เศรษฐกิจ

'เศรษฐา' รับหนี้นอกระบบสูงเกินคาด - ลงทะเบียนแค่ 3 วัน ยอดพุ่ง 1,800 ล้าน กทม.ครองแชมป์

โดย nattachat_c

4 ธ.ค. 2566

62 views

วานนี้ 3 ธ.ค. 66 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์เรื่อง 'หนี้นอกระบบ' ภายหลังการเตะฟุตบอลกับทีมเยาวชนใน อ.สุวรรณคูหา ระหว่างลงพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู 


นายเศรษฐา กล่าวว่า หนี้นอกระบบก็รู้ว่ามีเยอะ แต่ไม่รู้ว่ามีเยอะขนาดนี้


เมื่อถามถึงกรณีการลงทะเบียนขอความช่วยเหลือเรื่องหนี้นอกระบบที่วันแรกตัวเลขพุ่งสูงกว่า 938 ล้านบาท นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ยังคงไปอีกไกล เพราะยังมีอีกเยอะมาก และประชาชนหลายพื้นที่อาจไม่ทราบการลงทะเบียน แต่คิดว่าหากเริ่มคิกออฟในวันที่ 8 ธ.ค. ที่จะเชิญทุกฝ่ายมาหารือร่วมกันก็คงจะเริ่มดำเนินการไปหาข้อมูลในแต่ละพื้นที่


ส่วนกรณีที่เจ้าหนี้ เรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือไกล่เกลี่ยเพราะถูกลูกหนี้หนีด้วยนั้น นายเศรษฐา ระบุว่า ก็ต้องนำตัวเลขมาดูกัน เพราะมีหลักฐานอยู่แล้ว ก็ต้องว่ากันตามกฏหมายแต่สิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องอัตราดอกเบี้ย เพราะต้องดูให้ดี ควรอยู่ในอัตราสูงสุดตามที่กฎหมายกำหนด หากเกินถือว่าผิดกฎหมาย พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลอยากให้ปัญหาดังกล่าวหมดไปจริงๆไม่ใช่ทำแค่สร้างภาพ และต้องอยู่อย่างหมดไปด้วย ไม่ใช่เดี๋ยวปัญหาเดิมก็กลับมา ทางนี้ยังไม่มีการตั้งเป้าเพราะยังไม่เห็นตัวเลข ต้องขอดูตัวเลขทั้งหมดก่อน เพราะขณะนี้ยังไม่เริ่มคิกออฟเลย


    ส่วนจะตั้งเกณฑ์ประเมินเรื่องการแก้ปัญหาหนี้ในแต่ละจังหวัดหรือไม่ นายเศรษฐา ระบุว่า เดี๋ยวจะต้องพูดคุยกันต่อไป เพราะต้องให้เกียรติหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะเขายังไม่ทราบถึงปัญหาว่าใหญ่ขนาดไหน

-----------

เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 3 ธันวาคม ที่ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี อ.เมือง จ.อุดรธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมตรวจติดตามผลการดําเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล และภารกิจสําคัญของกระทรวงมหาดไทย ได้มีการมอบนโยบาย การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอะไรไปบ้างว่า เรื่องนี้จะสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัด และสรรพากรจังหวัด ตนจึงได้ฝากไปแล้ว ซึ่งเรื่องหนี้นอกระบบที่มีการทารุณกรรมรุนแรง จะมาจากนายทุนที่ไม่ได้อยู่ในจังหวัด ส่วนในจังหวัดไม่มีการทำร้ายร่างกายกัน และเชื่อว่าทางผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้การฯ จังหวัดสามารถเคลียร์ได้


ในส่วนรายใหญ่ที่เรียกว่าหัวปิงปอง ตรงนี้การเมืองระดับชาติต้องลงมาช่วย เรื่องนี้สำคัญมาก แต่ตนฝากผู้ว่าราชการจังหวัดไว้ว่า การแก้หนี้นอกระบบที่สำคัญคือการแก้เรื่องหนี้เทียม ระหว่างผู้กู้กับผู้ให้กู้ร่วมกันหลอกเงินรัฐ เพราะเราเคยทำมาแล้วสมัยปี 2545-2546 ในสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ในส่วนหนี้นอกระบบเราก็หวังพึ่งพ่อเมือง


ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนเจ้าหนี้ที่มาจากนอกจังหวัด จะจัดการอย่างไร นายเกรียงกล่าวว่า ต้องยึดทรัพย์ถึงจะจัดการได้ ไม่อย่างนั้นพวกนี้จะไม่สลาย ส่วนพวกหัวปิงปองในแต่ละจังหวัดเขาไม่ซัดทอด แต่ในประเทศคนในวงการเขารู้กันว่าเป็นใคร


