ไทยปิดดีลภาษีทรัมป์ 19% 'พิชัย' ชี้เจรจา 'พลังงาน-น้ำมัน-เครื่องบิน' จากสหรัฐฯ มากขึ้น

กรณีภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ที่หลายคนลุ้นกันก่อนวันเส้นตาย 1 ส.ค. ที่สุดแล้ว ไทยก็ปิดดีลสำเร็จที่ 19% ต่ำกว่าอัตราเดิม 36% และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ทั้ง เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 %

โดยอัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐฯ สำเร็จแล้วก่อนหน้านี้

ทั้งนี้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะหัวหน้าทีมเจรจาของไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ กับสรยุทธ สุทัศนะจินดา บอกว่า การประกาศอัตราภาษีที่ 19% อยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันได้ และ ยืนยันว่า ไทยไม่ได้เปิดเสรีการนำเข้าสินค้าให้กับสหรัฐในอัตรา 0% ทุกรายการ ซึ่งสินค้าที่เปิดให้นั้น บางรายการที่ไทยผลิตได้ แต่ยังไม่เพียงพอ จะมีระยะเวลาในการผ่อนปรนเพื่อให้ผู้ประกอบการไทยปรับตัวได้ด้วย เช่น ขอเวลา 5 ปีเพื่อปรับตัว หรือ ขอนำเข้าเป็นโควตา เป็นต้น

มีการเปิดเผยรายละเอียด เช่น กรณีของเนื้อหมู ยังต้องมีการหารือในรายละเอียดต่อไป หากจะดำเนินการ จะต้องมีกติกา โดยหากจะเปิดจะเป็นจำนวนที่น้อยมาก ซึ่งอาจจะต่ำกว่า 1% ในการนำเข้า รวมถึงตรวจที่มาของหมูด้วย

นายพิชัย บอกว่า สิ่งที่ไทยขาดแคลน คือ พลังงาน ประกอบด้วย น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ ดังนั้น ไทยจึงระบุว่า มีโอกาสที่จะซื้อพลังงานเพิ่มขึ้นจากสหรัฐฯ โดยจะพิจารณาจากสหรัฐฯ เป็นพิเศษ หรือ มีความเป็นไปได้ที่จะซื้อจากสหรัฐฯ 10% หรือ ถึง 1.2 แสนล้านบาร์เรล

นอกจากนี้สิ่งที่จะซื้อ คือ เครื่องบิน โดยสายการบินไทย ได้ตัดสินใจไประดับหนึ่งแล้วว่าจะซื้อโบอิ้ง โดยจะทยอยซื้อใน 5-10 ปี โดยมีความต้องการ 100 เครื่องบวกลบ

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/5DWKk5rw--E