวได้เยอะมากแบบมหาศาลเลย เงินจำนวนนี้ โรงพยาบาลลาว ไม่มีวันได้รับขนาดนี้มาก่อน มันต่อชีวิตคนเราได้จริงๆ และคนลาวส่วนใหญ่ก็ติดตามสื่อไทย เขาก็ขอบคุณโตโน่ ขอบคุณคนไทยที่โอนเงินมา ทุกคนที่เป็นคนลาวต่างรู้และเข้าใจว่า เงินทุกบาทก็มาจากคนไทยที่ช่วย”

และอุ๋ยก็โพสต์ภาพดังกล่าว พร้อมเขียนข้อความประกอบว่า “ปัญหาเชิงโครงสร้างในประเทศลาว เราคงจะแก้ให้เขาไม่ได้ แต่การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ สามารถทำผ่านกิจกรรมที่เป็นกุศลแบบนี้ที่โตโน่ทำได้ ยิ่งเห็นชาวลาวที่ออกมาต้อนรับยิ้มแย้มดีใจ จิตเค้าก็เป็นกุศลไปด้วย เพราะชื่นชมยินดีกับคนที่ทำสิ่งดีๆ ซึ่งสภาพจิตใจแบบที่เป็นอกุศล ก็เป็นทางเลือกของแต่ละคน เราไม่มีสิทธิก้าวก่าย ได้แต่เห็นใจที่มนุษย์ทุกคนก็มีความทุกข์แตกต่างกันไป แต่วันนี้ผมมีความสุขไปกับคนจิตใจดีๆ ที่ลงมือทำอะไรดีๆ ด้วยเจตนาดี ทุกคน #โตโน่ภาคิน”

นอกจากนี้ ในอินสตาแกรมของอุ๋ย บุดด้าเบลส ยังได้โพสต์เล่าสิ่งที่ได้คุยกับโตโน่ก่อนหน้านี้ พร้อมได้ชื่นชมถึงวิธีคิดของโตโน่ด้วยว่า “ตอนไปคุยกับโตโน่ที่บ้าน ถามทุกคำถามให้คลายสงสัย โดยส่วนตัวไม่ห่วงเรื่องความปลอดภัยเลย เพราะทีมดูแลที่สปอนเซอร์และโตโน่จ้างมา และคนที่อาสา ดูแลอยู่ตลอด แต่พอมีข่าวบิดเบือนต่างๆ ออกมา ยอดที่ตั้งเป้าไว้ ประมาณ 16 ล้าน แต่พอมีกระแสดรามา โตโน่บอกว่า ตอนนี้ผมหวังว่าได้ 10 ล้านก็ดีใจแล้ว ปรากฏว่าตอนนี้วันเสาร์ที่ 22 เวลา 14.00 ยอดบริจาค ทะลุเป้าไปเกิน 2 เท่าแล้ว ดีใจกับโตโน่ด้วยจริงๆ คิดถูกคิดดีแล้ว ที่ต่อยอดจากเงินตัวเองล้านกว่าบาทและเงินสปอนเซอร์อีกประมาณ 1 ล้าน มาต่อยอดจัดกิจกรรมนี้ แทนที่จะบริจาค 2 ล้านแล้วจบ แต่ชวนทุกคนมาร่วมกุศลกัน

และก็จริงอย่างที่โน่อธิบายในคลิป ว่าระดมทุนมาหลายกิจกรรมแล้ว ทั้งวิ่ง และเล่นคอนเสิร์ต แต่ที่เลือกว่ายน้ำ เพราะหาเงินได้เยอะสุด แล้วมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ส่วนเรื่องคำวิจารณ์ที่ว่าเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่ละคนก็มีวิธีแตกต่างกัน ใครถนัดแบบไหนก็ทำแบบนั้น การทำแบบนี้ประโยชน์ก็เกิดขึ้นเร็ว คนป่วยคนตายมีทุกวัน เค้ารอระยะยาวไม่ไหว ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาวก็แก้กันต่อไป ระบบสาธารณสุขไทย ไม่ได้ดีที่สุดในโลก ใครไม่พอใจก็แก้ด้วยวิธีที่ตัวเองเห็นว่าดีเลยครับ”