เศรษฐกิจ

ราคาอาหารจานด่วน 13 ปี คนเมืองจ่ายแพงขึ้น 106.5%

โดย nicharee_m

22 มิ.ย. 2568

136 views

AREA เปิดรายงานผลสำรวจ ราคาอาหารจานด่วนย่านสีลม-สุรวงศ์ 13 ปี คนเมืองจ่ายแพงขึ้น 106.5% ปัจจัยค่าเช่าที่แพง

ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย AREA รายงานผลสำรวจ การเปลี่ยนแปลงราคาอาหาร พ.ศ.2555-2568 การสำรวจนี้ดำเนินการเฉพาะในพื้นที่สีลม-สุรวงศ์ ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางธุรกิจหรือ Central Business District (CBD) ของประเทศไทย และมีคนทำงานในสำนักงานเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้โดยมีสมมติฐานว่าราคาอาหารในย่านนี้น่าจะเป็นราคามาตรฐานเพราะเป็นในใจกลางเมือง ในบริเวณอื่นน่าจะถูกกว่านี้ ยกเว้นในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้ไปท่องเที่ยวเป็นครั้งคราว การสำรวจพื้นที่สีลม จึงถือเป็นตัวแทนสำคัญสำหรับกรุงเทพมหานครและประเทศไทยโดยรวม

โดยสรุปพบว่าราคาอาหารเฉลี่ย เช่น ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว เป็นดังนี้

พ.ค. 55 ราคาเฉลี่ย 31 บาท

พ.ค. 56 ราคาเฉลี่ย 31.8 บาท

พ.ค. 57 ราคาเฉลี่ย 34.3 บาท

พ.ย. 57 ราคาเฉลี่ย 36.1 บาท

พ.ค. 58 ราคาเฉลี่ย 38.4 บาท

พ.ย. 58 ราคาเฉลี่ย 40 บาท

พ.ค. 59 ราคาเฉลี่ย 41.7 บาท

พ.ย. 59 ราคาเฉลี่ย 43.1 บาท

พ.ค. 60 ราคาเฉลี่ย 45.7 บาท

พ.ย. 60 ราคาเฉลี่ย 47.1 บาท

พ.ค. 61 ราคาเฉลี่ย 48.1 บาท

พ.ย. 61 ราคาเฉลี่ย 49 บาท

พ.ค. 62 ราคาเฉลี่ย 50.2 บาท

พ.ค. 63 ราคาเฉลี่ย 51.4 บาท

มิ.ย. 64 ราคาเฉลี่ย 53.5 บาท

พ.ค. 65 ราคาเฉลี่ย 57 บาท

พ.ค. 67 ราคาเฉลี่ย 62.8 บาท

มิ.ย. 68 ราคาเฉลี่ย 64 บาท

เมื่อประเมินจากภาพรวมสะสม 13 ปี (พฤษภาคม 2555 – มิถุนายน 2568) ราคาเพิ่มจาก 31.0 บาท เป็น 64.0 บาท หรือเพิ่มขึ้น 106.5% และหากคิดเป็นการเพิ่มขึ้นต่อปี ก็เท่ากับเพิ่มขึ้นประมาณ 5.7% ต่อปี ซึ่งถือว่าสูงพอสมควร เพราะสูงกว่าอัตราภาวะเงินเฟ้อ ราคาอาหาร ณ เดือนพฤษภาคม 2566 หรือเป็นเวลา 9 ปีหลังรัฐประหารเมื่อพฤษภาคม 2557 เพิ่มขึ้น 77% หรือเพิ่มขึ้นปีละ 6.6% ซึ่งถือว่าสูงขึ้นมาก หากเทียบกับก่อนรัฐประหารในช่วงเดือนพฤษภาคม 2555-2557 ปรากฏว่าราคาอาหารเพิ่มขึ้นเพียง 10.7% หรือเพิ่มขึ้นปีละ 5.2% ต่ำกว่าช่วงหลังรัฐประหาร ดังนั้นในยุคก่อนรัฐประหาร ราคาอาหารเพิ่มขึ้นน้อยกว่าช่วงหลังรัฐประหารอย่างชัดเจน ส่วนในปีของรัฐบาลเศรษฐาเพิ่มขึ้น 3.3%

