เศรษฐกิจ

ไฟเขียว 1 ต.ค.นี้ ขึ้นค่าแรง 400 บาท พร้อมเผยมาตรการ บรรเทาผลกระทบนายจ้าง-ลูกจ้าง

โดย weerawit_c

8 ก.ย. 2567

935 views

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ยืนยันที่จะประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั้งประเทศพร้อมกันในวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ที่ 400 บาท พร้อมมีข้อเสนอ 7 มาตรการ เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบทั้งนายจ้าง-ลูกจ้าง


วานนี้ (7 ก.ย.67) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงข้อเสนอจากกระทรวงแรงงาน เกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือนายจ้างกรณีขึ้นค่าแรง 400 บาทในช่วงเดือนตุลาคม 2567 ว่า กระทรวงแรงงานได้รับข้อหารือจากผู้ประกอบการ และจากการศึกษาของคณะอนุกรรมการที่ทางกระทรวงแรงงานตั้งขึ้นมา โดยปลัดกระทรวงแรงงานได้รายงานมา เรายังยืนยันที่จะประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั้งประเทศพร้อมกันในวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ที่ 400 บาท


การที่จะประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำตรงนี้ความรอบคอบของกระทรวงแรงงาน โดยศึกษาถึงผลกระทบว่าเมื่อประกาศค่าแรงขั้นต่ำในสภาวะที่เศรษฐกิจของภูมิภาคต่างๆ ในโลกใบนี้ โดยเฉพาะประเทศไทยเราคงทราบดีอยู่แล้วว่า ขณะนี้เศรษฐกิจยังอยู่ในช่วงของการชะลอตัว เพราะฉะนั้นผมให้นโยบายไปกับปลัดกระทรวงแรงงานว่าจะต้องพิจารณาและหาผู้ที่ให้ข้อมูลในเชิงวิเคราะห์ให้ได้มากที่สุด จากการวิเคราะห์และศึกษาร่วมกับทางประกันสังคม มีข้อสรุปออกมาว่าการที่เราจะประกาศค่าแรงขั้นต่ําที่ 400 บาท


โดยจะไปดูในเรื่องของไซส์แอล คือจะเอาเกณฑ์ที่มีสถานประกอบการที่มีผู้ใช้แรงงานหรือมีการจ้างแรงงานไม่น้อยกว่า 200 คนขึ้นไป นี่เป็นบทสรุปซึ่งท่านปลัดจะต้องนําเรื่องต่างๆ เหล่านี้เข้าไปหารือกับทางสภาพัฒน์ แล้วไปหารือกับกระทรวงการคลังอีกครั้งหนึ่ง


รมว.แรงงาน กล่าวว่า จากการหารือระหว่างตน ปลัดกระทรวงแรงงาน และเลขาธิการประกันสังคม ได้ข้อสรุปเฉพาะของประกันสังคมว่า จะมีมาตรการเยียวยาให้กับผู้ประกอบการ ที่มีแรงงานในบริษัทมากกว่า 200 คนขึ้นไป โดยลดการนําส่งสําหรับนายจ้าง 1% ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ.2567 ไปจนถึงเดือนกันยายนปี 2568 เป็นเวลา 12 เดือน


กระทรวงแรงงานจะเสนอให้กระทรวงการคลังไปดูมาตรการต่างๆ ว่าเมื่อ พ.ศ.2555 ในสมัย นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี มีการประกาศค่าแรงขั้นต่ำขึ้นไปที่ 300 บาทว่ามีมาตรการทางกระทรวงการคลัง ช่วยเหลือผู้ประกอบการบ้าง เราจะหารือกระทรวงคลังและนํามาปฏิบัติอีกครั้ง และจะนําเสนอว่าจากการที่คุณขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ จะเอาส่วนที่เกินก่อนหักภาษี 1.5 เท่า มาเป็นค่าใช้จ่ายก่อนหักภาษี เพื่อช่วยผู้ประกอบการในการบรรเทาเรื่องการชําระภาษี ส่วนมาตรการอื่นๆ คงจะต้องให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาและประกาศออกมาอีกครั้งหนึ่ง



รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/PXgwvK52hXw

คุณอาจสนใจ

Related News