เศรษฐกิจ

โฆษกกองสลากฯ เผย ไม่ได้ตัดสิทธิ์คนขายตัวจริง แค่ต้องการคัดกรองเท่านั้น

โดย weerawit_c

25 ธ.ค. 2564

2K views

วานนี้ (24 ธ.ค.) ที่หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าผู้จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลในพื้นที่ มารวมตัวกันเพื่อยื่นหนังสือขอให้ทบทวนการยกเลิกบัญชีผู้ลงทะเบียนสลากเสรีหรือได้รับโควต้าหวยรัฐบาล ต่อนายภาสกร บุญญลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ก่อนจะเคลื่อนขบวนไปยังอาคารศาลากลาง เพื่อเรียกร้องให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลยกเลิกมาตรการแก้ไขหวยเกินราคาที่มีการแถลงเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา



โดยมีเนื้อหา ให้ยกเลิกบัตรกดเสรีทั้งหมดประมาณ 200,000 รายและเปิดรับสมัครใหม่ ซึ่งกลุ่มผู้ค้าสลากเกรงว่าพวกเขาจะได้รับผลกระทบเพราะส่วนใหญ่เป็นผู้ค้ารายย่อยตัวจริง ที่ไม่ใช่ผู้ที่รับมาขายต่อหรือยี่ปั๊ว และหากมีการรับสมัครใหม่เกรงว่าจะไม่ได้กลับมาได้สิทธิ์อีจึงขอให้ทบทวนมาตรการเปลี่ยนไปใช้วิธีการตรวจสอบสถานะของผู้ค้ารายบุคคลหากผู้ใดไม่เข้าเงื่อนไขก็ให้ตัดสิทธิ์เป็นรายๆ ไปจะดีกว่า



ขณะที่ พ่อค้าแม่ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล จ.ลำปาง ประมาณ 300 คน เดินทางกันมาที่ศาลากลาง จ.ลำปาง เพื่อรวมตัวกันยื่นหนังสือเรียกร้อง กรณีรัฐบาล มีมติให้ยกเลิกบัตรเสรีของผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยจะยื่นหนังสือร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม จ.ลำปาง เพื่อส่งเรื่องถึงกองสลากกินแบ่งรัฐบาล



โดยในหนังสือ คัดค้านมติของคณะกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้มีการประชุมแก้ปัญหาสลากฯราคาแพง เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2564 โดยมีมติให้ยกเลิกบัตรเสรีผู้ค้าสลากฯ ซึ่งผลจากมติทำให้ผู้ค้าได้รับผลกระทบ และเดือดร้อนกันจำนวนมาก จึงได้ทำหนังสือร้องเรียนต่อสำนักงานกองสลากฯ โดยแนบรายชื่อผู้ค้าที่เซ็นชื่อคัดค้านกว่าหลายร้อยรายลงไปด้วย



ที่ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ถ.สนามบินน้ำ ต.บางกระสอ อ.เมืองจ.นนทบุรี มีประชาชนผู้จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลทั่วประเทศรวมตัวกันประท้วงทางสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เนื่องจากมีการเปิดรับสมัครผู้ซื้อจองล่วงหน้า จำนวน 200,000 ราย และจะตัดสิทธิ์ผู้ค้ารายเก่าโดยการแรนดอม จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1-31 มกราคม 2565 และภายในวันที่ 27 ธ.ค.64 จะมีการยกเลิกกลุ่มผู้ค้เสรีจำนวน 150,000 ราย



กรณีดังกล่าวทำให้ ผู้ค้าสลากไม่พอใจและส่งตัวแทนเข้ายื่นหนังสือคำร้องให้กับรองผู้อำนวยการกองสลาก โดยยื่นไปทั้งหมด 3 ข้อ 1.ขอให้ระงับคำสั่งเลื่อนการตัดโควต้าเสรีออกไปก่อน 2.ตัดสิทธิยกเลิกหวยเสรีไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาหวยแพง 3.หาแนวทางแก้ไขให้กับผู้ที่เดือดร้อนก่อนยกเลิกเยียวยา



