บันเทิง

'คุณชายอดัม' เปิดเรตค่าตัวดาราไทย ต้องงานชุกแค่ไหน ถึงได้ซูเปอร์คาร์-บ้านหรู

โดย thichaphat_d

22 ก.ย. 2565

5.6K views

หม่อมราชวงศ์เฉลิมชาตรี ยุคล หรือ คุณชายอดัม ผู้กำกับภาพยนตร์ และเบื้องหลังวงการบันเทิง โพสต์ข้อความวิเคราะห์รายได้ของดารานักแสดงในวงการบันเทิงไทย หลังพบว่าปัจจุบัน มีดารานักแสดงหลายคน มีฐานะร่ำรวยดูผิดปกติ จนเป็นที่วิจารณ์ในสังคมว่าอาจเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทา โดยระบุว่า

ถ้าดาราเป็นดาราเลยเพียงอย่างเดียว รายได้จะไม่มีทางถอย Supercar 2-3 คันใน 1 ปีได้เลยยกเว้นแต่จะดาวน์และผ่อนเอา ซึ่งก็หนักหนาอยู่ดีครับ

ถ้านักแสดง 1 คนสร้างบ้าน 4-5 หลัง รถสปอร์ต 4-5 คัน เที่ยวต่างประเทศไตรมาสละ 2-3 ครั้ง มันเป็นไปไม่ได้ที่จะรับงานแสดงหนัง+ละครแล้วจะมีเงินจ่ายขนาดนี้ครับ



สมมุติว่าเล่นภาพยนตร์ หนังไทยเรื่องนึงงบอยู่ที่ 10-30 ล้านบาท ถ้านักแสดงหนึ่งคนรับ 5 เรื่อง ก็คือใช้เวลาเล่นหนัง 75 วัน แล้วโดยประมาณถ้าคิด 5 ล้านบาทต่อเรื่อง (ซึ่งคงเป็นไปได้ยากมากที่จะมีนักแสดงที่ได้เงินขนาดนี้ต่อภาพยนตร์ 1 เรื่องแน่ๆ) ก็ 25 ล้านบาท ก็อาจจะได้ Super Car หนึ่งคัน

ถ้าเล่นละคร ตอนนึงราคาสูงสุดก็เอาไปเลย 2 แสนบาทต่อตอน (นักแสดงเบอร์ใหญ่สุดๆของเมืองไทยแบบ Top 5 ของประเทศละครับ) ดังนั้นก็จะได้เรื่องนึงประมาณ 3 ล้านบาท แบบเยอะเหลือเชื่อแล้วนะครับ ถ้าละคร อีก 5 เรื่องก็คือระยะเวลาถ่ายทำประมาณ 40 วันต่อเรื่อง (ซัก 16 ตอนต่อเรื่องนะครับ กะๆเอา) ก็จะใช้อีก 200 วัน ก็รวมๆ 15 ล้านบาท

รวมสองอันก็ 275 วันแล้ว ได้ 40 ล้านบาท ได้ Aventador คันนึงละครับ

แปลว่าถ้าจะเอาบ้านอีกซักหลังที่ 10-20 ล้านก็ต้องทำงานเหนื่อยหน่อยนะครับ แล้วถ้าไปเมืองนอก 5 วัน 3 ครั้งทุกไตรมาส ก็จะเป็น 45 วันที่ไปเที่ยวต่างประเทศต่อปี ไม่นับรวมปาร์ตี้ EDM ดังๆ 5-10 ครั้งต่อปี ก็ 55 วัน

ตอนนี้ก็ 330 วันละครับ เหลืออีก 35 วัน

ตรงนี้ก็อยู่ที่ว่าถ้าอยากได้เงินไว้ใช้จ่ายอื่นๆด้วย ก็ต้องทำอย่างอื่นควบคู่ไปครับ เช่นออกอีเว้นต์ ซึ่งจะได้ประมาณ 3 แสนต่อวัน (ซักวันละ 3 งาน งานละ 1 แสน รอบละ 3 ชั่วโมง ก็จะใช้เวลา 9 ชั่วโมงต่อวันไม่รวมเดินทาง ซึ่งเดินทาง 1 ชั่วโมง ก็ 12 ชั่วโมงต่อวันละ)

ก็จะได้อีก 9 ล้านบาท สำหรับ 30 วัน

ส่วน 5 วันที่เหลือไว้ไปงานวันเกิดเพื่อน ไปไหว้คุณพ่อคุณแม่และดูแลครอบครัว



แปลว่านักแสดงที่ขยันเกินนักแสดงที่งานชุกที่สุดในประเทศไทย 3 คนรวมกันก็จะสามารถยืนได้ด้วยตัวเองแบบมีบ้านมีรถดีๆและทำอะไรก็ได้ตามใจฉัน

แต่ถ้างานไม่ได้เยอะขนาดนั้น ไม่ได้ดังขนาดนั้น ค่าตัวไม่ได้แรงขนาดนั้น

แล้วอยู่ในวงการแบบร่ำรวยกว่ามหาเศรษฐีได้ แปลว่าต้องมีอาชีพเสริมที่ร่ำรวยมากๆอยู่แล้วแน่นอนครับ หลายๆคนอายุ 20 กว่าๆ ร่ำรวยขนาดนี้ ก็แปลว่าเริ่มต้นทำธุรกิจที่จับตลาดได้ดีสุดๆตั้งแต่เริ่มต้นเลย ก็เลยทำให้จับทางได้แล้วก็อู้ฟู่จนใช้เงินถอยรถ Super Car ได้มากมาย (ทำให้ Grey Market ขายกันเพิ่มขึ้นมากในแต่ละปีครับ/ข้อแก้เอาสถิติออกเพราะข้อมูลต้นทางไม่ถูกต้องนะครับ)