มีข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า อาจมีบางบริเวณ เช่น เมืองท่องเที่ยว หรือเมืองอุตสาหกรรมที่มีการปรับเพิ่มของราคาขายมากกว่านี้ หรือสำหรับรายการอาหารแบบฟาสต์ฟูด ก็อาจปรับราคาเพิ่มขึ้นตามอำเภอใจโดยไม่ได้มีการควบคุม แต่สำหรับประชาชนกันเอง ย่อมมีความเห็นใจและถ้อยทีถ้อยอาศัยกันตามสมควร จึงทำให้แทบไม่มีการปรับราคาขาย  แต่ระยะหลังจากที่ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น ค่าไฟฟ้าแพงขึ้น ทำให้การเพิ่มราคาอาหารเกิดขึ้นอย่างชัดเจน

ในกรณีนี้บางท่านอาจตั้งข้อสังเกตว่า แม้ราคาไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้น แต่ปริมาณอาจจะลดน้อยลง แต่จากการสังเกตก็พบว่า ปริมาณก็อาจลดลงบ้าง อย่างไรก็ตามก็ยังอาจมีบางท่านให้ข้อสังเกตว่า แม้บางร้านปริมาณจะคงเดิม แต่คุณภาพก็อาจลดลง แต่ข้อนี้ ผู้สำรวจคงไม่สามารถไปตรวจสอบในรายละเอียดในระดับนั้น และคงอยู่ที่วิจารณญาณของทุกท่านที่พิจารณาผลการสำรวจนี้ ผู้ค้าบางรายกล่าวว่า ไม่สามารถขึ้นราคาอาหารได้เพราะคนซื้อไม่มีกำลังซื้อเท่าที่ควร ทั้งที่วัตถุดิบในการทำอาหารเพิ่มขึ้นก็ตาม จะสังเกตได้ว่าร้านที่ยังพยายามยืนราคาอาหารไว้ หรือไม่ขึ้นราคา จะมีผู้เข้าคิวอุดหนุนมากเป็นพิเศษ

จากการสัมภาษณ์ผู้ค้าพบว่า สิ่งที่ส่งผลที่เด่นชัดกว่าก็คือ ค่าเช่าพื้นที่ค้าปลีกเพื่อการขายอาหาร หากค่าเช่าแพงขึ้นมาก ก็จะทำให้ราคาอาหารเพิ่มมากขึ้น บางแห่งเช่าพื้นที่ขนาดประมาณ 18 ตารางเมตร เป็นเงินถึง 60,000 บาทต่อเดือน (ตรม.ละ 3,333 บาท) ดังนั้นรัฐบาลหรือกรุงเทพมหานคร อาจช่วยจัดหาพื้นที่ค้าขายในราคาถูก เพื่อให้ผู้ค้าสามารถยืนหยัดขายในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป เพื่อเป็นการช่วยเหลือค่าครองชีพแก่ประชาชน

และด้วยเหตุที่ค่าเช่าพื้นที่ขายแพง ก็เลยมีร้านอาหารประเภท “อาหารกล่อง” คือให้ผู้ซื้อๆ กลับไปรับประทานที่อื่น จึงประหยัดค่าเช่าได้มาก ถือเป็นการปรับตัวครั้งสำคัญ และตามศูนย์อาหารต่างๆ ก็พบว่า ร้านค้าหลายแห่งหายไป บางแห่งปิดร้านไปตั้งแต่ช่วงโควิดเมื่อ 1-2 ปีก่อน (2563-2564) อย่างไรก็ตามร้านค้าที่ปิดไปส่วนมาก เพิ่งปิดในช่วงปี 2564-2565 นี้เอง ในการสำรวจครั้งล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคม 2567 ร้านค้าบางแห่งก็ยังซบเซาอยู่

สำหรับราคาอาหารในปี 2568-2569 น่าจะยังค่อนข้างทรงตัวเพราะเศรษฐกิจฝืดเคืองกันทั่วหน้า หากขึ้นราคาสินค้าอาหารอีก ก็คงยิ่งขายยาก ราคาอาหารจึงน่าจะเพิ่มขึ้นไม่เกิน 2% เช่นกัน


แท็กที่เกี่ยวข้อง  ราคาอาหาร

คุณอาจสนใจ

Related News