ด้านนายสำอางค์ ซ่อนกลิ่น อายุ 49 ปี แอดมินกลุ่มผู้ค้าปลีกรายย่อยตัวจริง กล่าวว่า วันนี้ตนมาในนามผู้ค้าสลากรายย่อยตัวจริง เพื่อให้ต้องการชะลอคำสั่งให้ยกเลิกโควต้า เพรากองสลากมีประกาศออกมาว่าผู้ค้าเสรีทั้งหมด 1.7 แสนราย ซึ่งเป็นรายเก่า ทางกองสลากจะยกเลิกส่วนนี้ออกเพื่อที่จะรับสมัครผู้ค้ารายใหม่จำนวน 2 แสนราย และอ้างว่าเป็นการแก้ปัญหาหวยแพง ซึ่งสร้างปัญหาให้กับผู้ค้าอย่างมาก



โดยการผลักคนหลายแสนให้ตกงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งผู้ค้าส่วนใหญ่ที่โดนยกเลิก เป็นผู้ค้าสลากมาเป็นเวลายาวนาน และทำเป็นอาชีพแล้ว ซึ่งทางกองสลากสมควรที่จะพิจรณาให้ละเอียดก่อนที่จะตัด ควรจะสำรวจให้ดี ส่วนเรื่องข้อกำหนดผู้ทำงานราชการ หรือมี ม.33 ให้ตัดสิทธิ์ออกตรงนี้ตนก็ยอมรับได้ เพื่อที่จะให้สิทธิ์ผู้ค้าตัวจริงโดยไม่ใช้วิธีการแรนดอมเพื่อที่จะเอาใครก็ไม่รู้เข้ามาแทนผู้ขายตัวจริง



ตนจึงมาเรียกร้องสิทธิ์และผู้ค้า หลังจากได้คุยกับผู้ค้าสลากแต่ละรายบางคนก็หมดเนื้อหมดตัวได้ทันที หลักจากถูกตัดสิทธิ์ร่วมกับมีโควิด เคยขายได้มากก็น้อยลง แต่พอผู้ค้าจะพออ้าปากได้ก็กลับมาถูกตัดสิทธิ์โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ตอนนี้ตนรวมตัวคนอยู่และรอยื่นเรื่อง ถ้าไม่ชะลอหรือยกเลิกคำสั่งนี้ทางตนจะทยอยคนมาให้มากกว่าเดิมเป็นแสนกว่าคน



ทางด้าน รองศาตราจารย์ ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวถึงกรณีที่ผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล รวมตัวกันประท้วงหน้ากองสลากฯ ขอไม่ให้ยกเลิกสิทธิคนขายหวย 1.5 แสนคน พร้อมยื่นศาลปกครองกลางขอให้ระงับคำสั่งมติบอร์ดกองสลาก ก่อนที่จะมีผลบังคับใช้ 27 ธ.ค.นี้



รองศาตราจารย์ ดร.ธนวรรธน์ ระบุว่า มติของคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ยึดผลประโยชน์ของประชาชนผู้ซื้อสลากฯ เป็นตัวตั้ง โดยผู้ซื้อสลากฯ ตั้งประเด็นว่าทำไมสลากฯ แพงขายเกินราคา ซึ่งทางสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ตรวจสอบพบว่า เกิดจากคนที่รับสลากฯ กว่า 2 แสนคน ไปขายแต่ไม่ทำการขายเอง โดยนำไปขายช่วงให้กับตลาดขายส่ง และขายเกินราคา 80 บาท



ดังนั้นการดำเนินการของกองสลากฯ ครั้งนี้ จึงเป็นกระบวนการคัดกรองคนขายจริง คนที่เป็นบุคคลขายจริงก็มีสิทธิ์สมัครได้ต่อเนื่อง และยังมีสิทธิ์รับสลากกินแบ่งรัฐบาลในระบบซื้อจองผ่านธนาคารได้ ซึ่งผู้ที่ลงทะเบียนรู้อยู่แล้วว่าการซื้อจองทางธนาคารอาจจะได้ไม่ประจำทุกงวด เพราะสลากพิมพ์แค่ 100 ล้านใบ ดังนั้นไม่ได้ตัดสิทธิ์ใครที่เป็นคนขายสลากตัวจริง



