เศรษฐกิจ
‘นายกฯอิ๊งค์’ สวมผ้าพันคอดอยตุง ชวนเที่ยวไทยฤดูหนาว - ใส่ชุดอินเดีย เปิดงานดิวาลี
โดย petchpawee_k
30 ต.ค. 2567
27 views
นายกฯ สวมผ้าพันคอดอยตุง คิกออฟ “Thailand Winter Festivals” เที่ยวทั่วไทยฤดูหนาว ยาวถึง ม.ค.68 ก่อนที่ในช่วงค่ำควง “เศรษฐา” สวมชุดอินเดีย เปิดงานดิวาลี 2024 ปลื้มเป็นซอฟพาวเวอร์ที่มีเสน่ห์กลางเมือง ตอกย้ำ สัมพันธ์อันดี ‘ไทย-อินเดีย’ยาวนานกว่า 77 ปี
วานนี้ 29 ต.ค. 2567 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานงานแถลงข่าว “Thailand Winter Festivals” ซึ่งจะมีกิจกรรมไฮไลท์ 7 กิจกรรม ประกอบด้วย 1.เทศกาลลอยกระทง 2.เทศกาลเคาท์ดาวน์ 3.กิจกรรมเชิงกีฬา 4.กิจกรรมด้านวัฒนธรรม 5.เทศกาลอาหาร 6.เทศกาลดนตรี และ 7.เทศกาลแสงสี
โดยนายกรัฐมนตนีและรัฐมนตรี ได้สวมผ้าพันคอเข้าธีมฤดูหนาว ซึ่งเป็นผ้าทอ ดอยตุง หมักโคลน สีโทนธรรมชาติ จากจังหวัดเชียงราย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อเข้ามาก็ได้เห็นบรรยากาศแห่งการต้อนรับเข้าสู่ฤดูหนาว และขอต้อนรับเข้าสู่ฤดูหนาวของเมืองไทย อาจจะไม่ได้หนาว แต่กิจกรรมของเราปีนี้แน่นอย่างแน่นอน อย่างที่เคยพูดกันมาว่าอยากจะทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศน่าเที่ยวตลอดทั้งปี และเป็นที่ทราบกันดีว่าในช่วงฤดูหนาวทุกที่ทั่วโลกจะน่าท่องเที่ยว ซึ่งก็ต้องทำให้ประเทศไทยน่าเที่ยวด้วย โดยมั่นใจว่าประเทศไทยมีเสน่ห์ที่มากพอมีวัฒนธรรมที่น่าสนใจมีอาหารที่อร่อย คนชอบเผ็ดก็ชอบอาหารไทย
ส่วนคนไม่ชอบอาหารเผ็ดก็ยังชอบอาหารของประเทศไทยและอยู่ที่ทุกคนจะร่วมมือกันอย่างไรที่จะช่วยกันดึงดูดให้คนทั่วโลกมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยและตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนของปีนี้ไปจนถึงเดือนมกราคมของปี 2568 จะมีการจัดกิจกรรมwinter festival ทั่วประเทศไปที่ไหนก็จะมีกิจกรรม
นายกรัฐมนตรี ยังได้ยกตัวอย่างเทศกาลลอยกระทง เมื่อจัดในจังหวัดต่างๆก็ไม่เหมือนกันเพราะในแต่ละภาคก็มีความเป็นพื้นเมือง พื้นฐานไม่เหมือนกัน และอาหารก็ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเทศกาลเดียวกันเมื่อจัดหลายหลายที่ก็สามารถหาประสบการณ์ที่แตกต่างกันได้ จึงอยากให้ไปหลายๆที่เพื่อให้ได้ประสบการณ์ที่ทั่วถึง
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง การทำงานของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟพาวเวอร์ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานภาครัฐภาคเอกชน เชื่อว่าช่วยกันสร้างรายได้ให้กับประชาชนและประเทศไทยโดยนับเป็นปีที่สองที่ได้มีการจัดงาน Thailand winter festival โดยได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วนเข้ามาเพิ่มเติมมากขึ้นอีกทั้งยังมีเรื่องของเทคโนโลยีที่เข้ามาเติมเต็ม
Thailand winter festivals ยังเป็นการส่งสัญญาณให้กับคนทั่วโลกได้รู้ว่าเราพร้อมแล้วที่จะเที่ยวทั่วไทยและคนต่างชาติก็สามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยได้ทุกจังหวัดไม่จำเป็นต้องเป็นเมืองหลักหรือเมืองรอง
