เศรษฐกิจ

เปิดใจเจ้าของร้านหม้อไฟดัง - กรมพัฒน์ฯ แจงโทษหนัก ต่างชาติถือวีซ่าท่องเที่ยว ทำธุรกิจในไทย

โดย passamon_a

16 ม.ค. 2566

415 views

จากกรณีที่ร้านหม้อไฟคือร้าน อาม่งหม่าล่า หม้อไฟ โพสต์ตั้งคำถามว่า #whatshappeninginthailand เนื้อหาระบุทำนองว่า กฎหมายไทยเอื้อประโยชน์ต่างชาติ ทำร้านค้าย่านเยาวราช-สำเพ็ง จากเดิมที่เป็นร้านของคนไทยเชื้อสายจีน ตอนนี้เปลี่ยนมือเป็นของคนจีนแท้ ๆ เกือบหมด


ทีมข่าวได้พูดคุยกับเจ้าของร้าน ซึ่งเป็นคนไทยแท้คือ นางสาวทอฝัน บัวคอม ซึ่งเธอทำร้านนี้มาแล้วกว่า 4 ปี ทำร่วมกับแฟนหนุ่มซึ่งเป็นคนไทยเชื้อสายจีน


คุณทอฝัน เล่าถึงที่ไปที่มาของการโพสต์ข้อความดังกล่าวว่า มีความรู้สึกมาตั้งแต่ก่อนช่วงโควิดระบาดแล้วว่า วัตถุประสงค์ที่คนจีนเข้ามา เข้ามาเพื่อลงทุน แต่เป็นการลงทุนที่ผิดวัตถุประสงค์ของวีซ่าที่เข้ามา ซึ่งตนเคยพูดคุยประเด็นนี้เฉพาะในกลุ่มเพื่อน แต่มองว่าไม่เป็นกระบอกเสียงมากพอจึงได้โพสต์ผ่านเพจของร้าน


อีกอย่างหลังจากสถานการณ์โควิดเริ่มดีขึ้น เริ่มมีการเปิดประเทศให้ต่างชาติเข้ามา ทำให้รู้สึกว่าวิกฤตที่เคยมีมาก่อนหน้านี้ทวีคูณเพิ่มมากขึ้น จึงตัดสินใจโพสต์ออกมา ซึ่งคุณทอฝัน อธิบายถึงคำว่าวิกฤตที่ตนหมายถึง  คือ การมาลงทุนในประเทศไทยนั้นเหมือนกับเหรียญสองด้าน และมองว่าการทำแบบนี้เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นเท่านั้น แต่ในการที่ต่างชาติเข้ามาในรูปแบบวีซ่าท่องเที่ยว แบ่งได้ 2 อย่างคือ อยากมาท่องเที่ยวจริง ๆ แต่คนที่อยากเข้ามาเพื่อลงทุน ทำธุรกิจกลุ่มนี้ ส่วนตัวมองว่าเข้ามาค่อนข้างเยอะเช่นเดียวกัน


เมื่อถามว่าการที่ต่างชาติเข้ามาลงทุนทำธุรกิจที่ไทย เป็นการแย่งอาชีพของคนในประเทศหรือไม่ คุณทอฝันกล่าวว่า มองว่าเป็นการเพิ่มคู่แข่งทางการค้ามากกว่า โดยที่คนไทยจะเสียเปรียบทางการค้า เพราะคนไทย เป็นพลเมืองไทยต้องเสียภาษี แต่หากต่างชาติเข้ามาด้วยวีซ่าที่ถูกกฎหมายก็ต้องเสียภาษีเช่นกัน ซึ่งตนมองว่าเป็นการต่อสู้ทางการค้าที่เป็นธรรม แต่พอเข้ามาด้วยวีซ่าที่ไม่ถูกต้อง ส่งผลให้ไม่ต้องเสียอะไรเลย เมื่อหมดวีซ่าท่องเที่ยวเค้าก็กลับประเทศแล้วกลับมาใหม่ ก็หมุนเวียนวนลูปอยู่เช่นนี้ แล้วก็หานอมินีมาเป็นตัวแทนในการดำเนินการเรื่องธุรกิจและดำเนินการเรื่องเอกสาร มองว่าคนไทยเสียเปรียบตรงนี้


ทั้งนี้ คุณทอฝันมองว่า กฎหมายมีส่วนที่เอื้อต่อต่างชาติและมีช่องโหว่ทางกฎหมาย ไม่รัดกุม วัตถุประสงค์ที่เข้ามา ไม่มีการตรวจสอบเลย และไม่ใช่เพียงแค่ร้านอาหาร แต่รวมถึงร้านอื่น ๆ ด้วย เช่น ร้านค้าขาย ร้านค้าส่ง ในสำเพ็งและเยาวราช เต็มไปด้วยคนจีนในทุกวันนี้


ส่วนยอดขาย คุณทอฝัน กล่าวว่า ช่วงโควิดที่ไม่มีคู่แข่งทางธุรกิจแบบนี้ มองว่ายอดขายดีกว่า แต่เมื่อคนจีนเข้ามาก็จะมีการแข่งขันทางการค้าที่ดุเดือดมากขึ้น


เมื่อถามว่าอยากฝากอะไรถึงคนที่มีอำนาจในการจัดการเรื่องนี้หรือไม่ คุณทอฝัน ระบุว่า เนื่องจากว่าเราไม่สามารถห้ามให้ใครเข้าประเทศได้ เพราะบางมุมประเทศไทยก็ได้ประโยชน์ด้วย จึงอยากให้เปลี่ยนจุดนี้มาเป็นการสนับสนุนธุรกิจ SME ดีกว่า