ผู้ที่ดำเนินการขายแม้จะมีข้อเรียกร้องให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลคงรายชื่อไว้ ในระบบซื้อจอง ถ้าผู้ขายสมัครมาแล้วผ่านเกณฑ์ก็ยังอยู่ในรายชื่อของการซื้อจอง กระบวนการทางกองสลากฯ ไม่ได้ยึดผลประโยชน์ใครเป็นที่ตั้ง เรายึดผลประโยชน์ของประชาชนตามเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จัดสรรและจำหน่ายสลากฯ ในราคาที่กฎหมายกำหนด ยืนยันไม่ตัดสิทธิ์คนขาย



รองศาตราจารย์ ดร.ธนวรรธน์ เชื่อว่า คณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองด้วยการยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นตัวตั้ง โดยขายสลากฯ ให้กับประชาชนในราคาตามจริงคือ 80 บาท และดูแลสังคมเพื่อไม่ให้สลากกินแบ่งรัฐบาลไม่ให้มีปริมาณมากเกินไป ย้ำไม่ได้ตัดสิทธิ์คนขาย ที่สำคัญมีคนขายหน้าใหม่เกิดขึ้นซึ่งเขาต้องการสลากฯ จึงเป็นการเป็นโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงสลากที่เป็นคนขายตัวจริง เพื่อป้องกันไม่ให้คนที่ไม่ต้องการขายจริงหรือเป็นนอมินี ที่รับสลากไปส่งต่อให้ยี่ปั๊ว ซาปั๊ว ให้หายจากระบบ



ทั้งนี้ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กลั่นกรองด้วยความรอบคอบ อย่างไรก็ตามยังไม่มีการพูดคุยถึงการทบทวนมติ เพราะเชื่อว่ากรอบดำเนินการขณะนี้ ผู้ขายจริงสามารถสมัครได้อยู่แล้ว ส่วนตัวเลขจำนวนผู้ค้าสลากตัวจริงไม่สามารถทราบได้เลย ทราบเพียงว่าสลากฯ 100 ล้านใบ 2 งวด ขายเฉลี่ยได้คนละ 5 เล่ม เท่ากับมีคนขายประมาณ 2 แสนราย     



แต่เนื่องจากสถานณ์โควิด การทำกำไรในการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกิดขึ้น จึงทำให้ระบบที่เราสมดุลอยู่ที่ปี 2558 จำนวนผู้ขาย 2 แสนราย ปัจจุบันมีจำนวนผู้ขายสลากฯเพิ่มมากขึ้นประมาณ 4 แสนราย แยกเป็น 3 กลุ่มคือ 1.คนขายช่วง รับสลากแล้วนำไปขายช่วงทันทีกับกลุ่มต่าง ๆ ทำให้ราคาขั้นต้นแพงเกินราคา 2.นอมินี เป็นตัวแทนของยี่ปั๊วที่เข้ามารับสลากและเข้าไปร่วมในตลาดขายส่ง  3.คนขายหน้าใหม่ ซึ่งมีตั้งแต่ปี 2558 และเพิ่มขึ้นขึ้นเรื่อยๆ  โดยสลากไม่ได้มีข้อกำหนดห้ามเป็นสินค้าสงวนที่มีจำนวนจำกัด



รองศาตราจารย์ ดร.ธนวรรธน์ ยังระบุอีกว่า สลากฯ ที่ทำขึ้นมา 100 ล้านใบ พอดีแผงในวันที่ออกรางวัล ฉะนั้นคนขายที่เป็นคนขายจริงๆ 1.5 แสน-2 แสนราย ควรจะอยู่ในระบบ ถ้าคัดกรองคนขายจริงที่ไม่ได้เป็นข้าราชการหรือทำงานเป็นหลักแหล่ง แต่มีอาชีพขายสลากอย่างแท้จริงที่ลงทะเบียนไว้ประมาณ 2 แสนราย สลากน่าจะพอดีๆ กับจำนวนคนขายจริงๆ



