สื่อนอกเปิดใจสองสามีภรรยา ธุรกิจส่งออกทุเรียนผันชีวิตจนกลายเป็นเศรษฐี ขณะที่ตลาดจีนยังมีความต้องการสูง

(29 มิ.ย.) สำนักข่าวรอยเตอร์ส เปิดใจเจ้าของทุเรียน โอกาสทางธุรกิจความต้องการทุเรียนในตลาดของจีนยังเพิ่มมากขึ้น ผลักดันให้ธุรกิจทุเรียนของไทยทำสถิติสูงสุด ทำให้ชีวิตเกษตรกรพลิกผันจนกลายเป็นเศรษฐี

จากเดิมนั้นนางกาญจนาและนายอภิเชษฐ์ เมื่อ 29 ปีที่แล้วประกอบอาชีพช่างโรงงาน ส่วนนางกาญจนา เป็นคนขายผลไม้ แต่ทั้งคู่มองเห็นโอกาสในเรื่องของยอดขายทุเรียนจากจีนเพิ่มมากขึ้น และได้ผลกำไรอย่างงาม นายอภิเชษฐ์จึงลาออกจากงาน และตัดสินใจที่จะลงทุนเกี่ยวกับส่งออกทุเรียนอย่างเดียว

โดยเจ้าตัวบอกว่า “ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ เมื่อก่อนตอนเราขายส่ง เราได้วันละ 100 ถึง 5,000 บาท (ประมาณ 2.70 ถึง 136 ดอลลาร์สหรัฐ) พอเราย้ายไปตลาดใหญ่ เราก็หาเงินได้ 100,000 บาท (ประมาณ 2,700 ดอลลาร์สหรัฐ) หลังจากสร้างธุรกิจส่งออกของเราเองแล้ว ทำให้เราก็มีรายได้ไม่เพียงแค่ล้านบาท แต่เป็นหลายร้อยล้านบาทแล้ว”

นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่าแปลกใจมากในช่วงโควิด เพราะว่ายอดความต้องการรทุเรียนในจีนยังคงเพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย

ตอนนี้เองก็มีการแช่แข็งทุเรียนเกรดพรีเมียมเพื่อการส่งออก ช่วยในเรื่องของยืดอายุการเก็บรักษาของทุเรียนไว้ได้ โดยที่อุณหภูมิ - 40 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 12 ชั่วโมงก่อนที่จะจัดส่ง

ทั้งนี้ รายงานจากรอยเตอร์สระบุว่า ในปี 2566 การส่งออกทุเรียนจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปยังจีนนั้น มีมูลค่า 6.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมากกว่าปี 2560 ถึง 12 เท่า และในปีนี้ไทยเองก็ได้ส่งออกไปแล้วถึง 2.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐไปยังจีน โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 3-4 เลยทีเดียว โดยสาเหตุหลักอีกประการหนึ่งคือช่องทางการขนส่งทุเรียนที่เพิ่มขึ้น ทั้งรถบรรทุก เรือ เครื่องบิน และรถไฟความเร็วสูงที่เพิ่งสร้างใหม่

อย่างไรก็ตาม ผู้ส่งออกของไทยคาดการเติบโตอีกในอีก 5 ปีข้างหน้า เนื่องจากทุเรียนจะเข้าสู่เมืองรองของจีน แม้จะมีคู่แข่งรายอื่นเพิ่มมาด้วยไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม แต่เกษตรกรไทยก็มั่นใจในผลผลิต ในเรื่องการปลูกทุเรียนที่มีเนื้อสัมผัสและรสชาติที่เหมาะสม

นายอภิเชษฐ์ยังบอกอีกว่า ผมรู้สึกตื่นเต้นกับการขยายตัวของตลาดทุเรียนในอนาคต เพราะผู้บริโภคชาวจีนหลงรัก "ราชาแห่งผลไม้" มากขึ้น