ถือว่านักแสดง/นักร้อง/อินฟลู ไทยจำนวนมากมีความสามารถสูงมากแบบที่ไม่มีมาก่อนในเอเชียครับ ต้องยอมรับในความสามารถน้องๆสมัยนี้จริงๆครับ



นอกจากนี้คุณชายอดัม ยังวิเคราะห์ถึงรายได้การเป็นยูทูบเบอร์ อีกหนึ่งช่องทางในโลกออนไลน์ โดยระบุว่า

"ราคา Youtube คือ 1 ล้าน วิว 1 หมื่นบาทครับ ราคาค่าทำ Content Youtube ต่อตอนของนักแสดงเบอร์ใหญ่ๆหรือ Influencer เบอร์ใหญ่ๆเมืองไทยเต็มที่คือเทปละ 6 แสนบาทครับ (มีคนเดียวที่มีเทปละ 1 ล้านบาท เท่าที่เคยคุยมา แต่ยังไงก็ต้องใช้เวลามากกว่า 3 วันในการทำครับ)

ดังนั้นเต็มที่ Youtuber ถ้าได้เทปละ 1 ล้านบาท แล้วต้องคุยงาน/ถ่ายงาน 3 วันต่อเทปก็ได้เต็มที่ 100 ล้านบาทต่อปีจากลูกค้าครับ นั่นแปลว่าทำงาน 300 วันต่อปีและลง 100 วิดีโอที่มีลูกค้าระดับสินค้าท็อปๆเมืองไทยลง 100 แบรนด์ที่ไม่ใช่คู่แข่งกัน (ลงล้านนึงยังไงก็กันคู่แข่ง 3 เดือนครับ)

ดังนั้นก็ ต้องดังระดับที่เดินไปไหนคนรู้จักแน่ๆหรือต้องมียอดและระดับความดัง พี่เอก+เสือร้องไห้+บี้+เก๋ไก๋ขึ้นไปเท่านั้นแหล่ะครับที่ได้ขนาดนั้นครับ"



หลังโพสต์เผยแพร่ไปได้มีผู้เข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจำนวนมาก อาทิ

“มีไม่กี่อาชีพที่สุจริตที่จะทำได้ระดับนั้นค่ะ ถ้าถอยซุปเปอร์คาร์เป็นว่าเล่น มันมีอะไรข้างในที่ไม่ได้บอกหมด มีทั้งสุจริตใช้เทคนิค สร้างภาพต่อยอด กับแหล่งฟอกเงินจากธุรกิจผิดกฎหมาย บางคนบางคนนะคะคือแหล่งฟอกเงินของนักการเมือง นักธุกิจ

เอาเงินมาทำคอนเท้นต์กินหรูอยู่แพง ช็อปปิ้ง ของเราก็ไม่ได้ไปเฝ้ากับเขา เอามาใช้ทำคอนเท้นต์เสร็จขายต่ออีกที ไม่มีใครบอกหมดหรอกค่ะ ที่มาของเงิน ทำรวยไว้ก่อน คอนเท้นต์ช็อปวันละล้าน จริงๆซื้อของแล้วเอามาขายต่อ



ขณะที่ผู้ที่เคยทำงานวงการบันเทิง ได้ให้ข้อมูลเรทค่าตัวเพิ่มเติมว่า

-รายการ

ดังจะหลัก 50,000 บาทขึ้นไป

ไม่ดังจะหลัก 15,000 บาท


-อีเว้นท์ ถ้ากระแส ได้ตามที่เรียก

ดังก็ 80,000 บาทขึ้นไป

ไม่ดัง ก็ 30,000-45,000 บาท


-ละครก็ขึ้นกับความดัง และบท

ดังก็ 60,000 บาท/ตอน

ไม่ดังก็ 15,000 บาท/ตอน


-พรีเซนเตอร์ ขึ้นกับสโคปงาน ว่าทำอะไรบ้าง ถ่ายโฆษณา ออกรายการ อีเว้นท์ ก็จะเป็นเรทเหมา

ดังมาก ก็หลัก 5,000,000 บาทขึ้นไป

ไม่ดังมาก แต่ก็พอมีกระแส 1,000,000 บาทขึ้นไป


-งานรีวิว

ดังมาก จะเลือกรับงาน 70,000 บาท/ต่อรูป ลง 7 วัน ลบ

ดังน้อยก็ ขึ้นกับสินค้า ถ้าสินค้าแมสจะแพง

ถ้าสินค้าไม่ได้แมส 30,000 บาท/รูป

Live สดจะเพิ่ม +20,000 บาทขึ้นไป

-หนัง จะเป็นเรทเหมา

ดัง มีนางเอกบางคนเรียก 3 ล้านบาท

ดาราตลกดังๆ บางคน 2 ล้านบาท ขึ้นกับบท ว่าเขาเล่นอะไร ถ้าเขาเป็นตัวแบก ก็เรียกเยอะ

แต่ถ้าไม่ดังก็หลักหมื่น - แสน


-งานพิธีกร

ส่วนมากจะเรท 40,000 บาท


คุณอาจสนใจ

Related News