ขณะที่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ชี้ ธุรกิจขายอาหารอยู่ในบัญชี 3 คนต่างด้าวจะประกอบธุรกิจขายอาหารหรือเครื่องดื่มได้ ต้องได้รับอนุญาตจากจากอธิบดีฯ โดยผ่านความเห็นชอบของบอร์ดการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวก่อน เร่งตรวจสอบหลังเกิดข้อกังวล คนจีนแห่เปิดร้านย่านเยาวราช เตือนถ้าพบคนไทยเป็นนอมีนี โทษจำคุก 3 ปี ปรับสูงสุด 1 ล้าน


เมื่อวันที่ 15 ม.ค.66 นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อมวลชนได้มีการนำเสนอข่าวว่าผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารย่านเยาวราช มีข้อกังวลประเด็นชาวจีนถือวีซ่านักท่องเที่ยวทำธุรกิจในไทย โดยระบุว่า กลุ่มชาวจีนรุ่นใหม่ที่มาลงทุนโดยใช้นอมินีหรือมีเพียงวีซ่านักท่องเที่ยวเข้ามาประกอบธุรกิจหลากหลายประเภทในย่านเยาวราช เช่น ร้านอาหาร ร้านค้าขาย ฯลฯ


ผลกระทบที่เกิดขึ้นคือ เม็ดเงินต่าง ๆ จะกระจายสู่ท้องถิ่นน้อยลง และผู้ประกอบการไทยจะประสบปัญหาในระยะยาว ขณะที่รูปแบบการใช้จ่ายจะใช้จ่ายผ่านระบบของจีนระหว่างคนจีนกับคนจีนด้วยกัน รวมถึงสามารถเปิดบัญชีได้ แต่ไม่ทราบว่าปลายทางของเงินจะกลับไปอยู่ที่ประเทศต้นทางของเขาหรือไม่ แต่ที่เห็นชัดคือ ไม่ต้องเสียภาษีเหมือนกับนักธุรกิจชาวไทย นั้น


สำหรับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 สรุปดังนี้


คนต่างด้าวจะประกอบธุรกิจขายอาหารหรือเครื่องดื่ม จะต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวก่อนจึงจะประกอบธุรกิจได้ เนื่องจากเป็นธุรกิจในบัญชีสาม (19) ท้ายพระราชบัญญัติฯ อย่างไรก็ตามกรมฯ มีมาตรการป้องปรามและตรวจการกระทำในลักษณะนอมินี ดังนี้


ขั้นตอนการจดทะเบียน กำหนดให้คนไทยที่ร่วมลงทุนในนิติบุคคลต้องแสดงหลักฐานที่ธนาคารออกให้ เพื่อรับรองหรือแสดงฐานะการเงินที่แสดงว่ามีทรัพย์สินเพียงพอที่จะลงทุนในนิติบุคคลได้


เมื่อจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลแล้ว จะตรวจสอบว่ามีการใช้คนไทยถือหุ้นแทนหรือกระทำการในลักษณะนอมินี เพื่อหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนประกอบธุรกิจควบคุมตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 หรือไม่ ซึ่งการตรวจสอบว่าบุคคลหรือนิติบุคคลใดกระทำความผิดตามกฎหมาย หรือการตรวจสอบว่าคนไทยให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน หรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าวเพื่อให้คนต่างด้าวสามารถประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนกฎหมายที่เข้าข่ายความผิดนอมินีนั้น ต้องปรากฏพฤติการณ์ที่ชัดเจนหรือหลักฐานเอกสารที่แสดงว่าคนไทยมีพฤติกรรมตั้งใจ ปกปิด อำพราง หรือมีการจัดทำเอกสารหลักฐานในลักษณะอำพรางในการให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน หรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าว


โดยเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงรวมทั้งพยานเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมาพิจารณาประกอบการตรวจสอบ ปัจจุบันกรมฯ ได้จัดทำเป็นแผนงานตรวจสอบประจำปี ซึ่งธุรกิจขายอาหารหรือเครื่องดื่มเป็นหนึ่งในธุรกิจที่อยู่ในแผนงานตรวจสอบด้วย


กรณีที่มีการจดทะเบียนพาณิชย์เพื่อประกอบธุรกิจ (จดทะเบียนพาณิชย์ที่สำนักงานเขต กรุงเทพมหานคร เทศบาล หรือ อบต.ที่ร้านค้าตั้งอยู่) เป็นการจดทะเบียนการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบธุรกิจคนเดียว ซึ่งคนต่างชาติไม่สามารถจดทะเบียนพาณิชย์ได้ ที่ผ่านมา กรมฯ ได้ร่วมมือกับกระทรวงแรงงานในการลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจกลุ่มนี้ ซึ่งหากพบว่ามีคนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาตก็จะมีความผิดตามกฎหมายของกระทรวงแรงงานและของกระทรวงพาณิชย์ อีกทั้งหากพบคนไทยมีการจดทะเบียนพาณิชย์แทนคนต่างด้าวก็จะมีความผิดในลักษณะนอมินีด้วย


อย่างไรก็ตาม เนื่องจากประเด็นดังกล่าวเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานและกฎหมายหลายฉบับ กรมฯ จะบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นต่อไป


กรมฯ ขอเตือนคนไทยที่ถือหุ้นแทนคนต่างด้าวหรือร่วมเอาชื่อเข้าเป็นผู้ถือหุ้นโดยไม่ได้ลงทุนจริง หรือให้การสนับสนุนร่วมประกอบธุรกิจกับคนต่างด้าว โดยแสดงว่าเป็นธุรกิจของคนไทยเพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงกฎหมาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 - 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังมีโทษปรับรายวันอีกวันละ 10,000 - 50,000 บาท จนกว่าจะเลิกฝ่าฝืน


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/Tg6zEl8g5Zg

คุณอาจสนใจ

Related News