สภาพัฒน์ เตือนสัญญาณอันตราย หนี้บ้านต่ำ 3 ล้าน-หนี้บัตรเครดิตพุ่ง

สภาพัฒน์ เตือนสัญญาณอันตราย หนี้เสียบ้านต่ำ 3 ล้าน และหนี้บัตรเครดิตพุ่ง ลามชนชั้นกลาง



โดยนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒน์ แถลงภาวะสังคมไทยไตรมาส 1 ปีนี้ หนี้ครัวเรือนไทย ที่มีข้อมูลจากไตรมาสก่อน อยู่ที่ 16.4 ล้านล้านบาท คิดเป็น 91.3% ต่อจีดีพี ขยายตัวชะลอลง



ขณะที่คุณภาพสินเชื่อด้อยลงในทุกประเภท ยกเว้นหนี้เสียบ้าน ในกลุ่มวงเงินน้อยกว่า 3 ล้านบาท ที่สูงขึ้นจนน่าตกใจ จากหดตัว 1.7% ในไตรมาสก่อน มาบวกถึง 7% ในไตรมาสนี้ โดยมากว่า 73% เป็นหนี้เสียของสินเชื่อบ้าน ที่ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นหนี้ของครัวเรือนรายได้ระดับปานกลางหรือล่าง หนี้ที่เพิ่มขึ้นมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ บวกกับดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ซึ่งธนาคารต้องเข้าไปดูลูกหนี้ในส่วนนี้เป็นรายบุคคล เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ก่อนที่จะมีปัญหา



และยังส่งสัญญาณเตือนหนี้บัตรเครดิต ที่ขยายตัวเร่งขึ้นเป็น 3.5% จาก 1.9% ของไตรมาสที่ผ่านมา โดยตั้งข้อสังเกตว่า ราคาสินค้าเพียงแค่หลัก 2-3 พันบาท ก็ให้ผ่อนผ่านบัตรเครดิตได้แล้วนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ควร เพราะยิ่งส่งเสริมให้คนเป็นหนี้



โดยเฉพาะคนที่มีทัศนคติว่า “ของมันต้องมี” โดยลืมพิจารณาว่ารายได้สุทธิไม่เพียงพอ และเมื่อซื้อสินค้าด้วยระบบเงินผ่อนหลายชนิด ในที่สุดก็ไปกระทบการก่อหนี้รูปแบบอื่น กลายเป็นวงจรอุบาทว์ และเมื่อพิจารณาถึงความสามารถในการชำระหนี้ของครัวเรือน พบว่า ด้อยลงต่อเนื่อง



โดยข้อมูลธนาคารพาณิชย์ ณ ไตรมาส 4 ปี 66 หนี้เสียเพื่อการอุปโภคบริโภค มีมูลค่า 1.58 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 2.88% ต่อสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นจาก 2.79% ของไตรมาสที่ผ่านมา และมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น เนื่องจากการฟื้นตัวของรายได้ที่ยังไม่ทั่วถึง ขณะที่สินเชื่อยานยนต์หดตัว 0.6% เนื่องจากสถาบันการเงิน เพิ่มความเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อ

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/aEWXdP3Xv5k