ความต้องการทองคำทั่วโลก พุ่งทะลุ 1 แสนล้านดอลลาร์ - ทองคำไทยทำสถิติ ออลไทม์ไฮรายวัน

วานนี้ (30 ต.ค. 67) ราคาทองคำไทย วันที่ 30 ตุลาคม 2567 โดยตลาดสมาคมค้าทองคำประกาศปรับราคาครั้งแรก 350 บาท ทำให้ราคาทองทำสถิติออลไทม์ไฮ โดยมีราคาขายออกที่ 4,4800 บาท และในที่สุุด เมื่อปิดตลาด ได้ปรับทั้งหมด 11 ครั้ง รวม +450

• ทองคำแท่ง : รับซื้อ 44,300.00 ขายออก 44,400 (สถิติสูงสุด)
• ทองรูปพรรณ : รับซื้อ 43,509.20 ขายออก 44,900 (สถิติสูงสุด)

ด้านราคาทองคำโลกเป็นดังนี้

• ราคาทองคำ โกลด์ สปอต (Gold Spot) ปรับลดลง  -0.04% ปิดที่ 2,786.58 ดอลลาร์/ออนซ์ (ระหว่างการซื้อ-ขาย พุ่งขึ้นไปแตะราคาสูงสุดครั้งใหม่ที่ 2,789.72 ดอลลาร์/ออนซ์)
  
• ราคาทองคำ ฟิวเจอร์ ปรับขึ้น 0.71% ปิดที่ 2,800.80 ดอลลาร์/ออนซ์
  

ทั้งนี้ ราคาทองคำโลก ที่สูงสุดในประวัติการณ์ อยู่ที่ 2,782.00 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วน ราคาทองคำไทย (รูปพรรณ) ที่สูงสุดในประวัติการณ์ อยู่ที่ 4,450 บาท 

ราคาทองไทย ปี 2567 รวม +10,300

ม.ค. +550

ก.พ. +400

มี.ค. +3,950

เม.ย. +2,100

พ.ค. +150

มิ.ย. -300

ก.ค. +350

ส.ค. -400

ก.ย. -50

ต.ค. 4,000 (30 ต..ค. 67)

ทั้งนี้ ทองคำโลกได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อทองคำ ในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ซึ่ง ณ ขณะนี้ มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการซื้อทองคำ คือ

1. การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถ้า 'โดนัลด์ ทรัมป์' ชนะ ซึ่งมีนโยบายหนุนเงินเฟ้อค้างตัวระดับสูง

2. สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง 

3. ความต้องการทองคำจากธนาคารกลางทั่วโลก โดยเฉพาะจีน

สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยว่า ความต้องการทองคำทั่วโลก (ทองคำโลก) ในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5% ขึ้นไปทำสถิติใหม่ทะลุระดับ 1 แสนล้านดอลลาร์ ได้เป็นครั้งแรกแล้ว

ความต้องการทองคำในไตรมาสที่แล้วเพิ่มขึ้นไปแตะระดับ 1,313 ตัน โดยได้การลงทุนเพิ่มขึ้นจากฝั่งตะวันตก ซึ่งรวมถึงการลงทุนรายบุคคลของ "กลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูง" (HNW) เข้ามาช่วยชดเชยแทนแรงซื้อที่ลดลงจากฝั่งเอเชีย ในขณะที่แรงซื้อของบรรดา กองทุน ETF ทองคำ ก็พลิกกลับมาเป็นซื้อสุทธิในไตรมาสนี้ หลังจากที่มีกระแสเงินไหลออกเป็นเวลานาน

จอห์น รีด หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดของ WGC กล่าวว่า ราคาทองคำ พุ่งสูงขึ้นมากในปีนี้ โดยพุ่งขึ้นไปแล้วมากกว่า 1 ใน 3 และทำราคาทองคำสูงสุดทุบสถิติใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักจากแรงซื้อที่แข็งแกร่งของกลุ่มธนาคารกลาง และความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นจากกลุ่มนักลงทุนความมั่งคั่งสูง รวมถึงการปรับทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไปสู่วัฏจักรการลดดอกเบี้ย ในขณะที่การซื้อขายนอกตลาด (OTC) ก็กำลังกลายเป็นปัจจัยสำคัญต่อราคาทองมากขึ้นเช่นกัน

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/Grhzcc2eaPw