เมื่อถามว่า การแก้ปัญหานี้จะทำให้เข้าถึงตัวการเลยใช่หรือไม่ นายเกรียงกล่าวว่า แน่นอน เพราะนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เอาจริงเอาจังเรื่องนี้มาก อย่างที่เห็นว่าปีนี้นายกฯ มาอีสาน น้ำไม่ท่วม ทั้งที่ท่วมทุกปีมาตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งปีนี้ตอนที่นายกฯ มา ตนเป็นคนออกหน้างานจริง เป็นคนประสานให้อ่างเก็บน้ำไหนที่ล้นสั่งปล่อยหมด


“ปีนี้ภาคอีสานน้ำไม่ท่วมเพราะเราปล่อยน้ำทัน นายกฯ ลงพื้นที่จริง และเอาจริงเอาจัง เรื่องหนี้นอกระบบก็เช่นกัน เพราะนโยบายของรัฐบาลคือเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ขยายโอกาส ซึ่งหนี้นอกระบบเป็นรายจ่ายที่ไม่ควรจ่าย แต่ก็ต้องจ่าย”

--------------

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าการลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบ ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ 3 ของการเปิดรับลงทะเบียนว่า ข้อมูล ณ เมื่อเวลา 15.30 น. มีประชาชนลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ รวมทั้งสิ้น 45,564 ราย แบ่งเป็นการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ 44,264 ราย และการลงทะเบียน ณ ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ 1,300 ราย รวมจำนวนเจ้าหนี้ 23,214 ราย มูลหนี้ 1,863.065 ล้านบาท


โดยมีพื้นที่/จังหวัด 5 ลำดับแรกที่ลงทะเบียนมากที่สุด คือ 1.กรุงเทพฯ มีผู้ลงทะเบียน 2,969 ราย เจ้าหนี้ 1,779 ราย มูลหนี้ 161.817 ล้านบาท 2.สงขลา มีผู้ลงทะเบียน 1,938 ราย เจ้าหนี้ 1,033 ราย มูลหนี้ 87.356 ล้านบาท 3.นครศรีธรรมราช มีผู้ลงทะเบียน 1,838 ราย เจ้าหนี้ 994 ราย มูลหนี้ 61.174 ล้านบาท 4.นครราชสีมา มีผู้ลงทะเบียน 1,775 ราย เจ้าหนี้ 796 ราย มูลหนี้ 75.848 ล้านบาท 5.สมุทรปราการ มีผู้ลงทะเบียน 1,145 ราย เจ้าหนี้ 579 ราย มูลหนี้ 47.548 ล้านบาท


นานสุทธิพงษ์กล่าวว่า สำหรับจังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนน้อยที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ 1.แม่ฮ่องสอน มีผู้ลงทะเบียน 55 ราย เจ้าหนี้ 23 ราย มูลหนี้ 2.022 ล้านบาท 2.ระนอง มีผู้ลงทะเบียน 91 ราย เจ้าหนี้ 42 ราย มูลหนี้ 2.471 ล้านบาท 3.สมุทรสงคราม มีผู้ลงทะเบียน 132 ราย เจ้าหนี้ 88 ราย มูลหนี้ 4.743 ล้านบาท 4.ตราด มีผู้ลงทะเบียน 143 ราย เจ้าหนี้ 43 ราย มูลหนี้ 2.036 ล้านบาท 5.สิงห์บุรี มีผู้ลงทะเบียน 159 ราย เจ้าหนี้ 79 ราย มูลหนี้ 5.399 ล้านบาท


นายสุทธิพงษ์กล่าวอีกว่า ปัญหาหนี้นอกระบบเป็นปัญหาสำคัญ ที่รัฐบาลได้กำหนดเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องเร่งบูรณาการหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าฯ นายอำเภอ ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการในระดับพื้นที่ ได้เป็นผู้นำการบูรณาการหนุนเสริมให้พี่น้องประชาชนได้ดำรงชีวิตโดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “หลักการพึ่งพาตนเอง” มาใช้ในชีวิตประจำวันจนเป็นวิถีชีวิต เพื่อให้ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ทั้งการน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” การเลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ เลี้ยงกบ เลี้ยงปลา เพื่อที่จะได้มีความมั่นคงทางอาหาร ลดภาระค่าใช้จ่ายประจำวัน และยังทำให้ชีวิตมีความปลอดภัยจากอาหารที่ปลอดสารพิษด้วย


“สำหรับพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้นอกระบบยังคงสามารถลงทะเบียนเพื่อขอรับความช่วยเหลือจากภาครัฐ ผ่านระบบออนไลน์ https://debt.dopa.go.th หรือเดินทางไปลงทะเบียนด้วยตนเองที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ ณ ศาลากลางจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ และสำนักงานเขตของกรุงเทพมหานครทุกแห่งทั่วประเทศ ซึ่งข้อมูลที่ท่านได้ลงทะเบียนจะถูกรักษาไว้เป็นความลับ และสามารถขอรับคำปรึกษาและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567” นายสุทธิพงษ์ กล่าว

------------


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/3Rbl6_jefnI


คุณอาจสนใจ

Related News