เอกชน ฝากการบ้านผู้ว่าฯ แบงก์ชาติคนใหม่ ชี้โจทย์ด่วนสุดคือ “ค่าเงินบาท” ต้องอ่อนค่าหนุนส่งออก

ภาคเอกชน ฝากการบ้านผู้ว่าฯ แบงก์ชาติคนใหม่ ชี้โจทย์เร่งด่วนสุดคือ “ค่าเงินบาท” ต้องอ่อนค่าหนุนส่งออก ประคองเศรษฐกิจ

นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แสดงความเห็นต่อกรณีที่ ครม. มีมติเห็นชอบรายชื่อ นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ให้ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่

นายอิศเรศ แสดงความชื่นชมและมองว่า นายวิทัยเป็นผู้นำที่มีความเข้าใจในภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง (Real Sector) และใกล้ชิดกับประชาชน โดยระบุว่าผู้นำที่มาจากสถาบันการเงินของรัฐและทำงานกับประชาชนโดยตรง จะมีความเข้าใจเศรษฐกิจทั้งในระดับจุลภาคและมหภาค ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญอย่างยิ่งในการนำพาเศรษฐกิจของประเทศในสภาวะปัจจุบัน

พร้อมทั้งฝาก “การบ้าน” หลายประเด็นที่อยากให้ผู้ว่าการ ธปท. คนใหม่พิจารณาเป็นพิเศษ โดยเรื่องเร่งด่วนที่สุดคือ “อัตราแลกเปลี่ยน” เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่พึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก จึงจำเป็นต้องดูแลค่าเงินบาทให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และควรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งในภูมิภาค เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและทำให้สินค้าไทยมีราคาถูกลง สามารถส่งออกได้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นการสร้างรายได้เข้าประเทศที่สำคัญในยามที่เศรษฐกิจยังเปราะบาง

“ถ้าให้เสนอเรื่องที่ด่วนที่สุด ก็น่าจะเป็นเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยน เพราะเราส่งออกเยอะ การแก้ปัญหาเรื่องนี้จะช่วยได้ทันที คิดว่าการส่งออกคือการหารายได้เข้าประเทศที่ดีที่สุดในตอนนี้” นายอิศเรศกล่าว

ประเด็นต่อมาคือ ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (Spread) โดยต้องการให้มีการกำกับดูแลให้เกิดความเป็นธรรมมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาเมื่อมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย อัตราดอกเบี้ยเงินฝากมักจะปรับลดลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้กลับไม่ได้ลดลงในสัดส่วนเดียวกัน ซึ่งไม่เอื้อประโยชน์ต่อภาคธุรกิจและประชาชนเท่าที่ควร

นอกจากนี้ยังฝากให้พิจารณาเรื่องกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ (Inflation Targeting) ที่ปัจจุบันยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายที่ 1-3% ซึ่งสะท้อนถึงอุปสงค์ในประเทศที่อ่อนแอ รวมถึงปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด โดยนโยบายการเงินโดยรวมควรเป็นไปในทิศทางผ่อนคลายเพื่ออัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบเศรษฐกิจ

ในเชิงโครงสร้าง นายอิศเรศเสนอให้ผู้ว่าการ ธปท. คนใหม่ ผลักดันการสร้างเครื่องมือทางการเงินใหม่ๆ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) นอกเหนือจากการพึ่งพาสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์เพียงอย่างเดียว เนื่องจาก SMEs จำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ เพราะธนาคารมักจะเลือกปล่อยสินเชื่อให้เฉพาะลูกค้าชั้นดี การมีเครื่องมือทางการเงินที่หลากหลายจะช่วยให้ธุรกิจรายย่อยและประชาชนที่เดือดร้อนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น

“ผมมั่นใจว่าผู้ว่าฯ คนใหม่ที่มีความใกล้ชิดกับ Real Sector จะเข้าใจปัญหาเหล่านี้ และสามารถทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้สอดคล้องกับนโยบายการคลังของรัฐบาลได้อย่างเหมาะสม” นายอิศเรศ กล่าว