เศรษฐกิจ

'เศรษฐา' เชื่อมือ 'ทีมไทยแลนด์' เจรจาภาษีทรัมป์ หวังลดอัตราภาษี 20% เท่าเวียดนาม

โดย petchpawee_k

11 ก.ค. 2568

70 views

วานนี้ 10 ก.ค. 68 นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเจรจาภาษีกับสหรัฐอเมริกา ไทยยังมีหวังที่จะลดลงต่ำกว่า 36% หรือไม่ว่า ขณะนี้ไทยมีเวลาถึง 1 ส.ค.68 ส่วนตัวเชื่อว่า นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมทีม ไทยแลนด์ จะต้องมีการหารือกันอย่างขะมักเขม้น เพื่อให้ไทยได้อัตราภาษีที่ดีขึ้น ซึ่งส่วนตัวได้มีการพบเจอกับปลัดกระทรวงพาณิชย์ และได้รับคำยืนยันว่า "สู้อย่างเต็มที่"


นายเศรษฐา ยังกล่าวอีกว่า ส่วนตัวเชื่อว่ายังมีความหวัง เพราะไทยยังมีหลายอย่างที่ต้องให้กับทางสหรัฐได้อยู่ โดยสิ่งที่ไทยมีแต้มต่อในการต่อรองลดภาษีนั้น จะต้องดูรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง จำนวนสินค้าในหมวดต่างๆ ตรงไหนที่ให้สหรัฐแล้วไม่ต้องเสียภาษีที่มากมาย แต่สำคัญที่สุด ทีมงานทุกกระทรวงไม่ว่าจะเป็นกระทรวงเกษตร กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือ BOI จะต้องมานั่งพูดคุยกัน มีสิ่งไหนที่เกี่ยวข้อง เสียงจะต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน อย่าให้เสียงแตก เพื่อให้สหรัฐพอใจ


รวมทั้ง ยังมีอีกหลายเรื่อง เช่น "นอนคาร์ริค" (การหลีกเลี่ยงภาษี) ที่ไม่เกี่ยวข้องกับ ’คาร์ริค" (การเสียภาษีเงินได้) ขั้นตอนของศุลกากรที่ยังคงมีปัญหา การสวมสิทธิ์ต่างๆ เป็นเรื่องที่ไทยต้องให้ความกระจ่างในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม หากสหรัฐยังคง จัดเก็บภาษีไทยอยู่ที่ร้อยละ 36 สิ่งที่จะกระทบตามมาก็คือ กลุ่มเป้าหมาย ที่อย่างน้อยอาจหารเข้าเวียดนามอย่างน้อยร้อยละ 20 และสหรัฐจัดเก็บในอัตราที่สูงย่อมจะส่งปัญหา เพราะหลายอุตสาหกรรมที่ย้ายถิ่นฐานเข้ามาในประเทศไทย ก็หวังว่าไทยจะไม่เสียเปรียบเพื่อนบ้าน แต่แน่นอนว่าไทยยังมีข้อได้เปรียบอีกหลายข้อ ไม่ว่าจะเป็น การใช้ชีวิตที่ปลอดภัยและต้นทุนต่ำ "low cos save living" มีระบบภาษีที่ชัดเจนกว่า และมีระบบราชการที่ดูแลนักลงทุนอย่างเป็นธรรม ดังนั้น ส่วนตัวเชื่อว่ามีหลายประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเลข แต่นอนนอนว่าตัวเลขต้องใกล้เคียงกันถึงจะมาพูดคุยกันได้


ทั้งนี้ เมื่อถามว่าต้องมีการส่งเสริม กลุ่ม sme ซึ่งได้รับผลกระทบ จากนโยบายภาษีของทรัมป์โดยตรงใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งหากนโยบายภาษีของทรัมป์ ถ้าไม่ได้รับการผ่อนปรน ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จะต้องมีการช่วยเหลือกัน เชื่อว่าทีมงานจะศึกษาและดูแลเรื่องนี้อยู่ แต่สิ่งสำคัญคือตัวภาษี ที่จะต้องมีการลดให้เทียบเท่ากับเวียดนามเสียก่อน แต่ส่วนตัวเชื่อว่าไทยจะมีมาตรการอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อพิเศษดอกเบี้ยต่ำ


ส่วนหลายฝ่ายวิจารณ์ว่าการรับมือของรัฐบาลนั้นเกิดความล่าช้า นายเศรษฐา กล่าวว่า วันนี้ต้องรวมใจกัน และเจรจาในวันที่ 1ส.ค.นี้ ให้มีการลดภาษีลงให้ได้ อย่างน้อยให้ลดเหลือร้อยละ 20 เทียบเท่าเวียดนาม ส่วนตัวเชื่อว่า เป็นประเด็นที่อยู่ในใจทุกๆคนอยู่ ส่วนแผนงานรองรับอื่นๆก็ต้องตามมา


อย่างไรก็ตามระหว่างนี้ หากการเจรจาเป็นไปในเชิงบวก จะเป็นประเด็นที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ หากไม่เป็นไปตามที่หวังไว้ จะต้องมีการทำโลดโชว์ต่างๆ นำข้อดีของประเทศไทย ไปเสนอต่างชาติ


นอกจากนี้ นายเศรษฐายังกล่าวต่อว่าช่วงที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปพบปะกับผู้ประกอบการSME ซึ่งส่วนมากก็จะสะท้อนเรื่องของนักท่องเที่ยว แน่นอนว่าตัวเลขของนักท่องเที่ยวที่ตกลงไปก็เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง แต่เรื่องที่สำคัญที่สุดคือความปลอดภัย และนักท่องเที่ยวจะต้องได้รับการดูแลและความเป็นธรรม ส่วนมาตรการกระตุ้นถือเป็นขั้นตอนต่อไปที่จะต้องทำให้ดีขึ้น


ส่วนข้อมูลที่ระบุว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะของจีนที่ลดลงไปมากนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็ต้องเอาไปเปรียบเทียบกลับเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ก็ยังยืนยันว่าใกล้เคียงกัน แต่ถ้าเปรียบเทียบกับช่วงไฮซีซั่น ยอมรับว่าก็ตกลงไปพอสมควร


https://youtu.be/yw5d-6qf5p8

แท็กที่เกี่ยวข้อง  เศรษฐาทวีสิน ,ภาษีทรัมป์

คุณอาจสนใจ

Related News