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่าภาคเหนือของเราพร้อมเที่ยวแล้วไม่ว่าจะเป็นเชียงใหม่ เชียงราย พะเยาที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วม วันนี้สามารถจองตั๋วเครื่องบินและที่พักในพื้นที่ภาคเหนือได้แล้ว เพราะฉะนั้นใครที่วางแผนอยากจะไปสัมผัสลมหนาวที่ภาคเหนือสามารถจองได้เลยไม่ต้องกังวลเพราะพี่น้องชาวเหนือเปิดบ้านต้อนรับทุกคน และอย่าช้าเพราะหากช้าก็จะถูกจองเต็มหมดแล้ว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทยยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่งและการลงพื้นที่ไปพบปะกับประชาชนก็พยามจะไปท่องเที่ยวให้ได้ครบทุกจังหวัด ขอให้ทุกคนร่วมกันบอกกับทุกคนว่าประเทศไทยพร้อมแล้วสำหรับการท่องเที่ยวหน้าหนาว ขอให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรงช่วงปีใหม่นี้เดินทางไปไหนก็ขอให้ปลอดภัยกลับไปอยู่กับคนที่รักใช้เวลากับครอบครัวขอให้ส่งท้ายปีนี้ด้วยความสดชื่นสดใสและขอให้ปีหน้ามีความสุขสุขภาพแข็งแรงและรวยรวยรวยทุกคน
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้รับชมการแสดงแสงสีภายในงาน ก่อนนำคณะรัฐมนตรีเดินจากตึกสันติไมตรีผ่านหน้าตึกไทยคู่ฟ้ามายังตึกบัญชาการ 1 เพื่อประชุมคณะรัฐมนตรีโดยก่อนการประชุม นายวราวุธ ได้นำคณะผู้บริหาร และศิลปินดารา เข้าพบนายกฯเพื่อติดเข็มกลัดริบบิ้นสีขาวประชาสัมพันธ์กิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว
จากนั้นในช่วงค่ำ นายกแพทองธาร สวมชุดอินเดีย เป็นประธานเปิดงาน Amazing Thailand Diwali Festival Bangkok 2024 บริเวณคลองโอ่งอ่าง โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงาน บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
โดยนายกฯเยี่ยมชมบูธงานโซนวัฒนธรรมและประกอบพิธีตามหลักศาสนา ก่อนสักการะพระพิฆเนศ พระแม่อุมา และชมการแสดงชุดพิเศษจากแดนภารตะ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สวัสดีชาวไทยเชื้อสายอินเดียทุกคน ดีใจที่ได้มางาน ตนเองมาเป็นครั้งที่ 3 โดยครั้งแรกที่มาก็ประทับใจ ครั้งที่ 2 ประทับใจ ครั้งนี้ประทับใจมากๆ เพราะสถานที่ทุกอย่างดูยิ่งใหญ่ขึ้นเป็นทางการขึ้นเห็นได้ชัดว่าได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนมากยิ่งขึ้น ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีมาก ต้องขอชมเชยผู้จัดงานที่ทุ่มเท และสิ่งนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าปราศจากความทุ่มเทแรงกายแรงใจ
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า แน่นอนงานในประเทศไทยของคนไทยเชื้อสายอินเดียที่มีมาอย่างนี้ทำให้ตอกย้ำภาพใหญ่เราเองทั้งคนไทยและคนอินเดียมีความสัมพันธ์ที่ดียาวมากว่า 77 ปีแล้ว ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมากและแน่นอนความเชื่อศาสนาต่างๆของอินเดียเป็นวัฒนธรรมที่สวยงามแน่นอนที่บอกเป็น Soft Power ใช่จริงๆนี่คือเสน่ห์ของอินเดีย เราโชคดีมีเสน่ห์แบบนี้อยู่ในใจกลางเมืองที่สามารถเข้ามาได้ และศึกษาได้ ตนเองอยากจะบอกว่าตั้งแต่ปีแรกจนถึงปีที่ 3 นี้นอกจากจะชื่นชมชื่นชอบวัฒนธรรมอินเดียมากขึ้นก็ทำให้รู้จักทุกคนมากขึ้นด้วยถือเป็นสิ่งที่รู้สึกประทับใจและยินดีในทุกปีที่มีโอกาสมา
ทั้งนี้ รบกวนปีต่อไปอย่าลืมเชิญดิฉันด้วย งานในที่นี้เห็นได้ชัดว่าสมชื่อทำให้บรรยากาศรอบนี้สว่างไสวไปทั้งหมดมีความสดใสเกิดขึ้นมากมาย ฉะนั้นขออนุญาตอวยพรให้ทุกท่านที่อยู่ทางนี้หรือรับชมอยู่มีความสุขมากๆมีความสว่างไสวในชีวิตมากๆถ้าใครรู้สึกเศร้าหมองอย่างไรก็ขอให้คนข้างๆช่วยเป็นแสงสว่างของกันและกันแฮปปี้ดิวาลี จากนั้นนายกฯเดินทางกลับ
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/yNJ5ZlHPTB8