เศรษฐกิจ
หุ้นไทยพุ่งแรง! ต่างชาติซื้อสุทธิ มากสุดในรอบ 1 ปี 9 เดือน รับปัจจัยบวก ครม.ใหม่-กองทุนรวมวายุภักษ์
โดย nattachat_c
6 ก.ย. 2567
92 views
วานนี้ 5 ก.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะการซื้อขายดัชนีหลักทรัพย์ (ดัชนีหุ้น) ประจำวันนี้ ว่า หุ้นเคลื่อนไหวในแดนบวก โดยเปิดตลาดภาคเช้าที่ระดับ 1,365.49 จุด ก่อนปิดตลาดภาคบ่ายที่ระดับ 1,404.28 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 38.79 จุด หรือบวก 2.84% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,406.49 จุด หรือขึ้นไปกว่า 41 จุดในช่วงบ่าย และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,371.49 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 81,733.55 ล้านบาท
โดยได้แรงสนับสนุนจากตัวหุ้นขนาดใหญ่ที่มีแรงเก็งกำไรเข้ามามากขึ้น หลังจากกระทรวงการคลัง จะออกหนังสือชี้ชวนกองทุนวายุภักษ์ เพื่อเสนอขายหน่วยลงทุนกองทุนรวมวายุภักษ์ 1 ประเภท ก. วงเงินรวม 1.5 แสนล้านบาท โดยเปิดให้ประชาชนรายย่อยจองซื้อได้ ในช่วงวันที่ 16-20 กันยายน 2567
เมื่อการจัดตั้งรัฐบาลชัดเจนและเกิดขึ้นเร็ว ทำให้ความคืบหน้ากองทุนวายุภักษ์ เดินหน้าได้รวดเร็วเช่นกัน ตลาดจึงตอบรับเชิงบวกด้วยการดันดัชนีดีดบวก แต่ในช่วงปลายสัปดาห์อาจมีความผันผวนจากการรายงานตัวเลขภาคการจ้างงานของสหรัฐฯ เชิงกลยุทธ์จึงเน้นกลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์จากปัจจัยในประเทศ ซึ่งมีการจ่ายปันผลสูง มีโอกาสเป็นเป้าหมายของกองทุนวายุภักษ์ด้วย
ซึ่งเมื่อนับตั้งแต่ 16 สิงหาคม 2567 ซึ่งเป็นวันที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้รับการโหวตเป็นนายกรัฐมนตรี จนถึงปัจจุบัน ตลาดหุ้นไทย +114.44 จุด
ทั้งนี้ การที่หุ้นไทยบวกหลายวัน บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า หลังจาก วันที่ 4 ก.ย. 67 มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม. “แพทองธาร 1” ลำดับถัดไปจะเป็นการถวายสัตย์ปฏิญาณ และสุดท้ายจะมีการเรียกประชุมครม.ใหม่ นัดพิเศษ เพื่อขอมตินโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภา คาดว่าจะอยู่ในช่วงวันที่ 10-12 ก.ย.67 ก่อนที่จะเริ่มเดินหน้าทำงานช่วงกลางเดือน ก.ย.นี้
ขณะที่ การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย พ.ศ. 2568 วาระที่ 2-3 ซึ่งจะ สิ้นสุดในวันที่ 5 ก.ย. 67 พรรคเพื่อไทยมั่นใจว่าโหวตผ่าน โดยคาดการณ์เสียง สนับสนุนไม่น่าจะต่ำกว่า 320 เสียง (ตามคะแนนเสียงพรรคร่วมรัฐบาล)
ภาวะดังกล่าวหนุนให้สุญญากาศทางการเมืองหายไป อีกทังรัฐบาลยังตุนงบประมาณ ไว้เต็มมือราว 3.5 แสนล้านบาท พร้อมหนุนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจระยะถัดไป เดินหน้าต่อ
ด้าน นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เร็วๆ นี้ กระทรวงการคลังจะออกหนังสือชี้ชวน เสนอขายหน่วยลงทุนกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ประเภท ก. วงเงินรวม 1.5 แสนล้านบาท โดยเปิดให้ประชาชนรายย่อยจองซื้อได้ ในช่วงวันที่ 16-20 ก.ย. 2567 และจากนั้นจะเปิดให้นักลงทุนสถาบัน จองซื้อได้ วันที่ 18-20 ก.ย. 2567
ทั้งนี้ จะทราบผลการจัดสรรหน่วยลงทุนในวันที่ 23 ก.ย.นี้ และกองทุนรวมวายุภักษ์จะเริ่มเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นไทยได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2567 เป็นต้นไป ด้านหน่วยลงทุนจะเข้าไปเทรดได้ไม่เกินวันที่ 10 ต.ค. 2567
“กองทุนรวมวายุภักษ์ จะเป็นหนึ่งปัจจัยทำให้ตลาดหุ้นกลับมาเป็นบวก เพราะตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. เม็ดเงินการลงทุนจะเข้าตลาดทุนกว่า 1.5 แสนล้านบาท”
สำหรับการลงทุนกองรวมทุนวายุภักษ์ หนึ่ง ประเภท ก. จะได้รับเงินปันผลในแต่ละปีตามอัตราผลตอบแทนที่เกิดขึ้นจริงของกองทุน แต่ไม่น้อยกว่าผลตอบแทนขั้นต่ำ และไม่เกินผลตอบแทนขั้นสูง โดยรายละเอียดเหล่านี้จะชี้แจงอยู่ในหนังสือชี้ชวนการลงทุน
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้กระทรวงการคลังได้แถลงรายละเอียดเบื้องต้น สำหรับหน่วยลงทุนประเภท ก. ว่า ระยะเวลาการลงทุนเบื้องต้นของหน่วยลงทุนประเภท ก. อยู่ที่ 10 ปี จะเสนอขายแก่นักลงทุนทั่วไป และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก. จะได้รับเงินปันผลในแต่ละปีตามอัตราผลตอบแทนที่เกิดขึ้นจริงของกองทุนฯ แต่ไม่น้อยกว่าอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำ และไม่เกินกว่าอัตราผลตอบแทนขั้นสูง ซึ่งจะเป็นอัตราคงที่ตลอด 10 ปี
นอกจากนี้ กองทุน จะมีกลไกคุ้มครองเงินลงทุนของหน่วยลงทุนประเภท ก. โดยจะมีสิทธิได้รับชำระคืนเงินลงทุนตามแนวทางการชำระคืนเงินลงทุนที่มีลักษณะเป็น water fall และมีการกำหนดสัดส่วนมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนฯ ต่อเงินลงทุนของหน่วยลงทุนประเภท ก. และมาตรการต่างๆ เพื่อคุ้มครองผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก. หากสัดส่วนดังกล่าวลดลง
ทั้งนี้ ปัจจุบันกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิกว่า 300,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 15 ภายหลังแปรสภาพกองทุนเมื่อปี 2556 โดยมีการลงทุนส่วนใหญ่ในตราสารทุนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และบางส่วนลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น
“ช่วงที่ผ่านมากระทรวงการคลังได้รับเงินปันผลจากกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง กว่า 40,000 ล้านบาท โดยกองทุนฯ มีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการกองทุน”
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/MXO7rbgnWj4