ซึ่งการลงทะเบียนสังคมจะทำให้ทราบว่า มีความต้องการจากคนขายกี่คน สมมุติถ้ามีคนลงทะเบียน 3 แสนราย จะได้รู้ว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลมีความต้องการซื้อนำไปขายกี่ใบจากจำนวนคนขาย ถ้าคนลงทะเบียน 4 แสนราย สำนักงานกองสลากฯ  จำเป็นต้องพิมพ์สลาก 200 ล้านใบ เพื่อให้คนขายทุกคนมีสิทธิ์นำสลากไปขาย



ไม่ใช่เป็นการมอมเมาสังคมแต่กองสลากฯ ต้องการสร้างอาชีพให้กับคนขาย อย่างไรก็ตามหากกองสลากฯ พิมพ์สลากมากกว่า 100 ล้านใบ ซึ่งคนขายทุกคนมีสิทธิ์รับสลากไปขายก็จะเห็นสลากฯ เหลือแผง คนขายก็จะขาดทุนเพราะขายสลากไม่ได้ อาจทำให้คนขายมีหนี้สิน ดังนั้นจึงเป็นที่มาที่ทำให้กองสลากฯ ต้องคัดกรองคนขายตัวจริงให้อยู่ในระบบ



เมื่อถามถึงราคาสลากฯ ขายเกิน 80 บาท สามารถแก้ปัญหาได้หรือไม่ โดยรองศาตราจารย์ ดร.ธนวรรธน์ ยืนยันสามารถแก้ได้ถ้าสังคมไทยโดยเฉพาะคนขายสลากฯ มีความซื่อสัตย์ ถ้าคนขาย 2 แสนราย รับสลากจากกองสลากฯ มา 70.40 บาท หากขายด้วยตัวเองจริงๆ สลากจะเกินราคาหรือไม่



การขายสลากที่ยั่งยืนคือการขายสลากฯ ด้วยระบบคอมพิวเตอร์หรือระบบออนไลน์ ถ้าคนขายซื่อสัตย์ ถ้าออนไลน์ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลดูแลเอง ซึ่งคนขายกว่า 4 แสนราย ก็จะหายจากระบบ แต่สำนักงานกองสลากฯ เลือกที่จะไม่ทำวิธีนี้เพราะเป็นการทำร้ายคนขาย เราต้องการรักษาอาชีพนี้ไว้เพื่อประชาชนที่ต้องการมีรายได้



รองศาตราจารย์ ดร.ธนวรรธน์ ระบุว่า “คนที่ไม่ซื่อสัตย์กับระบบ ทำร้ายคนขายที่ซื่อสัตย์” ถ้าคนขายยอมขายตามราคาที่สัญญาไว้กับกองสลากฯ สลากเกินราคาก็จะไม่มี ถ้าคนขายยังทำให้สลากเกินราคา มันจะนำพาไปสู่กระบวนการที่ขายสลากฯ ด้วยคอมพิวเตอร์ ซึ่งคนขายจะอยู่ในระบบไม่ได้ เรากำลังจะเลือกที่คนขายยังอยู่ในระบบ แต่อาจจะมีการซื้อขายด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้จะรับฟังความคิดเห็นต่อไป”  



สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลดูแลคนซื้อ เมื่อเราต้องการดูแลคนซื้อ คนขายยังอยู่ในระบบ 2 แสนคน นั่นคือเราดูแลคนขายด้วย ซึ่งต้องการดูแลคนที่ขายจริง ไม่ใช่คนขายที่ไปขายช่วงทำให้ราคาสลากฯ เกิน โหดร้ายกับผู้บริโภค อยากให้ทุกคนเข้าใจว่าเราต้องการดูแลประชาชนที่ต้องการซื้อสลากฯ 80 บาท


รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/zr2so4WHIa0

คุณอาจสนใจ

Related News