เศรษฐกิจ

ย้ายเงินไม่ทันแล้ว! เคาะเงื่อนไขแจกเงินดิจิทัล นับยอดเงินฝากในบัญชี ไม่เกิน 5 แสน ตั้งแต่ 31 มี.ค.67

โดย thichaphat_d

9 พ.ค. 2567

1.5K views

เมื่อวานนี้ (8 พ.ค.67) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้า โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ว่า

ที่ประชุมคณะอนุกรรมการกำกับการดำเนินโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ท ได้เชิญหน่วยงานด้านไซเบอร์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาหารือเรื่องการจัดทำระบบการเติมเงินผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เช่น การกำหนดเงื่อนไข การยืนยันตัวตน การตัดเงินฝากในบัญชี การเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างกรมสรรพากร กรมการปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงข้อจำกัดทางด้านกฎหมาย ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการจัดทำระบบดิจิทัลวอลเล็ต เพราะเป็นประเด็นที่หลายฝ่ายกังวล แต่จะเร่งหาข้อสรุปในสัปดาห์หน้า

โดยที่ประชุมคณะอนุกรรมการฯ  มีมติเห็นชอบการกำหนดรายละเอียดเกณฑ์ผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการ ดัง

1. กำหนดเงื่อนไขผู้เข้าร่วมโครงการ ต้องมีอายุ 16 ปีบริบูรณ์ ภายในวันที่ 30 กันยายน 2567 ซึ่งจะเป็นวันสุดท้ายของการลงทะเบียน

2. กำหนดเงื่อนไขเงินฝากรวมทุกบัญชี ไม่เกิน 5 แสนบาท  นับเฉพาะเงินฝากสกุลบาท รวมกันทุกบัญชี ทั้งในส่วนของธนาคารพาณิชย์ และธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ อาทิ บัญชีเงินฝากประจำ บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ บัตรเงินฝาก ใบรับเงินฝาก เงินฝากกระแสรายวัน แต่ไม่นับรวมสลากออมทรัพย์ สลากออมสิน เป็นต้น  โดยจะตัดยอดเงินตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2567

3. เกณฑ์รายได้วัดจากฐานข้อมูลเงินได้ของกรมสรรพากร ณ ปี 2566 ซึ่งสิ้นสุดไปแล้วเมื่อ 31 ธันวาคม 2566 ซึ่งกำหนดว่าจะต้องไม่เกิน 840,000 บาท

4. การลงทะเบียนจะเริ่มต้นภายในไตรมาส 3

5. เกณฑ์ซื้อสินค้า ยังเป็นสินค้ากลุ่มเดิม ยกเว้นบริการและสินค้าต้องห้าม

6. เกณฑ์ร้านค้าขนาดเล็ก ยังเป็นเหมือนเดิม เข้าร่วมได้ทั้งนิติบุคคล และบุคคลธรรมดา ยกเว้น ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต

ส่วนการลงทะเบียนจะใช้แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ซึ่งเป็นแอปฯ ของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เป็นตัวเชื่อมข้อมูลต่างๆ ในโครงการฯ  อีกทั้ง ยังหารือเรื่องระบบ โดยจะใช้แอป “ทางรัฐ” ในการใช้จ่ายโครงการ  ซึ่งจะต้องให้ละเอียดเพื่อให้ประชาชนที่สามารถเข้ามาใช้ได้อย่างเข้าใจ ไม่เป็นอุปสรรค รวมทั้งยังมีการหารือเรื่องข้อมูล ตามตรวจสอบโครงการ

สำหรับการลงทะเบียนร้านค้าต่างๆ และประเภทสินค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ยังคงเป็นเงื่อนไขเดิม ตามมติคณะรัฐมนตรี  เป็นร้านค้าขนาดเล็ก ทั้งนิติบุคคล และบุคคลธรรมดา ยกเว้นซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต ขณะที่การเปิดรับลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการยืนยันว่ายังคงเป็นในช่วงไตรมาส 3 แต่ยังไม่มีการกำหนดวันที่ชัดเจน

ทั้งนี้ การประชุมวันนี้ มีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลังคนใหม่ เข้าร่วมการประชุมด้วย  


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/Jk8kk8-vu9s

คุณอาจสนใจ

Related News