เศรษฐกิจ

'เศรษฐา' ยันไม่ได้กดดันแบงก์ชาติ แค่สะท้อนความต้องการ ปชช. - 'ภูมิธรรม' อัดสื่อ อคติต่อ 'อุ๊งอิ๊ง'

โดย nattachat_c

6 พ.ค. 2567

19 views

วานนี้ (5 พ.ค. 67) ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 กองทัพอากาศ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกระฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงธนาคารแห่งประเทศไทย บนเวทีงาน '10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10 'จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อโซเชียล ว่า


ตนคิดว่าหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ลงพื้นที่พบปะประชาชน ทุกคนปฏิเสธไม่ได้ เรื่องภาวะดอกเบี้ยสูง ที่เป็นประเด็นสำคัญ ทำให้รายจ่ายของประชาชนเดือดร้อน ตนมองว่าเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนมากกว่า และเข้าใจในความเป็นอิสระของธนาคารแห่งประเทศไทย เราพยายามทำงานร่วมกัน ผมมั่นใจ และผมก็ให้เกียรติธนาคารแห่งประเทศไทย


”เวลามีข้อเรียกร้อง ผมก็ร้อง เวลามีการพูดคุย ผมก็คุย ไม่ว่าจะเรื่องอัตราดอกเบึ้ยที่ต้องลดลงมา ตนพูดตลอด ไม่ได้ปฏิเสธตรงนี้ แต่ท่านก็มีเหตุผลของท่าน ผมก็เดินหน้าของผม ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยกับ 4 ธนาคารใหญ่ ที่ลดดอกเบี้ยลงมา นี่คือการยึดโยงกับประชาชนมากกว่า“


“ความเห็นที่แตกต่างก็ชัดเจน เรามีหน้าที่อะไรก็ทำต่อไป ไม่ว่าการแก้ไขหนี้นอกระบบ การลดดอกเบี้ย การลดแค่หนึ่งสลึง หรือหนึ่งบาท ก็มีส่วนช่วยประชาชน รวมทั้งหนี้นอกระบบ เราก็ต้องแก้ไข เพราะเป็นเรื่องใหญ่ที่กัดกร่อนสังคมไทยมานาน ทำงานหนักก็ใช้หนี้ไม่พอ แล้วจะทำงานไปทำไม อาจจะกลายเป็นอาชญากร หรือพึ่งยาเสพติด ซึ่งก็กลายเป็นปัญหาเช่นกัน”


นายกฯ ย้ำอีกว่า พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้เหล่านี้อย่างมาก จะมีวิธีการสื่อสารที่แตกต่างออกไป แต่ตนเชื่อว่าจะยึดโยงกับประชาชนเป็นหลัก เอาความเดือดร้อนของประชาชนมาเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหา ยืนยันว่ารัฐบาลให้เกียรติทุกองค์กร


เมื่อถามว่า จะได้มีโอกาสพูดคุยผู้ว่าแบงก์ชาติหรือไม่ นายกฯ เผยว่า ถ้าเจอก็จะมีการพูดคุย แต่ผู้ว่าแบงก์ชาติบอกให้คุยผ่าน สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ตนจึงคิดว่าอาจจะต้องไปปรึกษา นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ว่าจะดำเนินการอย่างไรให้ดีขึ้น ยืนยันว่า เราจะทำงานกับทุกองค์กร ไม่สร้างความขัดแย้ง หากขัดแย้งกัน และประชาชนเดือดร้อน ก็ไม่ใช่เรื่องดี


ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ถ้าไม่เจอตัวปัญหาก็ไม่ได้แก้ไข นายกฯ ตอบทันทีว่า มีวิธีหลายอย่างที่เราสื่อสารกันได้


เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านมองว่าเวทีที่พรรคเพื่อไทยจัดเป็นการบีบผู้ว่าแบงก์ชาติ ให้เห็นด้วยกับพรรคเพื่อไทย นายกฯ ระบุว่า “ผมไม่เคยบีบอะไรใคร ไปฟังจากสปีชก็ได้ เราสะท้อนความต้องการของประชาชนว่า จะมีวิธีไหนที่สามารถแก้ไขปัญหาได้“

-------------------

กรุงเทพธุรกิจ ได้ประมวลข้อมูล 6 ธนาคารใหญ่ ที่ลดดอกเบี้ย 0.25% มีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางเข้าร่วม 640,000 บัญชี คิดเป็นเงินราว 4 แสนล้านบาท

-------------------

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงธนาคารแห่งประเทศไทย ว่า


“แบงก์ชาติ” ไม่ใช่องค์กร หรือสถาบันที่ที่ “ประชาชน”จะกล่าวถึงหรือ “วิพากษ์ วิจารณ์ ” หรือ“แตะต้อง” ไม่ได้


เจตจำนงพรรคเพื่อไทย ที่หัวหน้าพรรค นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้สื่อสารกับสังคมถึงกรณีแบงก์ชาติในวันประชุมของพรรคที่ผ่านมา


สำหรับผมคือการแสดงออกอย่างเปิดเผย จริงใจ และห่วงใย ที่แบงก์ชาติยังยืนยันที่จะตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้อย่างเดิม โดยไม่พิจารณาถึงผลกระทบด้านต่าง ๆ ซึ่งประชาชน (ที่เป็นลูกหนี้แบงก์ และประชาชนทั่ว ๆไป) กำลังเผชิญชีวิต ดิ้นรนอยู่ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจ ที่กำลังซ้ำเติมชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาอย่างแสนสาหัส


