กกร. ชี้ “น้ำท่วมใต้” วิกฤตเทียบเท่า “สึนามิ” คาดฉุดรายได้ปี 69 หายเกือบแสนล้าน

กกร. ชี้ “น้ำท่วมใต้” วิกฤตเทียบเท่า “สึนามิ” ฉุดรายได้ปี 69 หายเกือบแสนล้าน กดดันเศรษฐกิจชะลอ พร้อมปรับลด GDP ปีนี้จาก 2.2 ในการประเมินครั้งก่อนหน้า (พ.ย.) ลงเหลือ 2.0 เซ่นพิษน้ำท่วม

วันที่ 3 ธ.ค.2568 นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในฐานะประธานที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยหลังการประชุมประจำเดือนธันวาคม 2568 ว่า เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญแรงกดดันหนักจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ วิกฤตอุทกภัยในภาคใต้ที่รุนแรง และแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวในปีหน้า

โดยเฉพาะสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ครั้งนี้ถือเป็นสาธารณภัยร้ายแรงระดับ 4 เทียบเคียงเหตุการณ์สึนามิปี 2547 สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินที่ต้องซ่อมแซมฟื้นฟูมูลค่านับแสนล้านบาท เฉพาะเดือน ธ.ค. 2568 สูญเสียรายได้หมุนเวียน 2-3 หมื่นล้านบาท (คิดเป็น 0.1-0.2% ของ GDP) ส่งผลให้ GDP ปี 2568 ขยายตัวได้เพียง 2.0% ขณะที่ปี 2569 คาดการณ์ผลกระทบต่อเนื่องจะทำให้สูญเสียรายได้อีกราว 9 หมื่นล้านบาท

กกร. จึงเสนอให้ยกระดับการจัดการภัยพิบัติเป็น “วาระแห่งชาติ” และเร่งระดมความช่วยเหลือ ทั้งเงินบริจาคจากสมาคมธนาคารไทย 50 ล้านบาท, สภาหอการค้าฯ 7.8 ล้านบาท และโครงการ “พี่ช่วยน้องอุตสาหกรรมไทย” เพื่อกู้โรงงานและธุรกิจให้กลับมาดำเนินงานได้เร็วที่สุด

สำหรับทิศทางเศรษฐกิจ กกร. ประเมินว่าปี 2569 เศรษฐกิจไทยจะชะลอตัวลงจากปีนี้อย่างชัดเจน โดยคาดการณ์ว่าในปี 2568 (ณ ธ.ค.) GDP โต 2.0%, ส่งออกโต 10.0% และ เงินเฟ้อ 0.0%

ส่วนคาดการณ์ปี 2569 มีโอกาสที่ GDP โตลดลงเหลือ 1.6 – 2.0%, ส่งออกพลิกติดลบ -1.5 ถึง -0.5%, เงินเฟ้อ 0.2 – 0.7%

โดยปัจจัยลบสำคัญมาจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยเฉพาะ “จีน” ที่ประสบภาวะ Over supply และอุปสงค์ภายในอ่อนแอ จนต้องเร่งระบายสินค้าออกสู่ตลาดโลกตามแผนพัฒนาฯ 5 ปี ทำให้สินค้าไทยเจอการแข่งขันรุนแรงขึ้น ประกอบกับความไม่แน่นอนของมาตรการภาษีสหรัฐฯ

ทั้งนี้ ภาคเอกชนเน้นย้ำความจำเป็นในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจผ่าน Reinvent Thailand เน้นใช้ Local content และแก้ปัญหาระยะสั้นร่วมกับภาครัฐ โดยล่าสุดขอบคุณรัฐบาลที่ตรึงราคาก๊าซธรรมชาติอ้างอิง Pool gas ช่วยพยุงต้นทุนการผลิตท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