เศรษฐกิจ

“พิชัย” รีดแบงก์รัฐ 2 แสนล้าน อุ้ม SME-ภาคเกษตร หลังสหรัฐทุบ

โดย chutikan_o

14 ก.ค. 2568

290 views

คลังสั่งแบงก์รัฐเตรียม 2 แสนล้านบาท ออกซอฟต์โลน ดอกเบี้ย 0.01% อุ้ม SME-ภาคเกษตร หลังนโยบายการค้าสหรัฐทุบ พร้อมเปิดทางสหรัฐส่งสินค้าเข้าไทย ภาษี 0% เพิ่มเป็น 69% จากปัจจุบัน 63-64% ยก “ปลานิล ลำไย รถยนต์พวงมาลัยซ้าย” เข้าได้ไม่กระทบ

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงานเสวนาโต๊ะกลม “The Art of (Re) Deal” ว่าการเจรจาภาษีกับสหรัฐที่จะครบเส้นตายในวันที่ 1 ส.ค.นี้ ยังไม่ชัดเจน ไม่มีความแน่นอน และยังไม่มีใครคาดเดาบทสรุปได้ แต่ที่แน่ชัดคือ ความต้องการของสหรัฐที่ต้องการลดการขาดดุลการค้า โดยให้สินค้าสหรัฐเข้าสู่ตลาดต่างๆ มากขึ้นแบบมีข้อตกลงกัน และเป็นข้อตกลงเฉพาะที่แตกต่างจาก FTA เพราะสหรัฐเป็นผู้เสนอฝ่ายเดียว

อย่างไรก็ตามย้ำว่าข้อตกลงจะต้องรักษาผลประโยชน์ร่วมกัน รักษาสมดุล ยอมรับเป็นเรื่องยากมากแต่ก็ต้องทำให้ได้โดยยึดประโยชน์ร่วมกัน เพราะนอกจากจะต้องเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงกำแพงภาษีแล้ว จะต้องไม่ให้กระทบกับประเทศที่ 3 และประเทศคู่ค้าอื่นๆ ด้วย

สำหรับการสวมสิทธิ์เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องทำ แม้ไม่มีเรื่องสหรัฐ เพราะจะเป็นผลดีกับการผลิต และเป็นโอกาส ถ้ามีสัดส่วนโลคอลคอนเทนต์มาก ก็แสดงว่าสินค้ามาจากการผลิตโดยไทยส่วนใหญ่ ซึ่งสหรัฐให้ความสำคัญเรื่องนี้ โดยสหรัฐต้องการให้เพิ่มการใช้วัตถุดิบหรือส่วนประกอบที่มีการผลิตในประเทศไทย หรือโลคอลคอนเทนต์มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันสินค้าที่ส่งออกไปสหรัฐ มีสัดส่วนโลคอลคอนเทนต์เฉลี่ย 40% ก็อาจเพิ่มเป็น 60-80% แล้วแต่อุตสาหกรรม ต้องรอดูผลการเจรจา แต่ก็ไม่สามารถเพิ่มได้ทันที บางอุตสาหกรรมเพิ่มจาก 5% เป็น 50% ใช้เวลาถึง 10 ปี

สำหรับการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ภายใต้กรอบ Preferential Trade Agreement (PTA) ไทยได้ยื่นข้อเสนอเพิ่มเติม ซึ่งเป็นการทบทวนหลายรอบ โดยไทยพร้อมขยายการเปิดตลาดให้สหรัฐฯ เพิ่มเป็น 69% จากปัจจุบันมูลค่าสินค้าที่สหรัฐฯ ส่งมายังไทย อยู่ที่ 63-64% โดยการเปิดตลาดครั้งนี้จะครอบคลุมรายการสินค้าในอัตรา 0% ที่ไทยไม่เคยเปิดให้สหรัฐฯ มาก่อน เช่น ปลานิล ลำไย และรถยนต์พวงมาลัยซ้าย ซึ่งแม้ว่าสหรัฐฯ อาจจะไม่มีศักยภาพในการส่งออกสินค้าดังกล่าว แต่ก็เปิดให้สหรัฐฯ นำเข้าได้ เพราะมองว่าไม่น่าจะกระทบกับผู้ผลิตในประเทศ ขณะเดียวกันสหรัฐฯ เองก็มีตลาดหลักอื่นอยู่แล้ว

ประเด็นสำคัญคือ การเยียวยาผู้ประกอบการ ซึ่งรัฐบาลเตรียมตั้งวงเงินซอฟต์โลนไว้ 200,000 ล้านบาท ที่ต้องเจาะไปถึง SMEs และภาคเกษตร โดยให้ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธกส. และ เอ็กซิมแบงก์ คิดอัตราดอกเบี้ย 0.01% เพื่อช่วยเหลือทั้งการลงทุน ช่วยการจ้างงาน การบริหารสินค้าคงคลัง และมาตรการอื่นๆของสถาบันการเงิน โดยต้องรอดูผลการเจรจาควบคู่กับผลกระทบที่ได้ให้ภาคเอกชนส่งการบ้านมาซึ่งขณะนี้ทยอยส่งมาแล้ว โดยรัฐบาลจะชดเชยดอกเบี้ยให้จากระดับปกติที่ดอกเบี้ย 2%

คุณอาจสนใจ

Related News