สื่อมวลชนเองก็รับรู้กระแสข่าวเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง ความคิดของคนในสังคมต่อประเด็นนี้ก็มีความหลากหลาย และประเด็นการตัดสินใจของแบงก์ชาติก็เป็นกระแสความเห็นต่างกันอย่างกว้างขวางในสังคม


ตนแปลกใจว่า ทำไมเมื่อหัวหน้าพรรคเพื่อไทยสะท้อนความคิดบ้าง จึงเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์ วิจารณ์ แบบมุ่งโจมตีด้วยอคติอย่างไร้เหตุผล


การแสดงความเห็นต่อกรณีแบงก์ชาติในวันประชุมของหัวหน้าพรรคเพื่อไทยที่ผ่านมา ผมเชื่อมั่นว่า หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกำลังทำหน้าที่สะท้อนความเห็นอย่างเปิดเผย ตรงไปตรงมาต่อแบงก์ชาติ ในฐานะที่องค์กรนี้เป็นหนึ่งในกลไกสำคัญของการพัฒนา และดูแลระบบเศรษฐกิจของประเทศ


ความเห็นดังกล่าวมีนัยยะที่สะท้อนถึงความห่วงใยต่อผลกระทบจากภาระทางเศรษฐกิจที่บีบคั้นชีวิตของประชาชนจำนวนมาก ซึ่งกำลังเดือดร้อน และแบกรับความยากลำบากอยู่


ท่าทีของการแสดงความคิดทางการเมืองของหัวหน้าพรรคเพื่อไทยจึงเป็นไปตามวิถีประชาธิปไตย และสำนึกความรับผิดชอบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน


อีกทั้ง ยังเป็นการนำเสนอในเวทีของพรรคการเมือง ประกอบด้วยกรรมการ และสมาชิกพรรค ที่ต่างต้องมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในการแสวงหาแนวทาง มาตรการ ทางเลือก เพื่อช่วยกันคิด และจัดการภาวะเศรษฐกิจของประเทศ


จึงเป็นสิทธิที่สามารถพูดได้ ออกความเห็นได้ และเป็นเรื่องที่พึงกระทำได้ ไม่ว่าจะในฐานะพลเมือง หรือหัวหน้าพรรคการเมืองที่มีความห่วงใยประชาชน ห่วงใยบ้านเมือง ผมเห็นว่าการแสดงความเห็นโดยสุจริตใจในครั้งนี้ จะเป็นการกระตุกให้สังคม และผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้ช่วยกันคิด ไตร่ตรองหาเหตุผล เพื่อให้เห็นทางออกมากขึ้น


ความเป็นจริง แบงก์ชาติไม่ใช่สถาบันที่อยู่เหนือการเมือง ไม่ใช่องค์กรที่ห้ามวิพากษ์วิจารณ์ ตรงข้าม แบงก์ชาติคือกลไกของระบบเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศ ที่ประชาชนทุกฝ่ายสามาถเข้าถึง และเสนอความคิดเห็นได้


แม้จะมีขอบเขตหน้าที่หลักทางเศรษฐกิจ ก็ไม่ได้หมายความว่าแบงก์ชาติไม่ข้องเกี่ยวกับการเมือง และชีวิตของประชาชน


การที่ประชาชนทั่วไป หรือพรรคการเมืองกล่าวถึงแบงก์ชาติ หรือวิพากษ์วิจารณ์ เสนอความเห็นต่อแบงก์ชาติ ก็ ไม่ใช่การแทรกแซง แต่เป็นการเสนอเพื่อให้มุมมองทางเลือกอื่น ๆ ที่เหมาะสมมากกว่าบริบทสถานการณ์ที่เป็นอยู่


การที่สื่อบางบุคคล หรือบางสำนัก มีอคติต่อพรรคเพื่อไทย และนำความเห็นบางส่วนของหัวหน้าพรรคมาวิพากษ์อย่างรุนแรง และขยายความตามอคติของตน บวกด้วยการใส่สีตีข่าว เป็นการทำข่าวด้วยอคติมากกว่าการใช้ข้อเท็จจริง


ผมเฝ้ามองคนข่าว หรือสำนักข่าว บางคนบางส่วน ที่ยังติดยึดอยู่กับอคติเดิม แล้วใช้พื้นที่ข่าวของตน เป็นพื้นที่ละเลงอคติ และขยายความขัดแย้งอยู่เนือง ๆ ก่อและปั่นกระแสขัดแย้งในสังคม โดยไม่คำนึงถึงสิทธิ และความเป็นมนุษย์ ของบุคคลที่ตกเป็นข่าว


ผมขอยืนยันว่า กรณีแบงก์ชาติยังเป็นประเด็นที่สังคมยังสะท้อนความเห็น และสื่อสารกันได้ โดยใช้ความรู้ และปัญญาที่รอบด้าน มากกว่าการใช้จินตนาการที่มีแต่อคติ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับการขับเคลื่อนทั้งเศรษฐกิจ และสังคมโดยรวม

-----------------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/gEW7a1LFvaI

คุณอาจสนใจ

Related News