'พีระพันธุ์' เตรียมลดราคาพลังงาน ชี้รัฐต้องยอมเสียสละ มั่นใจแถลงนโยบาย 11 ก.ย.นี้ ไม่มีปัญหา

วานนี้ (5 ก.ย. 66) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้สัมภาษณ์ภายหลังถวายสัตย์ปฏิญาณตนว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเน้นย้ำให้พวกเราให้ปฎิบัติหน้าที่ให้เต็มที่ บ้านเมืองเดินหน้า พี่น้องประชาชนมีความสุขร่มเย็น

เมื่อถามถึง การแก้ปัญหาเรื่องราคาพลังงาน ค่าน้ำ ค่าไฟ

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายที่จะปรับลดราคาพลังงาน เบื้องต้นโครงสร้างราคา มีทั้งส่วนที่อยู่นอกเหนือการควบคุม จะไปปรับลดตรงนั้นไม่ได้ กับส่วนที่ปรับลดได้ เชื่อว่า จะลดราคาพลังงานได้อย่างแน่นอน เพียงแต่รัฐก็ต้องยอมเสียสละในส่วนที่เคยได้อยู่ออกไป

เมื่อถามว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 12 กันยายน จะมีมาตรการบางส่วนที่นำเข้าสู่การพิจารณาหรือไม่

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า หลังการแถลงนโยบายในรัฐสภาเสร็จสิ้น การเรียกประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรกก็จะต้องมีนโยบายออกมา นายกรัฐมนตรีและ กระทรวงพลังงานมีการเตรียมการในเรื่องนี้ไว้แล้ว เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในลำดับแรกจะใช้โครงสร้างเดิมในการช่วยเหลือประชาชน

ส่วนจะจำเป็นต้องมีการกู้ยืมงบประมาณเพิ่มเติมหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะนำงบประมาณส่วนไหนมา ซึ่งจะต้องเป็นส่วนที่ดีที่สุดคุ้มค่าที่สุดและเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง พยายามหาทางลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน และไม่ใช่การสร้างอุปสรรคในการประกอบธุรกิจ หรือการดำรงชีวิตของประชาชนต้องเป็นรัฐบาลที่สร้างการสนับสนุนให้เอกชนเดินหน้าต่อไปได้ในทุกเรื่อง

นายพีระพันธุ์ กล่าวถึงการแถลงนโยบายในวันที่ 11 กันยายนนี้ว่า ไม่มีปัญหา ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐมีประเด็นหลักๆ เช่น การป้องกันการทุจริตประพฤติมิชอบ, เรื่องของสถาบัน, ความไม่เป็นธรรม, กฎหมายที่เป็นอุปสรรคในการดำรงชีวิต, กฎหมายเกี่ยวกับพลังงาน ซึ่งโชคดีที่มีนโยบายตรงกับนายกรัฐมนตรีทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี และรวดเร็วมากขึ้น

--------------
สถานะกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 3 ก.ย. 2566 ติดลบ 57,132 ล้านบาท แบ่งเป็น

• บัญชีน้ำมันติดลบ 12,390 ล้านบาท
• บัญชีก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) หรือก๊าซหุงต้ม ติดลบ 44,742 ล้านบาท

--------------

สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ได้เสนอแนวทางการลดราคาพลังงาน 2 แนวทาง คือ

• การลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันลง เพื่อช่วยลดภาระกองทุน (ลดในกรอบ 2-5 บาทต่อลิตร)
• ใช้กลไกกองทุนน้ำมันฯอุดหนุน (ยังมีวงเงินกู้ เหลืออีกกว่า 5.5 หมื่นล้านบาท)
• การลดค่าการตลาด เป็นแนวทางที่ทำได้ยาก

โดยขณะนี้ กำลังรอนโยบาย จาก รมว.กระทรวงหลังงาน ว่า จะลดราคาดีเซลอย่างเดียว หรือลกราคาเบนซินควบคู่ไปด้วย

ส่วนแนวทางการลดค่าไฟฟ้า หากเจรจากับ กฟผ. เพื่อขอชะลอคืนหนี้ ค่าไฟฟ้างวดสุดท้ายของปีนี้ (ก.ย.-ธ.ค. 2566) จะอยู่ที่ 4.10-4.15 บาทต่อหน่วย

แต่หากชะลอหนี้ไม่ได้ รัฐบาลต้องใช้งบประมาณเข้ามาอุดหนุนอย่างน้อย 15,000 ล้านบาท ทำให้ค่าไฟเหลือ 4.25 บาทต่อหน่วย จากปัจจุบันเรียกเก็บอยู่ที่ 4.45 บาทต่อหน่วย

--------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/LZEYmis4tZk